ประเทศไทยมีรถยนต์คัต์คันแรกเมื่อ 100 กว่าปีก่อน โดยพระยาสุรศักดิ์ได้นํา เข้ามาจากยุโรปต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัยู่ หัวในหลวงรัชกาลที่ 5ทรงสั่งให้นํา เข้ารถยนต์พระที่นั่งคันแรกเข้ามาในประเทศพ.ศ. 2447 ซึ่งรถยนต์พระที่นั่งที่นําเข้าได้พัฒนาจากรถรุ่นแรกๆที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายนอก ใช้ไอน้ํา หรือไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ที่ติดตั้งภายนอก มาเป็นการใช้เครื่องเบนซิน 4 จังหวะเป็นการสันดาปภายใน
หลังจากทรงสั่งรถยนต์พระที่นั่งคันแรกเข้ามาทรงพอพระราชหฤทัยมากทํา ให้ทรงสั่งรถยนต์พระที่นั่งอีก10 คัน เพื่อพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการชั้นสูง ใช้ในราชการแผ่นดิน ซึ่งน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทํา ให้เกิดความนิยม มีการใช้รถยนต์แพร่หลายในประเทศไทย โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูง และผู้มีฐานะเพราะเวลานั้นประเทศไทยมีการสร้างถนนในพระนคร ถนนสายแรกก็คือถนนกรุงเกษมและมีการสร้างถนนอีกหลายสายในพระนครในเวลาต่อมาทํา ให้รถยนต์สามารถวิ่งได้สะดวก
ในเมื่อมีการใช้รถยนต์กันอย่างแพร่หลายก็เป็นเหตุให้ต้องมีการนํา เข้าชิ้นส่วนรถยนต์จากต่างประเทศ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทํา ให้ “หัวเทียน บ๊อช” ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรก ของบ๊อชได้ถูกนํา เข้ามาจําหน่ายในประเทศไทย เมื่อพ.ศ.2466 แม้ว่าจะเป็นการจําหน่ายผ่านบริษัท The Eastem Commercial Co,Ltd. แต่ดูเหมือนว่าการใช้รถยนต์ของไทยจะเติบโตด้วยดี ทํา ให้ปีต่อมาบ๊อชถึงกับส่งตัวแทนเดินทางมาที่ประเทศไทย
การจําหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ของบ๊อช ดําเนินมาเป็นเวลายาวนานหลายสิบปี พ.ศ. 2534 บ๊อชได้ตัดสินใจเข้ามาตั้งบริษัทในประเทศไทยอย่าสงเป็นทางการแต่ยังเป็นลักษณะหุ้นส่วน พ.ศ.2545 บ๊อชได้กลายเป็นผู้นําชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ต้องที่ใช้น้ํามันดีเซล ทําให้บ๊อชได้ตัดสินใจเข้าเทคโอเวอร์กิจการ และเข้าถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการเข้ามาดําเนินกิจการในประเทศไทยอย่างเต็มต็มตัว
ไม่เท่านั้นบ๊อช ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ด้วยการเปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นเทคโนโลยีของบ๊อชที่จังหวัดระยอง และเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยมีการตั้งแผนกวิจัยและพัฒนาพร้อมกับฝึกอบรมบุคคลากรที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จังหวัดระยอง ต่อมาพ.ศ.2563 บ๊อชได้เปิด Bosch Innovation House ณอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมาพ.ศ. 2565 บ๊อชยังได้เริ่มสายการผลิตชิ้นส่วน ABS สําหรับมอเตอร์ไซค์ขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง
นับจากวันแรกที่หัวเทียนของบ๊อช เดินทางจากบริษัทแม่ในประเทศเยอรมนีเข้ามาจําหน่ายในประเทศไทยในปีพ.ศ. 2466 จึงถือได้ว่าปีนี้ ครบรอบ 100 ปีของบ๊อชที่เข้ามาดําเนินกิจการในประเทศไทย บ๊อช จึงจัดงานเฉลิมฉลอง ด้วยการจัดงาน’Bosch Charity Run บ๊อช ร้อย รัน ‘ งานวิ่งการกุศล ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกิจกรรมวิ่งประหนึ่งสั่งลาหน้าฝนปีนี้ กิจกรรมวิ่งครั้งนี้เสร็จสิ้นลงด้วยความประทับใจ อีกทั้งยังเป็นการรักษ์โลกและอิ่มบุญไปพร้อมๆ กัน
“เราเลือกการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของบ๊อช ในไทย ด้วยการจัดงานวิ่งการกุศลเพราะมองว่านับจากโควิดระบาด ทํา ให้คนทั้งโลกอยู่ในกระแสสุขภาพ หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้นและการวิ่งยังเป็นกิจกรรมที่คนทั่วไปให้ความสนใจ และเข้ามามีส่วนร่วมได้ง่าย ซึ่งเป็นไปตามเป้าประสงค์ มีผู้มาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับเรามากถึง 1,200 คนซึ่ง 200 คนเป็นพนักงานของบ๊อช ที่เหลือเป็นบุคคลภายนอกที่ให้ความสนใจร่วมกิจกรรม ” อินทิรา พาร์ค ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บ๊อช ประเทศไทย ให้ข้อมูล
เป็นเวลาหลายปีที่บ๊อชประกาศจุดยืนในการทําธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่ยึดมั่นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งไปพร้อมๆ กับให้ความสําคัญกับความยั่งยืน หรือ Sustainable Development ดังนั้น ในงานวิ่งที่จัดขึ้นจึงอยู่ในมิติความยั่งยืน ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือให้มีผลกระทบเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
เริ่มจาก “เสื้อนักวิ่ง”ที่ออกแบบมาอย่างสวยงามสะดุดตาและใช้เส้นใยจากขวดพลาสติกรีไซเคิล โดยเสื้อนักวิ่งหนึ่งตัวผลิตมาจากขวดพลาสติก (PET 600cc) ประมาณ 20ขวด ถือว่าเป็นการนําวัสดุเหลือใช้ที่กําลังจะกลายเป็นขยะนํากลับมาแปรรูปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ความใส่ใจนี้สอดคล้องกับนโยบายสร้างความยั่งยืน
“เหรียญรางวัล” ยังเป็นอีกหนึ่งของแรงบันดาลใจของบ๊อชที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนอย่างจริงจัง โดยก่อนที่จัดกิจกรรมวิ่งร้อยรัน ได้มีการวางแผนรณรงค์พนักงานบ๊อซ ทุกแผนกรวมทั้งโรงงานฝ่ายผลิตและคู่ค้าของบ๊อชนําฝาขวดพลาสติกเครื่องดื่มมาหยอดใส่กล่องที่จัดเตรียมไว้ หลังจากนั้นจึงมีการรวบรวม เพื่อนํามาผลิตเป็น “เหรียญรางวัล”
” เรายังมีการมอบของที่ระลึกวาระครบรอบ 100 ปีให้แก่พนักงาน 10 ท่าน ที่มีส่วนร่วมกับแคมเปญสะสมฝาน้ําพลาสติก โดยคัดเลือกจากการแสดงความคิดเห็นหรือการโพสต์ภต์าพการร่วมกิจกรรมสะสมฝา ผ่านบนโซเชียลมีเดียบนแพลทฟอร์มของ บ๊อช ประเทศไทย ส่วน “แก้วน้ํา “ที่แจกให้กับนักวิ่ง ในช่วงเดือนแรกที่เปิดรับสมัคร ก็เป็นแก้วน้ํา รักษ์โลก พกพาสะดวก สามารถนํา กลับมาใช้ซ้ํา ได้อีก”อินทิรากล่าวเสริม
เช้ามืดวันที่ 29 ตุลาคม แม้ท้องฟ้ายังไม่สว่าง แต่นักวิ่ง 1,200 คนก็มาถึงจุดรวมพลอยู่ที่ยู่ ที่สวนน้ํา รามายณะเขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี ในเส้นทางวิ่งเริ่มจากผ่านสวนน้ํา ในบรรยากาศ ทางขึ้นเขาพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ ไร่องุ่น วิหารเซียนขึ้นอยู่กัยู่ กับระยะวิ่งที่เลือก ใครที่ลงสมัครระยะ 21 กม. จะผ่านทุกจุดไฮไลท์ที่ถือว่าสุดคุ้มในการเข้าเส้นชัย รับเหรียญ
“Bosch Charity Run”ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่า เป็นงานการกุศล โดย บ๊อชนําเงินจากการจัดกิจกรรมวิ่งครั้งนี้จํานวน 1 แสนบาท มอบให้กับ “มูลนิธิมือต่อมือ”หรือ “Hand to Hand Foundation” ที่ก่อตั้งโดยครูชาวออสเตรเลียท่านหนึ่งที่ต้องการช่วยเหลือกลุ่มเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ ปัจจุบันมูลนิธิฯ มีเด็กในความดูแล 30 คน ซึ่งมีทั้งทั้เด็กไทย และเด็กต่างชาติ
นอกจากช่วยเหลือเด็กๆแล้วทางมูลนิธิยังเชื่อมโยงไปถึงการช่วยเหลือพ่อพ่ แม่ของเด็กให้มีอาชีพ มีงานทํา มีรายได้เลี้ยงตัวเอง เช่น การฝึกอาชีพนวดแผนไทย ซึ่งในงานวิ่งครั้งนี้มีบูธนวดแผนไทย (คอ บ่า ไหล่) ที่มูลนิธิมือต่อมือเปิดบริการผู้มาร่วมงาน นอกจากนั้นยังมีสินค้าอื่นๆที่เป็นผลผลิตของชาวบ้านที่มูลนิธิฯเข้ามามีบทบาทช่วยเหลือส่งเสริมอาชีพ
โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการบ๊อช ประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปีของ บ๊อชประเทศไทย งานวิ่งการกุศล “Bosch Charity Run”ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของเรางานครั้งรั้นี้จัดขึ้นบนหลักของความยั่งยืนและการมีส่วนร่วมกับชุมชนสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าที่หล่อหลอมการเดินทางของเราในช่วงกว่าศตวรรษที่ผ่านมาและยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
”ความสําเร็จจากงานครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือทั้งภาคธุรกิจและหน่วยงานท้องถิ่น งานการกุศลช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน สนับสนุนพันธมิตรทางธุรกิจกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และพนักงานองค์กรอีกทั้งส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ธุรกิจชุมชนในพื้นที่ ส่งเสริมการจ้างงาน และยังคํานึงถึงความหลากหลายของผู้เข้าร่วมงานเช่นการรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่นั่ง wheel chair ที่ให้ความสนใจการออกกําลังกายกลุ่มครอบครัว ที่มากับเด็กเล็กเป็นต้น ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึง การส่งเสริมความรับผิดชอบในสังคมเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน”กรรมการผู้จัดการบ๊อชประเทศไทยกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนดียังมีในสังคม! พนักงานบริษัทเก็บกระเป๋าสตางค์คืนเจ้าของ
น้ำใจงามสาวบริษัทเก็บกระเป๋าสตางค์ส่งตำรวจ เจ้าของดีใจมอบเงิน 7,000 ตอบแทนความดี
'พิธา' นำว่าที่ส.ส.ก้าวไกล สัมมนา ชลบุรี ประเมินสถานการณ์การเมือง
ว่าที่ส.ส.ก้าวไกล สัมมนา ชลบุรี พร้อมประเมินสถานการณ์การเมือง แกนนำหวั่น การแสดงออกว่าที่ส.ส. สุ่มเสี่ยง ข้อกฎหมาย โดนนำไปขยายผลการเมือง เตรียมกำชับเน้นย้ำ พิธา เตรียมแห่ขอบคุณ ชาวชลบุรี 21พ.ค.
เศร้า! 2 หนุ่มกลับจากเล่นน้ำวันไหลชลบุรี ขี่ จยย.พุ่งชนเสาไฟดับ
เมื่อเวลา 03.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองชลบุรี พร้อมกู้ภัยไตรคุณธรรม จ.ชลบุรี เดินทางไปบริเวณหน้าสำนักงานไปรษณีย์ สาชาชลบุรี ถนนสุขุมวิท เขตเทศบาลเมืองชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี
ประเดิมสงกรานต์สัตหีบไม่สวย! สาวขับเก๋งอัดแท่งแบริเออร์ล้อชี้ฟ้า
สาวขับเก๋งกำลังไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มชนอัดแท่งแบริเออร์พลิกคว่ำ ประเดิมอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์สัตหีบ
สัตหีบ ‘หนุ่มใหญ่’ ขี่มอเตอร์ไซด์แหกโค้งพลิกคว่ำเสียชีวิต
เวลา 04.00 น. ร.ต.อ.พัฒนนันท์ สมนวล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์แหกโค้งเสียหลักพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิต ริมถนนใกล้บ่อขยะเขาเพชร ซอยบ่อนไก่ ม.5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี