ตามรอย Unseen New Chaptersที่อุทยานธรรมเขานาในหลวง

ซุ้มประตูพุทธาวดี เจดีย์ 9 ยอด วิจิตรงดงาม

สุราษฎร์ธานี นอกจากจะขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองร้อยเกาะ ที่มีจุดให้นักท่องเที่ยวได้เลือกไปรับลมชมทะเลมากมาย แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลเท่านั้นนะ เพราะยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยสะดุดตาอีกหลายแห่งทั้งภูเขา น้ำตก วัดวาอาราม ฯลฯ และอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ห้ามพลาดในปีนี้เลยคือ “อุทยานธรรมเขานาในหลวง” ซึ่งเป็น 1 ใน 25 แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการโหวตจากประชาชนมากที่สุดจาก”โครงการ Unseen New Chapters ปักหมุดมุมใหม่ เปิดไทยมุมต่าง ” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เพื่อช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากยิ่งขึ้น

ยอดเจดีย์พุทธศิลาวดี จากหินศิลาแลง (ภาพ:Peeranut Pornnisen)

สายเที่ยวเตรียมแพ็คกระเป๋าไปตามรอย Unseen New Chapters ที่อุทยานธรรมเขานาในหลวง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนไปจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ ระหว่างทางก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่อดใจไม่ไหวอยากจะแนะนำเหล่านักเดินทางทั้งหลาย เริ่มในอ.เมืองสุราษฎร์ธานี ที่ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี โดยตัวศาลหลังเมืองมีความงดงามปราณีตตามแบบสถาปัตยกรรมศรีวิชัย โดยช่างจากกรมศิลปากร ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากลังกา ชวา และ เขมร ให้มีความเหมาะสมกลมกลืนกันคล้ายกับพระบรมธาตุไชยา แต่มีขนาดใหญ่มากกว่าถึงสองเท่า โดยองค์หลักเมือง ยอดเสาบรรจงแกะสลักจากไม้ราชพฤกษ์ขนาดใหญ่ แบบศิลปะศรีวิชัย บนยอดมีพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า หันพระพักตร์ไปทั้งสี่ทิศ และตรงมวยมวยพระเกศาสลักเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ พร้อมกับลงรักปิดทองอย่างวิจิตรสวยงาม

ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี
องค์หลักเมือง บนยอดมีพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า
ยอดเจดีย์พุทธนครกลางหาว ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

ต่อด้วยการล่องเรือชมอุโมงค์ต้นจาก ที่ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ ต.บางใบไม้ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนริมคลองที่อยู่ในพื้นที่ของคลองร้อยสาย เนื่องจากมีคลองเล็กคลองน้อยหลายสายเชื่อมต่อ เสน่ห์ของชุมชนที่นี่คือต้นไม้ริมคลองโดยเฉพาะต้นจาก และต้นมะพร้าวที่มีมากกว่าร้อยต้นขึ้นเรียงรายเต็มสองฝั่ง

เจดีย์องค์เล็กที่อยู่รายล้อมยอดเจดีย์องค์ที่4

วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่จึงผูกพันธ์กับสายน้ำไม่ว่าตะเป็นทำสวนมะพร้าว หรือประมง นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจึงไม่พลาดที่จะต้องทำกิจกรรมยอดนิยม คือ การล่องเรือ เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์เรือพร้อมกับกัปตันที่บิดคันเร่งค่อยๆพาเรามุ่งหน้าไปตามสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมคลองเรือก็ค่อยเข้าสู่ร่มไม้ของใบจากที่เอนเอียงใบเข้าหากันเป็นอุโมงค์ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นเองอย่างสวยงาม การล่องเรือชมอุโมงค์ต้นจาก โดยจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระยะทางประมาณ 450 เมตร ค่าบริการล่องเรือคนละ 20 บาท

เจดีย์องค์ที่5 มหาพุทธะสะหัสสะวดี พระมหาพุทธะพันองค์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

เปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าสู่ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม ในตำบลแห่งนี้มี ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายเมื่อมาถึงสุราษฎร์แล้วต้องมาให้ได้สักครั้ง เพราะที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้นานาพันธุ์ และยังมี ตาน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของป่าต้นน้ำแห่งนี้ โดยตาน้ำเกิดจากน้ำผุดที่เกิดขึ้นจากพื้นดินไหลผ่านตามซอกหินของภูเขามาร่วมกันเป็นน้ำจืดบริสุทธิ์

ยอดเจดีย์องค์ที่ 1 ที่อยู่ในระหว่างการปรับปรุง
พระพุทธรูปกลางลานทางเข้าอุทยานธรรมเขานาในหลวง

แต่จะไปถึงยังป่าต้นน้ำต้องเดินเท้าเข้าไปตามเส้นทางระยะทางไม่ไกลมากนัก ได้ชมนกชมไม้ไปพลางๆ น้ำสีใสมรกตที่อยู่ในลักษณะบ่อน้ำอยู่เบื้องหน้าสวยราวกับภาพวาดที่มีคนแต่งแต้มสีน้ำลงไป แต่นี่คือสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้น เราได้แต่คิดว่าน้ำช่าง น้ำสีฟ้าอมเขียวเหมือนมรกตเช่นนี้ใสราวกับกระจกจนมองเห็นพื้นทรายตะกอนหินปูนที่อยู่ด้างล่างพื้นน้ำ และเหล่าปลาที่แหวกวายไปมา

ยอดเจดีย์องค์ที่6 ท่ามกลางสายหมอก

หากใครอยากจะลงเล่นน้ำก็ได้นะ เพราะทางชุมชนได้แบ่งบ่อสำหรับเล่นน้ำ และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ห้ามลงเล่น เดินขึ้นไปอีกนิดจะพบกับศาลจ้าวปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธ ซึ่งชาวบ้านได้สร้างขึ้นเพราะตรงจุดนี้เป็นเส้นทางไหลของน้ำผุด หากใครอยากรู้ว่าน้ำผุดบริสุทธิ์ขนาดไหนก็สามารถลองตักมาชิมได้ เพราะเราได้ลองชิมแล้วไม่รสชาติ ไม่กลิ่น แถมยังชื่นใจดีด้วย ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด อยู่ในความดูแลของชุมชน ชาวบ้านช่วยกันดูแลเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงต้องมีกฎระเบียบและข้อห้ามที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติ คือ ห้ามทำลายทรัพยากรธรรมชาติทุกชนิด ห้ามนำภาชนะที่ก่อให้เกิดขยะและสิ่งปฏิกูลทุกชนิด ห้ามใช้สบู่ ยาสระผม ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปรับประทานที่ป่าต้นน้ำ ห้ามนำสิ่งผิดกฎหมาย เช่น อาวุธ ยาเสพติดทุกชนิด ห้ามก่อการทะเลาะวิวาท ห้ามจำหน่ายสินค้าทุกชนิด ไม่อนุญาตให้นำภาชนะที่สามารถใส่ข้าวของเยอะๆ เข้าไปในป่าต้นน้ำ เป็นต้น

ชื่นชมธรรมชาติป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด

วันต่อมาเราตื่นตั้งแต่ตี 4.30 เพื่อเตรียมไปชมแสงแรกที่ อุทยานธรรมเขานาในหลวง ต.ต้นยวน อ.พนม ไฮไลท์ของทริปนี้ แต่ความหวังที่จะได้ชมก็ดูเหมือนจะริบหรี่เพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก ทำให้เช้าวันนั้นหมอกปกคลุมหนาแน่นบดบังแสงแดดยามเช้า ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ที่นี่เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ ที่ร่มรืนและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติของขุนเขา จากแรงศรัทธาและการบริจาคเงินชาวบ้าน เจ้าอาวาสจึงได้นำมาสร้างเจดีย์ลอยฟ้าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุโดยตั้งใจไว้ว่าจะสร้างให้ครบ 7 ยอด มุมยอดนิยมที่ทุกคนต้องถ่ายรูปเช็คอินคือ ซุ้มประตูพุทธาวดี ที่ประกอบด้วยยอดเจดีย์เล็กๆ 9 ยอด ปกคลุมด้วยไม้เลื่อยที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นเสน่ห์และมนต์ขลังเอกลักษณ์ของอุทยานธรรมแห่งนี้

น้ำใสราวกระจกที่ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด

ฟ้าเริ่มสว่างทดสอบร่างกายยามเช้าด้วยการเดินขึ้นไปยอดเจดีย์ที่ 4 และยอดเจดีย์ที่ 5 ซึ่งอยู่บนยอดเขาสูงใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 30-40 นาที ทางเดินขึ้นไปสู่ยอดเจดีย์มีทั้งทางเดินธรรมชาติ และบันไดปูนสลับกันไปจะบอกว่าง่ายก็ง่าย จะบอกว่ายากก็ไม่ยากเท่าไหร่ อยู่ในเลเวลที่ขึ้นได้แต่ก็ต้องระวังเพราะเส้นทางขึ้นเขาบางช่วงอาจจะแคบและลื่นบ้าง โดยเฉพาะในหน้าฝน แต่ด้วยความพยายามเราก็ตะเกียกตะกายพาร่างกายมาจนถึงยอดเจดีย์ที่ 4 มีชื่อว่า พุทธนครกลางหาว เอกลักษณ์ของเจดีย์องค์นี้มีรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่ตรงศาลาองค์พระประธานกลางเจดีย์ โดยศาลาประกอบไปด้วยเจดีย์องค์เล็กๆสีทอง 32 องค์ มีดอกไม้ป่าขึ้นประดับตกแต่งอย่างสวยงาม

จุดที่น้ำผุดไหลผ่านไปยังตาน้ำ

เดินต่อไปอีกหน่อยจะเชื่อมต่อไปยังยอดเจดีย์ที่ 5 มีชื่อว่า มหาพุทธะสะหัสสะวดี พระมหาพุทธะพันองค์ ยอดเจดีย์สีขาวตั้งเด่นตระหง่านท่ามกลางหุบเขา ด้านในเปลือยให้โครงสร้างด้านศิลาแลง ฐานตรงกลางประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ด้านข้าง 4 ทิศเป็นศาลาระฆังตีเสริมสิริมงคล เสน่ห์ของยอดนี้คือเราสามารถทอดสายตามองเห็นยอดเจดีย์ที่ 6 ซึ่งอยู่ในระหว่างการเก็บรายละเอียดก่อสร้างให้เรียบร้อย แต่ด้วยลมที่พัดพาหมอกหนามาบดบังทำให้เห็นได้เพียงยอดที่เลือนลางอยู่ไกลๆ ส่วนอีกฝากหนึ่งก็สามารถที่จะเห็นยอดเจดีย์ที่ 4 ยอดเจดีย์ที่ 3 ด้วยเหตุผลเดิมคือหมอก ทำให้ในทริปนี้เราได้ชมทะเลหมอกบนยอดเจดีย์อันวิจิตรงดงามแทน

นั่งเรือชมอุโมงค์ต้นจาก

ลงมาถึงด้านล่างสามารถขึ้นไปสักการะยอดเจดีย์ที่ 2 พุทธศิลาวดี เหมาะสำหรับใครที่มีเวลาไม่มากหรือไม่อยากเดินไกล เจดีย์องค์นี้ก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร ตั้งอยู่บนยอดเขาหินปูนสูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เวลาอันน้อยนิดเราเลยไม่ได้ขึ้นยอดเจดีย์ที่ 3 ส่วนยอดเจดีย์องค์ที่ 1 กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุง ที่นี่เป็นอีกหมุดหมายที่ไม่เพียงแค่มารับพลังบุญเท่านั้น แต่ยังได้รับพลังจากธรรมชาติที่สดชื่น สายหมอกที่ชะโลมความเหนื่อยล้าได้ดีเลย

.ทางเดินบันไดขึ้นไปยอดเจดีย์ชั้นที่ 5

  1. ซุ้มประตูพุทธาวดี เจดีย์ 9 ยอด วิจิตรงดงาม

2.ยอดเจดีย์พุทธศิลาวดี จากหินศิลาแลง (ภาพ:Peeranut Pornnisen)

3.ยอดเจดีย์พุทธนครกลางหาว ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

4.เจดีย์องค์เล็กที่อยู่รายล้อมยอดเจดีย์องค์ที่4

5.เจดีย์องค์ที่5 มหาพุทธะสะหัสสะวดี พระมหาพุทธะพันองค์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

  1. ยอดเจดีย์องค์ที่ 1 ที่อยู่ในระหว่างการปรับปรุง
  2. ยอดเจดีย์องค์ที่6 ท่ามกลางสายหมอก

8.ชื่นชมธรรมชาติป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด

  1. น้ำใสราวกระจกที่ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด

10.จุดที่น้ำผุดไหลผ่านไปยังตาน้ำ

11.ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี

12.องค์หลักเมือง บนยอดมีพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า

13.นั่งเรือชมอุโมงค์ต้นจาก

14.ทางเดินบันไดขึ้นไปยอดเจดีย์ชั้นที่ 5

  1. พระพุทธรูปกลางลานทางเข้าอุทยานธรรมเขานาในหลวง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หวิดโศกนาฏกรรมหมู่! รถทัวร์ชนรถบรรทุกพ่วง นักท่องเที่ยวต่างชาติเจ็บระนาว

ร.ต.ท.เกรียงศักดิ์ เวชเตง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุหมู่ รถทัวร์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ชนกับรถพ่วง บนถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ช่วงกม.ที่ 29-30 หมู่ 3

“วราวุธ” มอบ "ปลัด พม." ร่วมคณะนายกฯ “แพทองธาร” ลุยน้ำท่วมนครศรีฯ - สุราษฎร์ฯ ช่วยผู้ประสบภัย

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)

'พล.อ.เกรียงไกร' ร่วมรำลึก 83 ปีสงครามมหาเอเชียบูรพา

“พล.อ.เกรียงไกร” รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 นำประชาชนชาวสุราษฎร์ธานี รำลึก 83 ปีสงครามมหาเอเชียบูรพา นำสักการะอนุสาวรีย์ครูลำยอง วิศุภกาญจน์ เนื่องในวันวิญญาณ ประจำปี 2567 โรงเรียนสุราษฎร์ธานี

สุราษฎร์ธานี จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี67 ย้ำชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน

UN – HABITAT หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’ กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’

ปลุกคนใต้โดนปล้นพลังงาน 'วัชระ' ค้านย้ายโรงไฟฟ้าสุราษฎร์  

“วัชระ”ปลุกกระแส จุดเทียนประท้วง ค่าไฟมหาโหด ค้านย้ายโรงไฟฟ้าจากสุราษฎร์ธานีไปภาคกลาง ชี้จะทำให้ภาคใต้สูญเสียความมั่นคงด้านพลังงาน