ส่งท้ายราตรีวันเพ็ญ 'ลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1,000 ดวง'

กระทงกะลา ลอยเป็นสาย ส่องสว่างทั่วแม่น้ำปิง

ถึงงานประเพณีลอยกระทงจะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่เราได้มีโอกาสเดินทางไป จ.ตาก เที่ยวชมงานประเพณีลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1,000 ดวง เป็นครั้งแรก ได้หอบหิ้วความประทับใจสุดตราตรึงกับความสวยงามของกระทงสายที่ไหลส่องแสงสว่างทั่วแม่น้ำปิงในคืนเดือนเพ็ญ ที่งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงการโชว์เพียงอัตลักษณ์ของชาวเมืองตากเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมที่ถูกส่งต่อรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย

ประเพณีลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1,000 ดวง จ.ตาก  เป็นงานประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีความโดดเด่น แตกต่างจากการลอยกระทงจังหวัดอื่นๆ ที่มีการนำหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ภูมิปัญญาชาวบ้านและงานศิลปวัฒนธรรม มาหล่อหลอมรวมกัน และเป็นการแสดงการคารวะแม่น้ำปิง มีการทอดผ้าป่าน้ำ คล้ายๆ การบังสุกุลกรวดน้ำ อุทิศบุญกุศล ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ผู้มีพระคุณ สืบทอดมาเกือบร้อยปี

กองเชียร์ทั้งบนเวที และบนฝั่ง ให้กำลังใจผู้แล่อยกระทงสาย

จากเดิมก่อนที่จะมาเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000  ดวง นั้นการนำเอากระทงกะลามาลอยเป็นสายจะเป็นเพียงการสาธิตการลอยเท่านั้น โดยกระทงจะทำมาจาก กะลามะพร้าว เนื่องมาจากชาวเมืองตากมีการนำเอามะพร้าวมาแปรรูปทำเป็นอาหารว่างที่เรียกว่า “เมี่ยง” ถือเป็นอาหารว่างที่รับประทานเป็นประจำหลังอาหาร ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก คือ มะพร้าว ถั่วลิสง ใบเมี่ยงหมัก นอกจากทำเพื่อรับประทานกันเองภายในครอบครัวแล้ว ยังมีการนำมาขายเป็นอาหารพื้นเมืองและได้รับความนิยมในภาคเหนือโดยทั่วไป แต่ส่วนทำเมี่ยงจะใช้เนื้อมะพร้าวที่ขูด กะลามะพร้าวจึงถูกทิ้งจำนวนมาก ชาวบ้านจึงได้ทดลองนำกะลาด้านที่ไม่มีรูมาทำเป็นกระทง

การนั่งประจำที่ปล่อยกระทงสาย แถวเรียงหนึ่งตามท่าน้ำ 

โดยเอากะลามาขัดถูจนสะอาดตกแต่งลวดลายสวยงาม ภายในกะลาใส่ด้ายดิบที่ฝั่นเป็นรูปตีนกา ซึ่งมีตำนานเล่าขานจากผู้เฒ่าผู้แก่สีบทอดต่อกันมาหลายความเชื่อ หนึ่งในความเชื่อนั้นคือ กาเผือกสองผัวเมียที่ออกไข่มา 5 ฟอง เกิดเหตุการณ์ที่มำให้ไข่ทั้ง 5 ฟอง แตกออกมาเป็นเด็กทารก 5 คน คือ เณรน้อย ไก่ เต่า วัว และพญานาค ที่เคยมีวิบากกรรมร่วมกัน ทั้ง 5 ขอให้มีโอกาสได้พบพ่อแม่ด้วยเถิด หลังจากกาเผือกตายได้บอกว่า จงฟั่นด้ายเป็นรูปตีนกา แล้วลอยแม่น้ำคงคาไป ทั้ง 5 คน ก็ได้สำเร็จอรหันต์เป็นพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ด้วยเหตุนี้การลอยกระทงสายทุกครั้ง จึงมีการฟั่นด้ายเป็นรูปตีนกา เพื่อ บูชาแม่กาเผือกของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำสืบมาจนทุกวันนี้

การนั่งประจำที่ปล่อยกระทงสายแบบสองแถว ส่งกระทงต่อๆกัน 

หลังจากนั้นจะหล่อเทียนขี้ผึ้ง ซึ่งนำมาจากเทียนจำนำพรรษาที่พระสงฆ์จุดเพื่อทำพิธีสวดมนต์ในโบสถ์วิหารตลอดสามเดือน หลังจากออกพรรษาชาวบ้านจะนำเทียนขี้ผึ้งเหล่านั้นมาหล่อใส่ในกะลา ซึ่งถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิริมงคลแก่ผู้นำไปลอยก่อนที่จะปล่อยลงลอยในแม่น้ำปิง

ต่อมาจึงได้มีการพัฒนาการลอยมาเป็นการแข่งขันกันอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 จนเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง ประจำทุกปีจวบจนปัจจุบัน โดยหลายๆชุมชน และสถาบันการศึกษา จะรวมตัวกันเป็นทีม จัดทำกระทงกะลา สร้างสรรค์การแสดง เป็นรูปแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดตากที่ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทีมชนะจะได้รับพระมหากรุณาชิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานถ้วยรางวัลในการแข่งขันเป็นประจำทุกปี

กระทงสายสว่างทั่วแม่น้ำปิง

ประเพณีลอยกระทงสายจึงเป็นความภาคภูมิใจของคนจังหวัดตาก ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีเดียวในประเทศไทย หรือแห่งเดียวในโลก ซึ่งเราได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวงานลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1,000 ดวง ในช่วงเย็นของวันสุดท้าย ที่จะมีการแข่งขันลอยกระทงสายประจำทุกปี โดยในปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 4 สาย  เพื่อประชันความงดงามของกระทงสาย และความสามัคคีในการนำกระทงกะลาลงลอยในแม่น้ำปิง สร้างความตื่นตาตื่นใจ และกลายเป็นสีสันของงานลอยกระทงที่นี่

กระทงปิดท้าย สัญลักษณ์สิ้นสุดการปล่อยกระทงสาย

ก่อนที่จะถึงเวลาแข่งขันกระทงสาย บริเวณเดียวกันมีสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือสะพานแขวน ที่ทอดยาวพาดข้ามแม่น้ำปิง ระหว่างฝั่งเทศบาลเมืองตาก และตำบลป่ามะม่วง ยิ่งในช่วงโพล้เพล้แบบนี้ แสงยามเย็นเมื่อพระอาทิตย์สะท้อนระยิบระยับกับผิวแม่น้ำปิงดูสวยงาม เดินสะพานรับลมเย็นๆ ชมพระอาทิตย์ตกเพลินๆ

อุปกรณ์ทำกระทงสาย กะลา เทียน และด้าย

จากสายน้ำที่ว่างเปล่า แสงเทียนจากกระทงก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น เพราะชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยนำกระทงมาลอยกันตามท่าน้ำที่ทางผู้จัดงานได้จัดเตรียมไว้ให้ หากไม่มีกระทงตามระหว่างทางภายในงานก็มีกระทงมาจำหน่าย ทั้งกระทงกะลาแบบดั้งเดิม และแบบสมัยใหม่ที่มีการตกแต่งลวดลายให้กะลาดูสวยงามยิ่งขึ้น กระทงใบตอง กระทงจากขนมปัง และกระทงรูปแบบอื่นๆ ให้เลือกได้ตามต้องการเลย

.กระทงกะลารูปแบบใหม่สวยงาม

อีกกิจกรรมเมื่อมาลอยกระทงที่นี่แล้วต้องทำ คือ การวัดวาและตามประทีป โดยจะนำสายสิญจน์มาวัดเท่ากับขนาดตัวจากปลายนิ้วแขนซ้ายจรดปลายนิ้วแขนขวา และสายสิญจน์ที่พันรอบศีรษะมามัดต่อกัน ชุบกับน้ำมันมะพร้าว นำไปพาดกับราวไม้ จากนั้นจุดไฟที่สายสิญจน์แล้วอธิฐาน ซึ่งจะนิยมทำในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี เพราะมีความเชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา เสริมดวงชะตาทำแล้วจะทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง

ด้ายดิบที่ฟั่นเป็นรูปตีนกา

เสียงโฮเชียร์ดังขึ้นเป็นสัญญาณใกล้ถึงเวลาแข่งขันกระทงสาย เหล่าชาวบ้านหลายร้อยคนที่มาเที่ยวงานลอยกระทง และตั้งใจมาดูการแข่งขัน ก็ต่างมามุงที่ขอบน้ำ ผู้เข้าแข่งขันที่เป็นตัวแทนขุมชนปล่อยกระทงสายนั่งประจำที่ ยกตะกร้าที่ใส่กระทงกะลา 1,000 ใบ จุดไฟพร้อมไปลงแม่น้ำ สิ้นสุดเสียงพิธีกร เริ่มการแสดงที่เปรียบเสมือนเป็นเชียร์อัพ กระทงนำขนาดใหญ่ที่จัดทำอย่างสวยงามถูกปล่อยเป็นอันดับแรก ตามด้วยกระทงกะลา ทำให้ดูเป็นสายอย่างต่อเนื่อง จนสุดสายตา ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องน้ำ

กระทงกะลาหาซื้อได้ภายในงาน ตกแต่งหลากสีสัน

แต่ปีนี้ชาวบ้านที่มานั่งให้กำลังใจบอกว่า น้ำแรงมาก ทำให้กระทงไม่ค่อยเป็นสาย ซึ่งเป็นความท้าทายที่ผู้ปล่อยกระทงกะลาจะต้องวางกลยุทธ์ในการปล่อยเพื่อให้เป็นสายมากที่สุดอีกด้วย

กระทงกะลาแบบดั้งเดิม

การแสดงที่ปลุกเร้าอารมณ์ เหล่ากองเชียร์บนบกก็ส่งกำลังใจทั้งปรบมือ ส่งเสียงกรี๊ด เราสังเกตใบหน้าแต่ละคนที่นั่งเชียร์ติดขอบแม่น้ำ เปื้นด้วยรอยยิ้ม แววตาที่เบิกโต เหมือนลุ้นอยู่ตลอดเวลา ดูพวกเขาจะภูมิใจในการแข่งขันไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เพราะทุกคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมเป็นทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหน้า และเบื้องหลัง ในความสำเร็จครั้งนี้

ประชาชนพากันมาลอยกระทงกันอย่างหนาแน่น 

สำหรับการลอยกระทงกะลา หรือประทีปซึ่งประกอบด้วยกระทงนำ เป็นกระทงขนาดใหญ่ ประดิษฐ์ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยใบตอง ดอกไม้สดที่เย็บเป็นรูปแบบต่างๆ แล้วจึงนำมาประกอบเป็นรูปกระทง ภายในกระทงต้องมีผ้าสบง เครื่องกระยาบวช หมากพลู ขนม สตางค์ รูปเทียน ฯลฯ ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ได้ประยุกต์มาจากแพผ้าป่าน้ำในสมัยโบราณ  ตามด้วยกระทงกะลา ที่ใช้กะลามะพร้าวจำนวน 1,000 ใบ นำมาขัดถูให้สะอาด ทั้งภายในและภายนอก ตกแต่งลวดลายอย่างสวยงาม ภายในกะลาใส่ด้ายดิบ ที่ฟั่นเป็นรูปตีนกา แล้วหล่อด้วยเทียนขี้ผึ้งซึ่งนำมาจากเทียนจำนำพรรษา ชาวบ้านจะนำเทียนเหล่านั้นมาหลอมละลายด้วยความร้อนกล่อลงในกะลา ที่มีด้ายรูปตีนกาสำหรับเป็นเชื้อเพลิงจุดไฟก่อนที่จะปล่อยลงลอย

อธิฐานก่อนปล่อยกระทงลงสู่แม่น้ำ

และกระทงปิดท้าย มีลักษณะคล้ายกระทงนำแต่มีขนาดเล็กกว่า ประดิษฐ์ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยใบตองและดอกไม้สด ลอยปิดท้ายหลังจากลอยกระทงกะลาครบ 1,000 ใบ พร้อมทั้งมีสัญลักษณ์ให้ทราบว่าได้สิ้นสุดการลอยของสายกระทงนั้นแล้ว

อีกส่วนที่สร้างความสนุกสนานที่ขาดไม่ได้เลย คือ การเชียร์ ในขณะที่ทำการลอยกระทงสายอยู่นั้นจะมีกองเชียร์ร่วม ร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนานครื้นเครง เป็นการให้กำลังใจแก่ผู้ที่ทำการลอย เพลงที่นำมาร้องมีเนื้อหาสอดคล้องกับประเพณีไทยหรือวิถีชีวิตของชุมชน ดนตรีที่นำมาบรรเลงต้องใช้เครื่องดนตรีไทยทั้งหมดและจะต้องใช้กะลาเป็นส่วนประกอบของการแสดงอย่างน้อย 1 ชุด ซึ่งการแสดงทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

ประชาชนที่มาร่วมงานลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1,000 ดวง

สิ้นสุดการปล่อยกระทงปิดท้ายของสายที่ 4 ก็มีการประกาศผลสายที่ชนะเลิศคือ สายที่ 2 จากชุมชนปทุมคีรี ชุมชนดอยคีรี ชุมชนเด่นสน ชุมชนหัวเดียด และโรงเรียนตากพิทยาคม อย่างไรก็การแข่งขันเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ ชุมชนที่ตากได้สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่ามาจวบจนปัจจุบัน และเป็นความสวยงามหนึ่งเดียวที่เราจะได้ชมกันเป็นประจำทุกปี

ไฟประดับดาตลอดเส้นทางจัดงาน ผู้คนเนื่องแน่น 

. กระทงจากประชาชนที่มาร่วมงานค่อยไหลๆไปนามสายน้ำปิง 
ชมพระอาทิตย์ตกที่ สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สรุปผลเลือกตั้ง นายก อบจ.ตาก ’อัจฉรา’ สะใภ้บ้านใหญ่ กวาด 98,601 คะแนน ชนะคู่แข่ง

นางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ หรือ รองจอย ได้รับชัยชนะและได้เป็น นายก.อบจ.ตาก คนใหม่ แทนนายณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกูลกิจ  อดีต นายก.อบจ.ตาก ซึ่งเป็นพ่อสามี

ผู้การฯตาก สั่งเด้ง ‘ผกก.อุ้มผาง’ ช่วยราชการ ศปก.ภาค 6 เซ่นบึ้มงานกาชาดอุ้มผาง

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ 0021(ตก.)11./6186 หนังสือตำรวจภูธรภาค 6 ที่ 0021.112/11809

แม่สอด ‘ฉก.ราชมนู’  สกัดจับกลางดึก แอบลักลอบนำเข้าโคเพศผู้ผิด กม. 18 ตัว

ผู้บังคับการทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ( ฉก.ราชมนู) สั่งการให้ ทหาร ฉก.ราชมนู  โดย ร้อย.ร.433  ออกลาดตระเวนและเฝ้าตรวจแนวชายแดนไทย-เมียนมา

'ดร.เอ้' เฉลยข้อสอบแล้ว ขนย้าย 'กากแคดเมียม' อย่างไรให้คนไทยไม่เสี่ยงตาย

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า เฉลยข้อสอบแล้ว How to ขนย้ายกากแคดเมี่ยมอย่างไรให้คนไทยไม่เสี่ยงตาย หลังรัฐบาลสอบตกยับทุกข้อ"