รถไฟ “สุดขอบฟ้า” เป็นรถไฟโดยสารต้นแบบ ผลงานจากการวิจัยและพัฒนาโดยทีมวิจัยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง( สจล.) ภายใต้โครงการวิจัย “การพัฒนารถไฟโดยสารต้นแบบ (รถไฟไทยทำ)” ด้วยทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ( บพข.) ภายใต้แผนงานกลุ่มระบบคมนาคมแห่งอนาคต ร่วมกับ กิจการร่วมค้า ไซโนเจน-ปิ่นเพชร จำกัด โดยมี รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. เป็นหัวหน้าโครงการ และมี การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เป็นผู้นำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เพื่อยกระดับการให้บริการทางรถไฟแก่ประชาชน ภายใต้เป้าหมายต้องการผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิตรถขนส่งทางรางด้วยหลักคิด “การพึ่งพาตนเอง”
รถไฟโดยสารต้นแบบนี้ได้รับการออกแบบและผลิตโดยคนไทย ใช้วัสดุและอุตสาหกรรมภายในประเทศ (local content) กว่า 44% ในการประกอบตู้รถไฟชนิด Luxury Class และ Super-Luxury ที่หรูหราและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ซึ่งได้รับแรงบรรดาลใจจากที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสบนเครื่องบิน เพื่อรองรับความต้องการใช้ตู้รถไฟโดยสารจากนี้ไปอีก 20 ปี ที่คาดว่าจะมีไม่น้อยกว่า 2,425 ตู้ ที่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของทางรถไฟที่รัฐได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีมูลค่าเฉลี่ยตู้ละ 50 ล้านบาท หรือมีมูลค่ารวม สำหรับตลาดการผลิตตู้รถไฟโดยสารประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยมีแผนการให้บริการรถไฟระยะกลาง ในแนวเส้นทางรถไฟรางคู่ระยะ 200-500 กิโลเมตร และรถไฟท่องเที่ยวในแนวเส้นทางของ รฟท. เพื่อแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำและรถยนต์ส่วนตัว
โดยตู้รถไฟที่ทีมวิจัยผลิตใช้ต้นทุนอยู่ที่ 32 ล้านบาท ซึ่งมีความคุ้มค่ามากกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ สามารถช่วยประเทศลดต้นทุนการนำเข้าตู้รถไฟจากต่างชาติได้ ไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่มหาศาล นอกจากนี้องค์ความรู้ และเทคโนโลยี ในการประกอบตู้รถไฟที่ได้จากโครงการจะถูกถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศ รวมทั้งนักศึกษา ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมขนส่งทางรางของไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไป
รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล จากสจล. กล่าวว่า เป้าหมายหลักของโครงการนี้คือการพัฒนารถไฟโดยสารต้นแบบด้วยการพึ่งพาอุตสาหกรรมในประเทศเป็นหลัก ตอบรับนโยบาย Thai First และนโยบายด้านการสนับสนุนส่งเสริมให้ใช้ผลิตภัณฑ์สินค้าที่ผลิตในประเท ศโดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบรางของประเทศ โดย “รถไฟสุดขอบฟ้า (Beyond Horizon)” เป็นรถไฟต้นแบบ ประกอบด้วยโครงสร้างตัวรถชนิดโครงข้อแข็งสามมิติ (Space Frame) ร่วมกับ โครงสร้างเปลือกบาง (Shell Elements) และระบบโครงสร้างเชื่อมต่อกับแคร่รถไฟ Bolster) ซึ่งมีกระบวนการออกแบบตามมาตรฐานสากล อาทิ EN, UIC, AAR และ ดำเนินการตามข้อกำหนดของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาทีมวิจัยได้มีการทดสมรรถนะ (Performance Tests) ต่อเนื่อง เช่น การทดสอบ Water Tightness Test และการ Running Test ในระยะทาง 700 กม. รวมถึงผ่านการทดสอบระบบหยุดรถฉุกเฉินที่ความเร็ว 94.1 กม./ชม. และผ่านการทดสอบการวิ่งที่ความเร้วสูงสุด 120 กม./ชม.
ด้าน รศ.ดร.วีระศักดิ์ อุดมกิจเดชา ประธานคณะอนุกรรมการแผนงานกลุ่มระบบคมนาคมแห่งอนาคต บพข. กล่าวว่า บพข. คาดหวังที่จะได้เห็นงานวิจัยและพัฒนา ที่เราให้การสนุบสนุนนั้นสามารถออกไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เกิดผลทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ บพข.ขับเคลื่อนสนับสนุนทุนวิจัยพัฒนาโครงการนี้มาหลายปีต่อเนื่อง และยังให้การสนับสนุนต่อในปีถัดไป เพราะทราบดีว่าการวิจัยและพัฒนาหลายอย่างนั้นไม่สามารถสำเร็จได้ภายในปีเดียว
“เราเห็นว่าโครงการนี้มีศักยภาพที่จะสามารถสร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ในแง่ของการพัฒนาอุตสาหกรรมขนส่งระบบรางของประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยี และถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศได้ ซึ่งสิ่งที่ประเทศจะได้กลับมาจากการลงทุนทำ R&D นั้นนอกจากเม็ดเงินที่ได้กลับมาในเชิงเศรษฐกิจแล้ว ยังมีผลตอบแทนสูงในเชิงสังคม และที่สำคัญคือในเชิงองค์ความรู้ ที่เกิดขึ้นภายในประเทศของเรา ไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติตลอดไป ” รศ.ดร.วีระศักดิ์กล่าว
ประเภทวัสดุ ที่ใช้ในโครงการ รศ.ดร.วีระศักดิ์กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นโครงการนี้ มีการใช้วัสดุที่มีในประเทศประมาณ 40% และคาดหวังที่จะขยับให้มีการใช้เพิ่มมากขึ้นไปอีกในอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้วัตถุดิบในประเทศสามารถลดต้นทุนที่ต่ำกว่าการนำเข้าอย่างมหาศาล ซึ่งบพข.ต้องการที่จะเห็นโครงการลักษณะนี้ เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก และมีความพร้อมที่จะสนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และบริการ ของคนไทยที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า โครงการนี้นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือขององค์กรต่าง ๆ ของไทย ทั้งสถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ร่วมสร้างเทคโนโลยีที่เป็นของเราเอง โดยใช้วัสดุภายในประเทศ
“รถไฟ “สุดขอบฟ้า” มีความทันสมัย หรูหรา มีระบบความปลอดภัย และระบบอำนวยความสะดวกและเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่ครบครัน อยู่เหนือความคาดหมายของใครหลายคน สามารถเปลี่ยนทัศนคติของคนไทยที่มีต่อรถไฟไทยให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้ ซึ่งวันนี้ทีมวิจัยได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราสามารถทำได้ และสิ่งนี้จะกลายเป็นองค์ความรู้ที่สำคัญที่จะทำให้เราสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน ต่อไปที่เราต้องทำคือการทดสอบตลาด และดูกระแสตอบรับของสังคม เพื่อนำมาพัฒนาแผนการให้บริการและการบริหารต้นทุนต่อไป” ผู้ว่าฯรฟท.กล่าว
โครงการพัฒนารถไฟโดยสารต้นแบบ (รถไฟไทยทำ)ที่ บพข. ให้การสนับสนุนและผลักดัน พัฒนาจากห้องปฏิบัติการไปสู่การทดสอบ รับรองมาตรฐาน เพื่อไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ภายใต้งบประมาณจากกองทุนวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ผ่านการทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ รฟท. ภาคเอกชนคือ กิจการร่วมค้า ไซโนเจน-ปิ่นเพชร จำกัด ที่เป็นผู้ร่วมลงทุน
ส่วนสถาบันวิจัย ประกอบด้วย ทีมวิจัยจาก สจล. ที่ร่วมกับ สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) โดยได้มีการจดทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดจากโครงการแล้วจำนวน 7 ผลงาน และองค์ความรู้ เทคโนโลยี เหล่านั้นได้รับการถ่ายทอดไปผู้ประกอบการที่สามารถผลิตและประกอบได้ในประเทศมากกว่า 10 บริษัทเข้าร่วมในโครงการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สุริยะ' ย้ำที่เขากระโดงเป็นของรฟท. ส่วนที่ดินอัลไพน์ ยันไม่ผิดกฎหมาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าภายหลังการรถไฟ
บอร์ด รฟท. ไฟเขียวรถไฟทางคู่เฟส 2 รวม 3 เส้นทาง 1.33 แสนล้าน
บอร์ด รฟท. ไฟเขียวรถไฟทางคู่เฟส 2 รวม 3 เส้นทาง 634 กม. 1.33 แสนล้าน ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลฯ, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์‘ ชงคมนาคม ก.พ.นี้ ก่อนเสนอครม. ต่อไปเคาะ ยันรายงานอีไอเอผ่านฉลุย
'สุริยะ' ตั้งธงศึกษา 'สถานีขนส่งบขส.' ใหม่เสนอครม.ภายในปี67
“สุริยะ” สั่ง รฟท.ทบทวนแผนพัฒนาพื้นที่พหลโยธินใหม่ แนะเกลี่ยพื้นที่ให้ บขส.สร้างรวมสถานีขนส่งผู้โดยสาร”เหนือ-อีสาน-ใต้”แห่งใหม่ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ คาดศึกษา
รฟท.เพิ่มขบวนรถพิเศษ 12 ขบวนสาย ’เหนือ-อีสาน‘ รับคนเดินทางช่วงปีใหม่
รฟท. แจ้งเพิ่มขบวนรถพิเศษ 12 ขบวน สายเหนือ-อีสาน รองรับคนเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ เน้นความปลอดภัย ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง เปิดจองตั๋ว 28 พ.ย.นี้ พร้อมตั้งศูนย์ปลอดภัยฯ รองรับการเดินทางของประชาชน
เช็กด่วน รฟท.แจ้งหลักเกณฑ์ผู้โดยสารจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน
‘การรถไฟฯ’ แจ้งขยายเวลาเปิดจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน นำร่องขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 8 ขบวน เริ่มให้บริการวันที่ 20 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป