'แม่ออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์' ส่งเสริมลูกเป็นคนแข็งแรงตั้งแต่อยู่ในท้อง

ความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งครรภ์บอกต่อกันมาอย่างไม่ถูกต้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องกิจกรรมทางกายของแม่ที่อุ้มท้อง  ที่มักมีข้อห้ามไม่ให้แม่ตั้งครรภ์เคลื่อนไหวมากเพื่อไม่ให้เกิดการแท้งบุตรขณะที่ในทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า หากแม่ตั้งครรภ์มีการเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง จะยิ่งส่งผลให้คลอดง่าย และได้บุตรที่แข็งแรง

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (TPAK)สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดล โดย TPAKสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ได้มีการลงนามความร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุขราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ผลักดันนโยบายเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายในแม่ตั้งครรภ์และแม่หลังคลอดโดยมีกลุ่มเป้าหมายทั้งสำหรับแม่ตั้งครรภ์เอง และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง  โดยมุ่งหวังให้มีการฝากครรภ์ และเตรียมคลอดอย่างปลอดภัยซึ่งเป็นก้าวต่อไปจากการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในเด็กเล็กและเยาวชน ก่อนการต่อยอดสู่ทุกช่วงวัยโดยครอบคลุมประชากรตั้งแต่กลุ่มแม่ตั้งครรภ์ จนถึงผู้สูงวัย

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา

มหาวิทยาลัยมหิดล โดย TPAK สถาบันวิจัยประชากรและสังคมประสบความสำเร็จจากการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อการส่งเสริมกิจกรรมทางกายพร้อมสร้างเครือข่ายมาแล้ว 162 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในแม่ตั้งครรภ์และแม่หลังคลอด ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ท้าทายเนื่องจาก  “เป็นการพิสูจน์ว่าสุขภาพที่ดีที่สุดเกิดขึ้นได้จากการส่งเสริมกิจกรรมทางกายให้เด็กตั้งแต่อยู่ในท้องแม่  ”  ซึ่งหากแม่ตั้งครรภ์มีการออกกำลังกายที่ดีจะส่งผลให้บุตรที่อยู่ในครรภ์ได้เคลื่อนไหวและมีสุขภาพที่แข็งแรงไปด้วย

ประโยชน์ของกิจกรรมทางกายในแม่ตั้งครรภ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วงระยะครรภ์ ได้แก่ 1 – 3เดือนแรก เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางสรีระ จากรูปร่างปกติสู่การมีน้ำหนักตัวมากขึ้นจากการเจริญเติบโตของทารกที่อยู่ในครรภ์ ช่วงระยะครรภ์ 4 – 6 เดือน  เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการมีน้ำหนักตัวที่มากขึ้น โดยครอบคลุมถึงการควบคุมระดับน้ำตาลและความดันโลหิตให้อยู่ในภาวะปกติ ต่อเนื่องถึงช่วงระยะครรภ์ 7 – 9 เดือนสู่การคลอดอย่างปลอดภัย

การให้แม่ตั้งครรภ์ได้มีกิจกรรมทางกายที่ต่อเนื่องและเหมาะสม  นอกจากจะช่วยลดอาการปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์ได้แล้ว ยังทำให้การคลอดปลอดภัย  อีกทั้งช่วยลดภาวะซึมเศร้าที่อาจเกิดขึ้นระหว่างและหลังตั้งครรภ์ได้อีกด้วย  เพียงใช้เวลา 10 นาทีก่อนเข้านอน ออกกำลังกายเบาๆ พร้อมเปิดเพลงคลอจะช่วยให้แม่ตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งสามารถทำได้ทั้งท่านอน และท่านั่ง  

เริ่มต้นจากการออกกำลังในส่วนแขน โดยการยกแขนขนานข้างลำตัวขึ้น-ลงช้าๆ ให้ได้ข้างละ 5 – 10ครั้งต่อ 1 เซ็ท และทำต่อไปจนครบ 3 – 5 เซ็ท สลับกับการออกกำลังในส่วนขา โดยการชันเข่าดึงขาขึ้น-ลงช้าๆ ให้ได้จำนวนครั้ง และเซ็ทที่เท่ากันสำหรับการบริหารอุ้งเชิงกรานสำหรับแม่ตั้งครรภ์หากทำได้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดอาการปัสสาวะเล็ดระหว่างตั้งครรภ์ และทำให้คลอดง่ายเนื่องจากมีอุ้งเชิงกรานที่แข็งแรงด้วยการเคลื่อนไหวที่ใช้หลักการเกร็งบริเวณลำตัวและอุ้งเชิงกรานหายใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยควรฝึกภายใต้การดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญในครั้งแรก

แม่ที่ตั้งครรภ์สนใจการออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ สามาถดาวน์โหลดคู่มือ “แนวทางการดำเนินงานสำหรับบุคลากรการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด” ได้ที่https://tpak.or.th/backend/print_media_file/740/ลูกแข็งแรงเริ่มต้นที่แม่กระฉับกระเฉง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิรันดร์กัลป์'ธีมศิลปะ ภูเก็ตเบียนนาเล่

มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale , Phuket 2025  เปิดตัวผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ นายอริญชย์ รุ่งแจ้ง  และ Mr. David The  พร้อมภัณฑารักษ์ นางสาวมาริสา พันธรักษ์ราชเดช และ Ms. Hera Chan ณ HOUSE OF TIN BARON อำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ตอกย้ำความพร้อมจัด Thailand Biennale ครั้งที่ 4

แนะศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์-SEA ตอบโจทย์ แก้ไขปัญหาพื้นที่ลุ่มน้ำยม เขื่อนแก่งเสือเต้น

นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย แนะ ศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์(SEA) ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งของพื้นที่ลุ่มน้ำยม เพื่อลดความขัดแย้ง หาทางออก สร้างหรือไม่ควรสร้าง เขื่อนแก่งเสือเต้น