ศน.หนุนงบบูรณะศาสนสถาน 4 ศาสนา ให้มั่นคง-ปลอดภัย เป็นศูนย์กลางประกอบศาสนกิจ
31 ส.ค.2566 – นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มุ่งเน้นการขับเคลื่อนให้ศาสนสถานของทุกศาสนาเป็นศูนย์กลางของประชาชน ส่งเสริมสนับสนุนให้ศาสนิกชนเข้าไปประกอบศาสนกิจตามศาสนาที่ตนนับถือ ซึ่งศาสนสถานนั้นควรมีสภาพที่มั่นคง ปลอดภัย สะอาดและสวยงาม เหมาะสม สำหรับการเข้าไปประกอบกิจกรรมทางศาสนา แต่เมื่อมีการใช้ศาสนสถานเป็นเวลานานย่อมเกิดความเสียหาย ทรุดโทรม และเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หรือได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากภัยพิบัติ เช่น อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย เป็นต้น รวมถึงเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ศาสนิกชนไม่สามารถใช้ศาสนสถานประกอบศาสนกิจได้ตามปกติ
อธิบดี ศน. กล่าวว่า กรมการศาสนาได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2566 รวมทั้งสิ้น 12,650,000 บาท ในการดำเนินโครงการเงินอุดหนุนการบูรณะศาสนสถาน เพื่อสมทบในการบูรณะซ่อมแซมศาสนสถานที่ทางราชการรับรอง ประกอบด้วย ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ ยกเว้นวัดในพระพุทธศาสนาเป็นภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้ศาสนสถานทั้ง 4 ศาสนา สามารถใช้ในการประกอบศาสนกิจได้ตามความเหมาะสม คุ้มค่า โดยไม่จำเป็นต้องสร้างศาสนสถานขึ้นใหม่ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ได้มีการจัดสรรเงินอุดหนุนการบูรณะซ่อมแซมศาสนสถานในส่วนภูมิภาค กรณีประสบภัย ไปแล้ว จำนวน 10 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 27 แห่ง ประกอบด้วย มัสยิด 20 แห่ง และโบสถ์คริสต์ 7 แห่ง
นายชัยพล กล่าวต่อว่า ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุน โครงการเงินอุดหนุนการบูรณะศาสนสถาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 2/2566 ในเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาแบบคำขอรับเงินอุดหนุนบูรณะศาสนสถาน กรณีประสบภัยและกรณีปกติ จำนวน 60 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 618 แห่ง แบ่งเป็น มัสยิด 501 แห่ง โบสถ์คริสต์ 115 แห่ง เทวสถานพราหมณ์ – ฮินดู 1 แห่ง และคุรุดวาราซิกข์ 1 แห่ง ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ และให้ดำเนินการอนุมัติจัดสรรงบประมาณสนับสนุนศาสนสถานในการบูรณะซ่อมแซม จำนวนกว่า 500 แห่ง เพื่อให้กลับมามีสภาพมั่นคง ปลอดภัย พร้อมสำหรับการส่งเสริมศาสนิกชนเข้าไปประกอบศาสนกิจตามศาสนาที่ตนนับถือต่อไป โดยศาสนสถานเหล่านี้ ได้ใช้เป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจของศาสนิกให้สงบร่มเย็น สังคมสงบสุข เป็นการนำมิติทางศาสนามาส่งเสริมให้เกิดความเป็นปึกแผ่นของคนในสังคมได้อย่างมั่นคง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศน.ชวนแจ้งความประสงค์ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐิน 9 พระอาราม
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ และพระราชานุญาตให้กระทรวง กรม หน่วยงานองค์กร คณะบุคคล และเอกชนที่มีความประสงค์ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินพร้อมเครื่องบริวารพระกฐิน เพื่อน้อมนำไ
'นวราตรี' พื้นที่ของทุกศาสนา
หนึ่งปีมีครั้งเดียวเทศกาล “นวราตรี” ถือเป็นช่วงเวลาที่ชาวฮินดูบูชาพระแม่อุมาเทวีจากความเชื่อตามตำนานที่พระแม่อุมาเทวีในร่างอวตารเป็นองค์ “พระแม่ทุรคา“ ปราบอสูรชื่อว่า “มหิษาสูร” ที่สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายไปทั่วได้สำเร็จ หลังสู้รบกันมา 9 วัน 9 คืน
รุ่นใหม่วัยเยาว์ 5 ศาสนา ท่อง'กะดีจีน'
ชุมชนกะดีจีนหรือชุมชนกุฎีจีนถือเป็นชุมชนที่อยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางความวัฒนธรรมและความเชื่อมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ย่านนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับทุกวัยและทุกศาสนา ในพื้นที่มีชุมชนและศาสนสถานแต่ละศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม เพื่อส่งต่อเรื่องราวพหุวัฒนธรรม เยาวชนรุ่นใหม่จาก 5 ศาสน
เปิดประเพณี'กวนอาซูรอ'ชายแดนใต้
ทุกศาสนาของโลก พุทธ คริสต์ อิสลาม สืบทอดมายาวนานจนทุกวันนี้ เพราะเปิดทางให้ผู้ศรัทธาและผู้สนใจศึกษาได้เรียนรู้และนำหลักศาสนามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตและสร้างสังคมที่เข้มแข็ง ศาสนาอิสลามในคัมภีร์อัลกุลอารหลักคำสอนให้คำนึงถึงการแบ่งปัน โดยมีการส่งต่อวัฒนธรรมทางศาสนา
เส้นทางสักการะหลวงปู่ทวด ย้อนตำนานพระเถระ
หลวงปู่ทวด เป็นพระสงฆ์ที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามากที่สุดรูปหนึ่ง มีการสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดและพระหลวงปู่ทวดในทุกภูมิภาค สถานที่ที่เป็นที่รู้จักและลูกศิษย์นิยมไปกราบสักการะเป็นอย่างมาก คือ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี แต่ยังมีวัดที่มีประวัติศาสตร์และตำนานที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวดอีกมาก
เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลพระพันปีหลวง
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล และจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ โดยทำความสะอาดบริเวณลานวัด อุโบสถ วิหาร และศาลาการเปรียญ และปลูกต้นไม้ผลและไม้ประ