รัฐหนุนธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล ผ่านโครงการ d-startup พาธุรกิจไทยเติบโตไกลสู่ระดับโลก

6 ม.ค.2667 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมุ่งวางรากฐานอุตสาหกรรมดิจิทัลให้ประเทศ รองรับการเติบโตของเทคโนโลยีในอนาคต โดยเฉพาะในภาคธุรกิจที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการและรูปแบบ เพื่อพัฒนาไปสู่นวัตกรรมสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ได้จัดทำโครงการ d-startup ระยะเริ่มต้น (Early Stage) S2 “พาธุรกิจไทย เติบโตไกลสู่ระดับโลก” ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เปิดรับสมัครบุคคลหรือนิติบุคคลเพื่อขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล พร้อมผลักดัน Digital Startup ของไทยให้มีศักยภาพการเติบโตเชิงธุรกิจ ครอบคลุมสายงานต่าง ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 8 สาขา ได้แก่ บริการภาครัฐ สุขภาพ ท่องเที่ยว การเกษตร การศึกษา การบริการ การเงิน และ เมืองอัจฉริยะ 7 ด้าน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ผ่านมา ดีป้าส่งเสริมธุรกิจ Digital Startup ของไทยแล้วจำนวน 160 ธุรกิจ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 15,000 ล้านบาท โดยในปี 2567 นี้ โครงการดังกล่าวดำเนินการภายใต้มาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนเพื่อการเริ่มต้นธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล (depa Digital Startup Fund) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดผลิตภัณฑ์หรือบริการดิจิทัลสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ ซึ่งดีป้าจะเป็นผู้พิจารณาผ่านกลไกสนับสนุนในรูปแบบ Angel Fund โดยกำหนดคุณสมบัติหลัก ดังนี้ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลในรูปแบบบริษัทจำกัด ที่จดทะเบียนจัดตั้งไม่เกิน 3 ปี ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมดิจิทัลตามเป้าหมาย 8 สาขา ได้แก่ บริการภาครัฐ สุขภาพ ท่องเที่ยว การเกษตร การศึกษา การบริการ การเงิน และ เมืองอัจฉริยะ 7 ด้าน วงเงินสนับสนุน สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท ต่อโครงการ โดยกำหนดเป้าหมายที่จำนวน 15 โครงการ

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถยื่นข้อเสนอโครงการเพื่อพิจารณาขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านระบบออนไลน์ที่ member.depa.or.th และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.depa.or.th/startup หรือ [email protected] เบอร์โทรศัพท์ 0 2026 2333 ต่อ 1128 1272 หรือ 1025 โดยสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567

“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำถึงการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ และให้ความสำคัญกับธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย ภาครัฐพร้อมสร้างพื้นที่ และโอกาสเพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงการสนับสนุนหรือแหล่งเงินทุนได้ โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ ของสตาร์ทอัพไทย เชื่อว่าการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจและสังคม และสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์ สร้างแต้มต่อของขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ในอนาคต” นายชัย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกรัฐบาล เผยปี 2568 นายกฯอิ๊งค์ จะทำให้ประเทศไทยเจริญทุกตารางนิ้ว!

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของนอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ ในประเด็น “ท่านเห็นว่าบุคคลใดที่สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักการเมืองแห่งปี 2567 ” พบว่า ประชาชนชื่นชมและชื่นชอบ

เช็กที่นี่! ครม.ไฟเขียว 'ทางด่วนฟรี' ช่วงปีใหม่ รวม 8 วัน

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม กำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์)

รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย

รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่

ครม. อนุมัติสร้างทางด่วนยกระดับ บางขุนเทียน-บางบัวทอง คาดแล้วเสร็จปี 71

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน - บางบัวทอง ของกรมทางหลวงกระทรวงคมนาคม (โครงการ M9)

รัฐบาล ยกโพลสนง.สถิติแห่งชาติ ชี้ประชาชนร้อยละ 87 พอใจ 'แจกเงินหมื่น'

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างวันที่ 4 – 22 พ.ย.67 ดังนี้ 1.การสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. 2568

นายกฯ สั่งทีมโฆษกฯ ตีปี๊บผลงานรัฐบาล ลงพื้นที่น้ำท่วมใต้ขอถาม ครม.อังคารนี้ก่อน

นายกฯ มอบนโยบายทีมโฆษกรัฐบาล สั่งตีปี๊บผลงาน ผุดตั้งคกก.ศูนย์ภัยพิบัติ ดูแลปัญหาดินน้ำลมไฟ จะลงพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ ขอถามครม.พรุ่งนี้ก่อน