ชวนร่วมบริจาค เพื่อผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม 500 ดวง ผู้สูงอายุ

โรคต้อกระจก

ต้อกระจกเป็นสาเหตุการตาบอดอันดับหนึ่งของประเทศ พบมากในผู้สูงอายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป จากสถิติประชากร ประเทศไทยมีผู้สูงอายุโดยประมาณ 10 ล้านคนทั่วประเทศและมีตัวเลขเพิ่ม ขึ้นถึง 14%หรือประมาณ 25 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรไทยทั้งประเทศ สาเหตุมาจากอัตราการเกิดใหม่ของไทยต่ำลง และคนมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ทำให้โครงสร้างประชากรเปลี่ยนแปลงไป  ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ  สวนทางกับ  วัยเด็กและวัยแรงงานที่ลดลง
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพท์ กล่าวว่าต้อกระจก สาเหตุหลักเกิดจากความเสื่อมตามวัย สามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยประชาชนผู้สูงอายุมีปริมาณที่มากขึ้น จากข้อมูลสำรวจทางระบาดวิทยาของภาวะตาบอด สายตาเลือนราง และโรคตาที่เป็นปัญหาทางสาธารณสุขระดับประเทศครั้งที่ 4 ปี 2549 – 2550 พบความชุกของตาบอดเกิดจากต้อกระจกร้อยละ 0.59


 ปัจจุบันโรคต้อกระจกสามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียมจะทำให้มองเห็นได้ใกล เคียงปกติ มีผลให้คุณภาพชีวิตและการดำรงชีวิตประจำวันของผู้ปู่วยดีขึ้น โดยเลนส์แก้วตาเทียมที่ใช้อยู่สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ เลนส์แก้วตาเทียมชนิดแข็งทำจากวัสดุพลาสติกสังเคราะห์ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5.0 – 6.5 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่มักใช้กับการผ่าตัดต้อกระจกแบบดั้งเดิม จึงต้องมีการเย็บปิดแผล อย่างไรก็ดีเลนส์ชนิดแข็งสามารถใช้กับการรักษาด้วยวิธีการสลายต้อกระจก ด้วยคลื่นความถี่สูงได้เช่นกัน ซึ่งต้องเป็ดแผลผ่าตัดใหญ่กว่าเลนส์ชนิดนิ่มแบบพับเล็กน้อยทั้งนี้เลนส์ชนิดแข็งราคา ประมาณ 700 – 4,000 บาท ต่อข้าง ส่วนเลนส์ชนิดนิ่มแบบพับได้ทำจากอะคริลิกหรือซิลิโคน ตัวเลนส์สามารถพับและใส่เข้าไปในแผลผ่าตัดขนาดไม่เกิน 3 มิลลิเมตรได้ นิยมใช้สำหรับการผ่าตัดสลายต้อกระจกด้วยคลื่นความถี่สูง ข้อดีคือ แผลผ่าตัดเล็กมาก ไม่ต้องเย็บแผล ผู้ป่วยมีระยะพักฟื้นสั้น การมองเห็นในระยะหลังการผ่าตัดดีกวาเลนส์แข็ง

ลักษณะของแก้วตาเทียมแบบ One-piece foldable hydrophobic acrylic IOL

 ทั้งนี้ เลนส์แก้วตาเทียมชนิดนิ่มยังได้ถูกพัฒนาต่อเนื่อง เช่น เป็นเลนส์ที่มีโฟกัสภาพระยะเดียว  เลนส์ที่มีจุดโฟกัสภาพหลายระยะ ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดทุกระยะ โดยไม่ต้องสวมแว่นตา แต่อย่างไรก็ตาม เลนส์ชนิดแข็งและชนิดนิ่มมีการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด โดยยังไม่มีการผลิตในประเทศไทย

มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ริเริ่มโครงการผ่าตัดเปลี่ยนเลนสแก้วตาเทียมสำหรับผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาสจำนวน 200 ราย มีระยะเวลาดำเนินงานโครงการ 5ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2562 -30สิงหาคม 2567  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ1.เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร์มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  2.เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรสีินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว3.เพื่อเป็นการเทอดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  4. เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาสได้เข้าถึงการรักษาผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม จำนวน 200 ราย

การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ ที่รพ.วัดไร่ขิง

30สิงหาคม 2562 ซึ่งเป็นปีแรกของการดำเนินโครงการ   มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยฯ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงกับมูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไรขิง) เพื่อจัดทำโครงการ “ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมสำหรับผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาสจำนวน 200 ราย” โครงการนี้ได้จัดให้บริการประชาชนผู้สูงอายุที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ และทางมูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) ได้ออกหน่วยให้บริการ ประจำปี 2562 ดังนี้ 1. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ออกให้บริการที่โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) 2. วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ออกให้บริการที่โรงพยาบาลยี่งอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นราธิวาส

ต่อมาปี 2563  ทางมูลนิธิโรงพยาลบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) และ โรงพยาบาลยี่งอเฉลิมพระเกียรติ  80 พรรษา จ.นราธิวาส ได้ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมให้กับคนไข้ผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาส ประจำปี 2563 เรียบร้อยแล้ว คือ . รพ.ยี่งอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นราธิวาส จำนวน 50 ราย 2. รพ. เมตตาประชารักษ์ (วัดไรขิง) จังหวัด นครปฐม จำนวน 31 ราย แต่พอเกิดการระบาดของไวรัส โควิด-19 ในปี  การดำเนินการโครงการจึงได้ชะลอการออกหน่วย

โครงการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมสำหรับผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาส กลับมาให้บริการอีกครั้ง   โดยเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยฯ และโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ได้จัดงานเปิด “โครงการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมสำหรับ ผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาส จำนวน 200 ราย”

ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยฯ และรพ.วัดไร่ขิง ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ โรคต้อกระจกผู้สูงอายุ

หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิดคลี่คลายลงไปมาก ในปี2566 มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนายรังสรรค์  ศรีวรศาสตร์  ประธานมูลนิธิพัฒนาเครื่องมือไทยฯ จึงได้ลงนามความร่วมมือ กับ มูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) โดยนายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และประธานมูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เพื่อสานต่อโครงการ “ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมสำหรับผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาส”ต่อไป โดยตั้งเป้าผ่าตัดดวงตาจำนวน 500ดวง  และดำเนินการผ่าตัดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา  นับเป็นการช่วยเหลือให้ผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาสเข้าถึงบริการ ลดระยะเวลารอคอยการผ่า ตัดลดภาวะตาบอดจากต้อกระจก สร้างคุณภาพการมองเห็นที่ดีแต่ผู้สูงอายุ โดยโครงการนี้ได้จัดให้บริการประชาชนผู้สูงอายุที่ทั่วประเทศ เพื่อมอบโลกสดใสและมอบคุณภาพชีวิตให้ผู้สูงวัย

โดยโครงการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมสำหรับผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาสจำนวน 500 ดวง  มีค่าใช้จ่ายการผ่าตัดดวงตาข้างละ1หมื่นบาท งบประมาณที่นำมาดำเนินโครงการล้วนเป็นเงินที่ผู้มีจิตศรัทธา รวมทั้งธุรกิจเอกชนรายใหญ่ต่างๆที่ร่วมบริจาค

ผู้สนใจต้องการบริจาคเพื่อมอบดวงตาสดใสกับผู้สูงวอายุที่ด้อยโอกาส สามารถ สนับสนุนโครงการ โดยการสั่ง จ่ายด้วยเช็คแคชเชียร์เช็คในนาม มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยหรือ หรือโอนเงินเข้าบัญชี มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทย ธนาคารกรุงเทพ สาขาอุทยาน วิทยาศาสตร์ เลขที่ 080-011168-4 ซึ่งผู้บริจาค สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ เนื่องจาก  มูลนิธิพัฒนาเครื่องมือแพทย์ไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นองค์กรสาธารณกุศล ลำดับที่ 952 ของประเทศสอบถามโทร. 081-4943625 โทรสาร 02-5646962 อีเมล์  : [email protected]

เพิ่มเพื่อน