“องค์การเภสัช-เฮลท์ อัพ” เร่งพัฒนาบุคลากรรับแผนบริหารเครือข่ายร้านยา ตั้งเป้า 3 ปี ยกระดับร้านยาร่วมโครงการ 1,000 สาขา วางแผนอนาคตต่อยอดธุรกิจร่วมผลิตสมุนไพรกลุ่มยาและสินค้าสุขภาพกระจายถึงมือประชาชนทั่วประเทศ
ภญ.ปาริชาติ แคล้วปลอดทุกข์ ผู้เชี่ยวชาญ 10 องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าความร่วมมือกับ บริษัทเฮทล์ อัพ จำกัด (Health Up) เพื่อพัฒนาโมเดลต้นแบบเครือข่ายธุรกิจร้านขายยา (Health Network Prototype Model) ว่า หลังจากมีการลงนามเอ็มโอยูไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา ทาง อภ.และ เฮลท์ อัพ ได้เดินหน้าจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้การบริหาร Chain Store ร้านยา รวมทั้งจัด Workshop ร่วมกันในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ส่วนแบบการถ่ายทอดองค์ความรู้แบบเวิร์คช้อป สามารถช่วยระดมความคิด และทำให้เห็นชัด ในกลยุทธ์การบริหารร้านค้าปลีกยาและเวชภัณฑ์ ทั้งการวิเคราะห์ทำเล การสต็อกสินค้า รวมถึงพนักงานในร้านยาด้วยว่า ควรจะมีมายด์เซทอย่างไร และที่สำคัญคือ การดีไซน์รูปแบบการบริการลูกค้าที่เดินเข้าร้าน หรือ Customer Journey ควรต้องได้รับบริการอะไรบ้างเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด รวมทั้ง การทำมาร์เก็ตติ้ง ทำโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งหมดนี้ เราได้บรรจุไว้ในการ work shop ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี
ที่มาของโครงการดังกล่าว ภญ.ปาริชาติ กล่าวว่า อภ. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความมั่นคงทางยาของประเทศ ซึ่งโครงการนี้ที่โฟกัสลงมาที่เครือข่ายภาคเอกชน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ยาที่องค์การฯ ผลิตไปถึงมือประชาชนในท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด ในราคาที่สมเหตุสมผล องค์การเภสัชกรรม จึงต้องเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการกระจายยาจากส่วนกลางไปสู่ปลายน้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในจังหวัด อำเภอ ตำบล เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาง่าย จึงเป็นที่มาของโครงการนี้
สำหรับ เฮลท์ อัพ ภญ.ปาริชาติ กล่าวว่า เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพราะเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ มีเครือข่ายร้านขายยา และมีบริษัทขายส่งในเครือที่ใหญ่ คือ DN CENTER ซึ่งมีศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีฐานร้านขายยากว่า 6,000 ร้านยาทั่วประเทศ ซึ่งตอบโจทย์องค์การเภสัชกรรมที่กำลังมองหาเครือข่ายพันธมิตรที่จะช่วยขับเคลื่อนการกระจายยาขององค์การเภสัชกรรม ให้ไปถึงมือประชาชน
“หลังจากกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ ก็จะเข้าสู่โหมดการคัดเลือกรายการยาและสินค้าสุขภาพที่จะกระจายเข้าสู่ร้านยาเครือข่ายโดยวิเคราะห์ความต้องการในแต่ละมิติ เช่น Location base, Problem base และรายการใดสนองนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาได้ในวงกว้าง โดย อภ. และเฮลท์ อัพ จะทำคู่ขนานไปกับการคัดเลือกร้านยาที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นร้านยาต้นแบบของโครงการ Health network โดยจะมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร”
สำหรับโครงการความร่วมมือดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี โดยมีเป้าหมาย ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนแรกคือการถ่ายทอดองค์ความรู้ ระหว่างบุคลากรซึ่งก็คือ การทำเวิร์คช้อป ได้ทำร่วมกันมา ส่วนที่ 2 จะเป็นเรื่องของการกระจายสินค้าของ อภ.ไปยังเครือข่าย DN Center เพื่อกระจายไปสู่ร้านค้ายา ส่วนที่ 3 จะเป็นเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันในอนาคตที่อาจจะต่อยอดในการผลิตสมุนไพรในกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวกับยาหรือสุขภาพเพื่อ ให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ผลิตได้เองในประเทศซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางยาอีกด้วย โดยร้านค้าที่ร่วมโครงการจะต้องจัดให้มีมุมดิสเพลย์ ผลิตภัณฑ์ยาของ จีพีโอ (GPO) ด้วยรูปแบบโทนสี การตกแต่ง ที่เป็นมาตรฐาน ทุกร้านจะต้องมีป้ายของโครงการ “เครือข่ายร้านยา Health Network จำหน่ายผลิตภัณฑ์องค์การเภสัชกรรม” เพื่อแสดงว่าร้านนี้เข้าร่วมโครงข่ายของอภ.
ด้าน ทพ.วนัสพนธ์ เปล่งสุรีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเฮลท์ อัพ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจร้านขายยามาเป็นเวลา 35 ปี จนถึงปัจจุบัน มีสาขากว่า 80 สาขาทั่วประเทศ และบริษัทขายส่งในเครือ คือ DN CENTER มีเครือข่ายร้านยากว่า 6,000 แห่ง ผ่านการเรียนรู้และประสบการณ์มามากมาย ความร่วมมือครั้งนี้เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน ขณะที่ปัจจุบันองค์การเภสัชกรรมมีผลิตภัณฑ์ยา มากกว่า 300 รายการ แต่มีจำหน่ายในร้านยาเพียง 20-30 รายการเท่านั้น ซึ่งทางบริษัทฯ เห็นว่ายังมีช่องทางที่จะช่วยกระจายยาขององค์การเภสัชกรรม เข้าสู่ระบบค้าปลีกผ่านร้านขายยาได้อีกมาก
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการร้านขายยาสนใจ สามารถลงทะเบียนแจ้งความจำนงได้ตามช่องทางต่อไปนี้ Line: @healthnetwork สอบถามโทร 081-590-4234 หรือ e-mail: [email protected]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ปลื้ม อภ. คิดค้น 'ยาเลิกบุหรี่' ชนิดใหม่ รายแรกในไทย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม