ขึ้นทะเบียน 14 มรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมชาติ

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดงานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มีการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ  ประจำปี พ.ศ. 2565 มีดังนี้  1.บ่อเกลือ 2 ตำนานนางผมหอม 3.ตำนานหลวงพ่อพระใส 4.แห่นกบุหรงซีงอ 5.นาเกลือ 6.น้ำผักสะทอน 7.ผ้าไหมหางกระรอกโคราช 8.ผ้าซิ่นตีนแดงบุรีรัมย์ 9.ผ้าโฮลสุรินทร์ 10.เมรุลอย 11.การเส็งกลองกิ่ง 12.การเล่นโหวด 13.เรือบก 14.อุ้มพระดำน้ำ โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน พร้อมมอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  

นายเสริมศักดิ์  พงษ์พานิช กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและมรดกภูมิปัญญาที่นำมาต่อยอดสู่ซอฟพาวเวอร์สร้างเศรษฐกิจชาติให้ประชาชนมีรายได้ มีอาชีพที่มั่นคง ส่งเสริมการท่องเที่ยวและคนไทยเกิดความรักและหวงแหนความเป็นไทย โดยหลังจากนี้วธ. พร้อมขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรากฐานผ่านโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง มีการส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งเป็นทุนทางวัฒนธรรม   เป็นสิ่งที่แสดงถึงเกียรติ และความภาคภูมิใจ ของคนในท้องถิ่น และคนในชาติมาสร้างคุณค่าทางสังคม ต่อยอดให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ  ผลักดันให้เกิดค่านิยม ที่มีอิทธิพลกับความคิดของสังคม และประชาชนในประเทศและต่างประเทศ  

นายโกวิท ผกามาศ อธิบดี สวธ. กล่าวว่า  การขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ทำให้เกิดการกระตุ้นให้สังคมได้รับรู้ เป็นการ ปกป้อง คุ้มครอง ดูแลไม่ให้ภูมิปัญญาต่าง ๆ สูญหายไป รวมทั้งจะนำไปสู่การพิจารณาคัดเลือก รายการต่างๆ ที่โดดเด่น มีคุณค่า  นำเสนอต่อ ที่ประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก เพื่อพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ ซึ่งประเทศไทย ได้รับการพิจารณาขึ้นทะเบียนไปแล้ว 3 รายการ ได้แก่ โขน นวดไทย และ โนรา  โดยขณะนี้ ประเทศไทยได้พิจารณารายการ เพื่อเตรียมขอขึ้นทะเบียนเบื้องต้น จากยูเนสโก ในปี 2567 จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ชุดไทยพระราชนิยม ประเพณีลอยกระทง และมวยไทย  ที่สำคัญเป็นนิมิตหมายอันดีที่องค์การยูเนสโก รับรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรม ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย เข้าสู่วาระการพิจารณาการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติในเดือน ธ.ค.นี้ด้วยจึงขอให้คนไทยร่วมอนุรักษ์ และสืบสานประเพณีไทยอันงดงามให้คงอยู่ และลุ้นการประกาศผลไปด้วยกัน 

นายโกวิท กล่าวด้วยว่า ภายในงาน นี้  สวธ. ยังได้รวบรวม 77 เมนูอาหารถิ่นประจำจังหวัด ที่กำลังจะเลือนหาย หาได้ยาก เพื่อนำมาสู่การยกระดับ พัฒนา สร้างสรรค์ ขึ้นเป็นอาหารประจำจังหวัด และจัดสำรับประจำภาค ทั้ง 4  ภาค  ซึ่งเรามองว่า อาหาร เป็นหนึ่งในซอฟพาวเวอร์ของประเทศ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มต่อไปในตลาดโลกได้ ดังนั้นจะมีแผนโปรโมท อาหารถิ่น โดยใช้การสื่อสารรอบด้าน เพื่อต่อยอด และส่งเสริมเผยแพร่ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างความยั่งยืนให้กับเมนูอาหารที่หายไป โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย เชิญชวนให้ไปตามรอยชิมรสชาติอาหารทั้ง 77 เมนู ด้วย ขณะเดียวกัน ได้รับรายงานว่าจากการที่ประกาศเมนูอาหารถิ่นไปแล้ว สามารถปลุกกระแสความนิยมอาหารถิ่นในจังหวัดต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม มีผู้คนสนใจตามรอยไปชิม จนเป็นเมนูที่ขายดี  และยังมีการหาข้อมูลเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม  ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต่างๆ ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าดีใจ  และจัดให้เป็นเมนูจานเด็ดที่ต้องมาชิมในจังหวัดต่างๆ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระดับจังหวัดได้เป็นอย่างดี  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ

ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา  ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

สืบสานประเพณีถวายผ้าพระกฐินวัดหนองแวง แหล่งรวมมรดกวัฒนธรรม

5 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลกฐิน พุทธศักราช 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นำไปถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษา

'หมูเด้ง' ซุปตาร์ดันวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก

“หมูเด้ง”ซุปเปอร์สตาร์ฮิปโปแคระที่โด่งดังเป็นไวรัลทั่วโลกจากความน่ารักขี้เล่น  สื่อต่างประเทศนำไปลงข่าว นิตยสาร TIME พาดหัวข่าวเป็นไอคอนไลฟ์สไตล์ที่กิน นอน และแอคชั่นดราม่า สร้างปรากฎการณ์หมูเด้ง  ช่วยให้ยอดนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เพิ่มทวีคูณ 

ลอยกระทงวิถีไทย สืบสานประเพณีงดงาม

วันลอยกระทงปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 จัดเป็นเทศกาลประเพณีสำคัญของคนไทยที่จะได้ร่วมกันสืบสานคุณค่าประเพณีอันดีงาม โดยการทำกระทงสวยงามหลากหลายรูปแบบ นำไปลอยตามแม่น้ำลำคลอง เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ