คืนชีพเสน่ห์เมืองจันท์ วาดอนาคตที่ยั่งยืน

จันทบุรีเป็นแหล่งผลิตพริกไทยขึ้นชื่อตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จนเป็นที่มาของคำขวัญจังหวัดจันทบุรี “ น้ำตกลือเลื่อง เมืองผลไม้พริกไทยพันธุ์ดี อัญมณีมากเหลือ เสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชาติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช “  ซึ่งพริกไทยพันธุ์ดีจันทบุรี ชาวบ้านเรียกกันว่า “พันธุ์ปรางถี่”  อดีตเกษตรกรปลูกกระจัดกระจายทั่วจังหวัด แต่ตอนนี้พื้นที่ปลูกลดลงจนน่าตกใจ ผลพวงจากการเจริญเติบโตของเมือง การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ตลอดจนเกษตรกรหันมาปลูกพืชสวนที่ได้ราคาดีกว่า อย่างทุเรียน มังคุด ส่งผลให้พริกไทยพันธุ์พื้นเมืองแท้ๆ อาจจะเลือนหายไปได้

อาหารพื้นถิ่น จ.จันทบุรี สะท้อนความอุดมสมบูรณ์

มีความพยายามฟื้นฟูพริกไทยพันธุ์พื้นเมืองจันทบุรีให้กลับมาอีกครั้งผ่านงาน Regenerating Local Food & Future  จัดโดย Sustainable Brands (SB) ประเทศไทย และหอการค้าจังหวัดจันทบุรี เพื่อจุดประกายให้เกิดความสนใจต่อความอุดมสมบูรณ์ที่กำลังจะหายไปจากระบบอาหารในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งพริกไทยจันทบุรี สุดยอดเครื่องเทศเป็นหนึ่งในพระเอกของงาน กิจกรรมเน้นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงจากเมนูอาหาร ภายใต้ชื่อ “ รสจันท์ที่จางหาย”  (The Lost Recipe) บนฐานแนวคิดการกู้คืนสูตรตำหรับอาหารเมืองจันท์ที่แท้จริงให้ฟื้นกลับคืนมา The Regenerative Dinner – The Lost Recipe “Herb – Heritage – Hope”   

เรียนรู้สำรับอาหารท้องถิ่นผ่านนิทรรศการเล่าเรื่องเมืองจันท์

ในสำรับประกอบด้วยเมนูปลาราดซอสพริกไทยจันท์ นำสมุนไพรจันท์มาทำซอสให้รสชาติเผ็ดร้อน และกลิ่นหอมมีเอกลักษณ์เฉพาะ ประกอบกับปลาอินทรีย์จากแหล่งทะเลเมืองจันท์ที่อุดมสมบูรณ์ ปราศจากมลพิษ ,ผัดผักหวานป่า  เมนูอาหารพื้นบ้านแสดงถึงความชุ่มชื้นทางธรรมชาติ ป่าเขาเมืองจันท์ แถบ อ.เขาคิชฌกูฎ อ.แหลมสิงห์  อ.โป่งน้ำร้อน อ.เขาสอยดาว ,แกงเขียว เป็นแกงป่าเครื่องแกงประกอบด้วยสมุนไพรพื้นบ้านหลายชนิด  เช่น ข่า ตะไคร้  หอมแดง กระเทียม ผิวมะกรูด  ดอกกระเพรา ดอกโหระพา  ดอกยี่หร่า  พริกไทยเม็ด และพริกสดสีเขียว ผัดเครื่องแกงด้วยน้ำเปล่าใส่เนื้อปลา รสเผ็ดร้อน แล้วยังมีเมนูหมูทองเด่นที่เครื่องเทศ เครื่องพะโล้ เคี่ยวจนนุ่ม กับข้าวสวยร้อนๆ ทุกเมนูรังสรรค์โดยทีมภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

แกงเขียว แกงป่าพื้นบ้าน เครื่องแกงมีพริกไทยเม็ด

ภายในงานมีนิทรรศการบอกเล่าสิ่งที่จะเลือนหายไปของเมืองจันทบุรี  นอกจากตำรับอาหารจันท์ ยังเสนอเรื่องการทำเสื่อจันทบูร เสื่อที่ถักทอจากกกน้ำกร่อยหรือกก2 น้ำ มีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องความเหนียวทนทาน ไม่เป็นเชื้อราง่าย เมื่อนำไปใช้งาน ซึ่งปัจจุบันกกตามธรรมชาติลดลงจากระบบนิเวศเสื่อมโทรม   แล้วยังมีเรื่องเมืองจันทบุรีในมิติเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ฯลฯ

การทำเสื่อจันทบูร อีกของดีที่จากทรัพยากรท้องถิ่น

กิจกรรมยังนำไปสู่ห้องเรียนธรรมชาติอันร่มรื่นที่ สุธีร์ ออร์แกนิก ฟาร์ม จันทบุรี ฟาร์ม ออร์แกนิก แห่งนี้ เป็นสวนผสมผสานยืนหนึ่งในจันทบุรี สุธีร์ ปรีชาวุฒิ เป็นเจ้าของสวน ขณะนี้พยายามคืนชีพพริกไทยจันทบุรี มีการลงต้นพริกไทยพันธุ์ปรางถี่ รักษาเอกลักษณ์ด้านคุณสมบัติโดดเด่นที่เผ็ดร้อนและหอมกว่าพันธุ์อื่น  ปัจจุบันพริกไทยจันทบุรีขึ้นทะเบียนจีไอเป็นที่เรียบร้อย

ที่นี่ได้เรียนรู้การนำแนวคิดฟื้นคืนสมดุลภาคเกษตรกรรมไปใช้จริงในระบบเกษตรและอาหาร รวมถึงระบบการฟื้นฟูเมืองที่เป็นการกอบกู้ชีวิตและเสน่ห์ที่แท้จริงของเมืองจันท์ให้กลับมาอีกครั้ง ผ่านเรื่องราวของวัตถุดิบหลักของจันทบุรี คือ พริกไทยและกระวาน พืชสำคัญของประเทศไทย ที่อุดมคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม  

อุกฤษฏ์ วงษ์ทองสาลี ประธานหอการค้าจันทบุรี กล่าวว่า รสจันท์ที่จางหาย (The Lost Recipe) เป็นกิจกรรมที่เกิดจากการบูรณาการการทำงานร่วมกันที่จะรื้อฟื้นตำรับอาหารพื้นเมืองจันทบูรที่กำลังจางหายให้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง  โดยกิจกรรมได้นำพริกไทยปางถี่และกระวานจันท์มาเชิดชูอยู่ในตำรับอาหาร เรามุ่งหวังกันว่า มื้อพิเศษนี้จะให้ทุกคนสัมผัส รู้สึก และสำนึกต่อพลังของถิ่นที่จันทบุรี (Power of Place) ในฐานะของห้องนั่งเล่นของภาคตะวันออก (Living Room of the East) และช่วยกันเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ อันจะนำไปสู่การฟื้นฟูของคนกับธรรมชาติให้อยู่ร่วมกันอย่างที่เคยเป็น สู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน

มาร์ค บัคลีย์ พาชิมกระวานเมืองจันท์

มาร์ค บัคลีย์ นักคิดและนักปฏิบัติการด้านอาหารจาก UN SDG  กล่าวว่า ถ้าพูดเรื่องระบบนิเวศอาหาร  สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ คือ ภาคเกษตรกรรม ทั้งการปลูกพืชพันธุ์และการทำฟาร์มต่างๆ การฟื้นคืนภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะการกู้คืนระบบอาหารของพริกไทยจันท์และลูกกระวานจันท์ เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องเข้าใจจริงๆ และจะสามารถลงมือแก้ปัญหาทั้งระบบ เกษตรกรรมแบบฟื้นฟูเพื่อสร้างคุณค่า เป็นวิธีการที่ไม่ใช่แค่รักษาสิ่งที่มีอยู่ไม่ให้หมดไป แต่ยังนำสิ่งที่หายไปให้กลับมามีชีวิตที่สมบูรณ์ผ่านกระบวนการต่างๆ อาทิ การพลิกฟื้นคุณภาพดินที่ถูกทำลายไป การเพิ่มความหลากหลายในผืนดิน รวมทั้งพัฒนาวงจรการใช้น้ำในการทำการเกษตร เป็นต้น

“ ผมอยากนำเสนอแนวทางปรับปรุงและแก้ไขที่เป็นนวัตกรรมที่มีศักยภาพจริงๆ ที่จะช่วยกำหนดอนาคตที่มีมนุษยชาติ รวมถึงโลกของเราจะฟื้นตัวได้จริงได้ยั่งยืน ผ่านแนวคิดเกษตรกรรมแบบฟื้นฟู  ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การกักเก็บคาร์บอนไว้ในดินสามารถช่วยชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยทำให้สภาพอากาศมีเสถียรภาพมากขึ้น  และสามารถสร้างงานสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ส่งเสริมความสามารถที่จะฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ยั่งยืนอีกด้วย ” มาร์ค กล่าว

พริกไทยพันธุ์ดีจันทบุรีต้องฟื้นฟู

สร้างอนาคตเมืองเติบโตรับมือท่องเที่ยว  เป็นอีกประเด็น   เจนนี่ แอนเดิร์สสัน ซีอีโอจาก We Activate The Future, ผู้ร่วมก่อตั้ง The Really Regenerative Centre กล่าวว่า วันนี้เราทำลายเมืองของเราโดยไม่รู้ตัวผ่านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เน้นปริมาณ เพื่อรายได้ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว การพัฒนาศักยภาพของเมือง ของสถานที่ คือ การพัฒนาสถานที่ พัฒนาเมืองผ่านการฟื้นฟู การหาหัวใจของเมืองที่โดนทำลายไปให้ฟื้นคืนชีวิตใหม่ เป็นแนวทางที่มีพลวัต และช่วยกำหนดรูปแบบให้เมือง สถานที่ ให้ประเทศไทยหรือชุมชนท้องถิ่นดีขึ้นได้อย่างมั่นคงยั่งยืน เราจะเรียนรู้ร่วมกันถึงหลักการพื้นฐาน เน้นการสร้างพื้นที่ที่ไม่เพียงแต่แค่ดำรงชีวิตของตนเองเท่านั้น แต่เพื่อการดำรงของทุกชีวิตอย่างเกื้อกูล เพราะแนวคิด Regenerative Placemaking เป็นส่วนสำคัญสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม

จุดประกายสร้างอนาคตเมืองจันทบุรีที่ยั่งยืน

ด้าน ดร.ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการ SB ประเทศไทย  กล่าวว่า ริเริ่มนำแนวคิด Regenerative หรือการ “ฟื้นคืน” เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงให้กับทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติที่ต้องดำรงอยู่ด้วยกันอย่างเกื้อกูล โดยเลือกความสำคัญของธุรกิจอาหาร ซึ่งเป็นหัวใจหลักของประเทศ เพราะถ้าระบบอาหารมีการเปลี่ยนแปลงและแข็งแรงแล้ว เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนได้ เป็นการแก้ไขปัญหาที่ไปได้ไกลกว่าเดิม

“ งาน SB ในประเทศไทยเน้นสร้างผลงานที่จับต้องได้ เลือกจันทบุรีเป็นหนึ่งในพื้นที่จัดงาน เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของจันทบุรีสามารถจะผลักดันเป็นจังหวัดต้นแบบแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยแนวคิด Regenerative ความพร้อมของคนจันทบุรี และศักยภาพของแผ่นดินผสานกับพลังของแบรนด์ท้องถิ่นจะเป็นการจุดประกายสิ่งที่มีอยู่แล้วและกำลังจะจางหายถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่อย่างน่าสนใจอีกครั้ง ”ผอ.SB ประเทศไทย ย้ำจันทบุรีมีดีขับเคลื่อนสู่จังหวัดต้นแบบได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

GIT จับมือ จันทบุรี จัดเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ , นายภูเก็ต คุณประภากร ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี รวมทั้งนางสาวกนกพร ดำรงกุล ผอ.ฝ่ายการตลาดไมซ์ในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ TCEB ร่วมแถลงการจัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024 “จันทบุรี นครอัญมณี” ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 5-9 ธันวาคม 2567

MUST SEEK! เปิดประตูสู่สวรรค์ สุขท้าลอง @จันทบุรี

บรรยากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เราจะออกเดินทางเที่ยวชมบรรยากาศของความสดชื่นของผืนป่า ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแห่งขุนเขาแบบไม่ต้องดั้นด้นเดินทางไกลมาก แนะนำว่าให้มาเที่ยวจันทบุรี

กกท.มอบเงินสิทธิประโยชน์5ล. ผลิตภัณฑ์มูลค่า18ล. ให้'จันท์เกมส์-อัญมณีเกมส์'

นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายส่งเสริมกีฬา พร้อมด้วย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและจับสลากแบ่งสายการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์” และ การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 39 “อัญมณีเกมส์” ครั้งที่ 1/2567

นายกฯ ชูเมืองจันทบุรี โมเดลพัฒนาผลไม้ไทย กำชับพาณิชย์ดูแลราคาไม่ให้ตก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางถึงบริษัท ดรากอน เฟรช ฟรุท จำกัด ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจติดตามการคัดบรรจุทุเรียนคุณภาพและการแปรรูปทุเรียน

สทนช.เกาะติดพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง 2 จังหวัดภาคตะวันออก บูรณาการแก้ปัญหาเร่งด่วน-ระยะยาว มั่นใจรอดแล้งนี้

สทนช.ลงพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง จ.จันทบุรี-ตราด ทั้งพื้นที่ต้นน้ำและปลายน้ำ เร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนแผนแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำเค็มรุกล้ำในระยะเร่งด่วน