'ชลน่าน 'ลั่น 100วัน จะต้องเห็นผลงานแบบ' Quick Win' ยกระดับบัตรทองเป็น' 30 บาทพลัส'

15 ก.ย.2566 – ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สธ. และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดสธ. ร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขวาระพิเศษ ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงนโยบายและแนวทางการบริหารงานกระทรวงสาธารณสุข

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ทิศทางของกระทรวงสาธารณสุขต่อจากนี้ นอกจากจะเป็นองค์กรหลักทางด้านสุขภาพแล้ว ต้องสามารถร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ด้วย โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านอุตสาหกรรมการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมทั้งเฝ้าระวังความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว สำหรับการขับเคลื่อนงานของกระทรวงสาธารณสุข จะน้อมนำและพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และยกระดับ 30 บาทพลัส ที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ ทั้งการส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีของคนไทย ผ่านนโยบาย 12 ประเด็น ได้แก่ 1.โรงพยาบาล กทม. 50 เขต 50 โรงพยาบาล และปริมณฑล 2.สุขภาพจิต/ยาเสพติด 3.มะเร็งครบวงจร 4.สร้างขวัญกำลังใจบุคลากร 5.การแพทย์ปฐมภูมิ 6.สาธารณสุขชายแดนและพื้นที่เฉพาะ 7.สถานชีวาภิบาล 8.พัฒนาโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย 9.ดิจิทัลสุขภาพ 10.ส่งเสริมการมีบุตร 11.เศรษฐกิจสุขภาพ และ 12.นักท่องเที่ยวปลอดภัย

“ใน 100 วันแรก กระทวงสาธารณสุขและหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันผลักดันนโยบายเรื่องต่างๆ ให้เห็น Quick Win ที่เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ขณะเดียวกันก็จะไม่ละเลยการดูแลบุคลากรสาธารณสุขทุกคน เพราะเชื่อว่า เมื่อผู้ให้บริการมีความสุข ย่อมส่งผลถึงประชาชนผู้รับบริการด้วยเช่นกัน และหวังว่าเราจะมีระบบสาธารณสุขที่เหมาะสมสำหรับทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยต่อไป” นพ.ชลน่านกล่าว

นายสันติกล่าวว่า จากการทำงานในพื้นที่มานานทำให้ทราบถึงปัญหาในการเข้ารับบริการสุขภาพของประชาชน ทั้งเรื่องภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การรอรับบริการนาน ดังนั้น จะช่วยขับเคลื่อนกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นที่พึ่งของประชาชนที่เจ็บป่วย โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ให้ได้เข้าถึงบริการสุขภาพที่สะดวก รวดเร็ว สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของประชาชน รวมถึงส่งเสริมการดูแลสุขอนามัยแม่และเด็ก เพื่อเพิ่มบุคลากรที่มีคุณภาพมาพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ รองรับการเป็นสังคมสูงวัย ทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงแข็งแรง สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

ด้าน นพ.โอภาสกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความตั้งใจจะพัฒนาระบบสุขภาพในทุกมิติ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยทุกหน่วยงานในกำกับของกระทรวงสาธารณสุข และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายไปพร้อมกับฝ่ายการเมืองอย่างสอดประสานและไร้รอยต่อ เพื่อให้การดำเนินงานด้านสาธารณสุขจากนี้ไป บรรลุตามเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การสร้างสุขภาพคนไทย เพื่อสุขภาพประเทศไทย อย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่

ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 281 ราย ดับเพิ่ม 4 คน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 5 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่

ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 287 ราย ดับเพิ่ม 3 คน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 22 - 28 กันยายน 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 287 ราย

เคาะ 6 ข้อเสนอ แผน 'สุขภาพจิตชุมชน' พร้อมดันสู่วาระชาติ

นายชาญชัย ทองสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยสถาบันพัฒนาศักยภาพเพื่อความเท่าเทียมทางสังคม มูลนิธิบุญยง-อรรณพ นิโครธานนท์ ตัวแทนแกนนำขับเคลื่อนโครงการพัฒนาความร่วมมือ