'เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41'  9 โซน ไปได้ทั้งปี

หากนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวในโลกใบนี้ที่มีครบทุกแนว  ต้องมีประเทศไทยอยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ แน่นอน เพราะไม่ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ชุมชน และอาหาร แต่ละภาคก็มีเสน่ห์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน  เรียกได้ว่าชอบแนวไหนก็วางแผนเที่ยวได้ทั้งปี

สำหรับใครที่ยังไม่เคยเดินทางเที่ยวครบทุกภาค และอยากรู้ว่าแต่ละภาคมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจอย่างไร  บอกเลยว่าต้องมาเปิดประสบการณ์ในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41” ประจำปี 2566   ซึ่งในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้ชูแนวคิดนวัฒนธรรม (นวัตกรรม + วัฒนธรรม หรือ InnoCultural for Sustainable Tourism) โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มาผสมผสานกับ วัฒนธรรมและ Soft Power ของไทย เพื่อนำเสนอการท่องเที่ยวเมืองไทย ทั้ง 5 ภูมิภาคในรูปแบบวัฒนธรรมสมัยใหม่ ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) สามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีตั้งแต่วันนี้-6 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ชั้น LG ฮอลล์ 5-8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ  

พร้อมแล้วก็ไปตะลุยเที่ยวชมงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย กันเลย โดยภายในงานจะประกอบด้วย 9 โซนหลัก ที่จะนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ทั้ง 5 ภูมิภาค พร้อมด้วยหลากหลาย Landmark จากแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters และ กิจกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อนำเสนอวัฒนธรรมไทยด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย  พร้อมจัดเต็มสุดมันส์กับการแสดงทางวัฒนธรรมของแต่ละภาค และการแสดงดนตรีสดสนุกๆจากนักร้องศิลปินมากความสามารถ งานนี้บอกเลยนอกจากจะตื่นตาตื่นตาใจแล้ว ยังอิ่มจนท้องกางแน่นอน

เริ่มกันในโซนที่ 1 : AMAZING THAILAND โซนนี้มี ไฮไลท์ห้ามพลาด กับจุดถ่ายรูปสุดอาร์ต Theme Area : Delightful Destinations รังสรรค์มวลบุปผาเป็น แผนที่ประเทศไทยถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคมาเป็นฉากหลังให้ถ่ายรูปฟินๆ พร้อมกับแหล่งท่องเที่ยว Unseen new chapters อย่าง ภาคเหนือ ได้แก่  มหัศจรรย์น้ำตกหมอกเมืองไทย จ.เพชรบูรณ์ ภาคกลาง ได้แก่ ภูผาแรด จ.ราชบุรี ภาคตะวันออก ได้แก่ วัดมณีวงศ์ จ.นครนายก ภาคอีสาน ได้แก่ มอหินขาว จ.ชัยภูมิ และภาคใต้ เกาะหลงยุคแห่งอันดามัน ที่สร้างสรรค์โดย Comm. Arts x RakDok  ยังมีมุมเก๋ๆกับ LED Box ที่จะพาทุกคนหลุดเข้าไปสู่การท่องเที่ยวเสมือนจริงด้วยมุมมองภาพแหล่งท่องเที่ยว แบบรอบตัว 360องศา รูปแบบ Full Dimension ใครที่ชื่นชอบการเล่นต้องมาผจญภัยกับเกม Home Sweet Home ผ่าน Deep Culture หรือวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณของไทย ยังมีร้านคาเฟ่รักษ์โลก และจุดจำหน่ายของที่ระลึกน่ารักๆ

โซนที่ 2 : สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก มาในธีม Love Ea(s)t All Around กับเส้นทางท่องเที่ยวผ่าน 4 Story ได้แก่ ยืนหนึ่งเรื่องกิน สุดฟินเรื่องสบาย จิตผ่อนคลายสายมู เรียนรู้เรื่องรักษ์พร้อมนำ Soft Power ด้านอาหาร มาเป็นจุดเด่น ในโซนนี้จำลองแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆมาไว้ ไม่ว่าจะเป็น เกาะขายหัวเราะ จ.ตราด สะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง เป็นต้น ไม่หน่ำใจก็ไปบุกกินกับเมนูน่าหม่ำทั้ง ผลไม้ และอาหารทะเล อาทิ ส้มตำอาวดี้ หอยจ๊อปู แม่วรรณา ข้าวหลามแม่ไข่ทูลเกล้า พร้อมไปย่อยอาหารกับกิจกรรม ปีนผา ใครอยากทดสอบร่างกาย ต้องลอง ทดลองเล่น Surf และพัต กอล์ฟ วัดทักษะการทรงตัวกันสักหน่อย

โซนที่ 3 : Trendy C2 ภาคกลาง  ผ่อนคลายในธีม ความสุขง่ายๆ หาได้ที่ภาคกลาง แวะเลยที่ไฮไลท์จุดแรกที่ได้จำลอง หอมนสิการ ธรรมะแกลลอรี ในจ.สระบุรี ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Unseen New Chapter อันดับ 1 ประจำปี 2566 ซึ่งด้านในจะเป็นการจัดแสดงแบบ Interactive พาผู้เข้าชมย้อนสู่ครั้งพุทธกาลในช่วงการตรัสรู้ของเจ้าชายสิทธัตถะ และภาพจำลองของพระบรมโลกนาถพระพุทธรูปองค์สีทอง แวะมาที่จุด Happy Workplace ในรูปแบบ Trendy Camping เพื่อนำเสนอรถคาราวาน Airstream และ Camper Van  สนุกสนานกับดนตรีและการแสดง ใครชอบงานฝีมือต้องมาที่ Happy Story สาธิตของศิลป์แผ่นดิน โดยนำเสนองานหัตถศิลป์ที่หาดู ได้ยากจากช่างสถาบันสิริกิติ์ และการประกอบเครื่องคาวหวานจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) เป็นต้น

 โซนที่ 4: เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ นำเสนอแนวคิดหลัก Touch Feel and Memorable ปักหมุดมุมใหม่ เปิดประสบการณ์แห่งเมืองเหนือ ต๊ะต่อนยอนชิมอาหารที่กาดหมั้ว โดยมีร้านที่ได้มิชลินจากจ.เชียงใหม่ ได้แก่ Ginger Farm Kitchen ครัวหลองข้าว ร้านดำรงค์ By หมูทอดกาดหลวงเชียงใหม่ ก๋วยเตี๋ยวอังเล ร้านมิสเตอร์ฮังเล จ.ลำปาง ข้าวเปิ๊บบ้านนาต้น จั่น จ.สุโขทัย ขนมเทียนเสวย บ้านกนกมณี จ.อุตรดิตถ์ เพลิดเพลินกับโซน ซะป๊ะ คราฟท์กิจกรรม DIY อาทิ การเพ้นท์เครื่องปั้นดินเผาชุมชนบ้านเหมืองกุง แสตมป์ไม้บนถุงผ้า ฟ้าฮ่าม Indigo Craft & Studio จ.แพร่ และอื่นๆ มาตื่นตากับการจัดแสดง Illumination ในโซนเวิ้งแวดเวียง ฉาย ภาพ Visual ใช้แสงสีสร้างความมหัศจรรย์เหนือจินตนาการ จากนั้นนำเสนอการเดินทาง ท่องเที่ยวในเรื่องความเชื่อและศรัทธา รวมแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ของภาคเหนือ บอกเลยกิจกรรมภาคนี้แน่นๆ เอ็นจอยสุดๆ

โซนที่ 5 : หรอยแรงแหล่งใต้ มาได้แนวคิด เที่ยวใต้ : สะดวกสบายทันสมัย ปลอดภัยได้ มาตรฐาน และสัมผัสกับประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน  ไฮไลท์ห้ามพลาดของโซนนี้คือ การได้สัมผัสคลื่น ทะเล สายลม และวัฒนธรรมท้องถิ่นสุดอันซีนของภาคใต้ทุกจังหวัดทุก ช่วงเวลาผ่านจอ LED ยักษ์ ขนาด 22 x6 เมตร ฉายภาพสถานที่ท่องเที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้ใน มุมมองต่างๆ ซึ่งเราก็ได้สัมผัสบรรยากาศสุดอันซีนของผืนป่าฮาลา บาลา  มีจุดถ่ายรูปกับแหล่งท่องเที่ยวสุด Popular Southern เช่น ซุ้มประตูอุทยานธรรมธรรมเขานาใน หลวง จ.สุราษฎร์ธานี  เขาพับผ้า หนึ่งใน Unseen New Chapters จ.พังงา มาใต้ก็ต้องกินกันให้จุกที่ หลาดหรอยแรง ที่ยกร้านอาหารเจ้าดังถึง 36 ร้าน

โซนที่ 6 : หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน  กับธีม อีสาน…ไปไสกะ แซ่บ มีการแสดงขบวนแห่เซิ้งบั้งไฟเปิดหมู่บ้านอีสาน การ แสดงผีตาโขน การแสดงหมอลำหุ่นกระติ๊ป การแสดงหุ่นเต้น และดนตรีโฟล์คอีสาน แต่ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือ ไห…เทค คือ ไหปลาร้าเรืองแสง ที่ผู้ชมต้องเดินเข้าในไหปลาร้า ไฮเทค ก่อนเข้าถ่ายรูปด้านหน้าสักนิด เพื่อทดลองเป็นปลาในไห และเรียนรู้เรื่องราวของปลาร้าผ่านน้อง ยอนนี่ ปลาสุดน่ารักด้วย  พร้อมกับแซ่บปากบานกับ 20 จานดัง เช่น ตำกระเทย สาเกต จ. ร้อยเอ็ด อังแกบบอบ จ.สุรินทร์ เนื้อแห้ง 100 ปี จ.อำนาจเจริญ หม่ำแม่คำตัน จ.ชัยภู มอ หมูยอ ป.อุบล จ.อุบลราชธานี หมี่กระโทกป้าเปลื้อง จ.นครราชสีมา สามพี่น้องไก่ย่าง เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พร้อมช้อปปิ้งสินค้า ISAN Arts & Crafts เช่น ผ้าไหม ผ้าทอมือย้อมคราม ย้อมโคลน ย้อมสีธรรมชาติ ย้อมภูอัคนี กระเป๋าเสื่อกก กลุ่มเครื่องประดับ ขนมาแบบจัดเต็ม

โซนที่ 7 : พันธมิตรท่องเที่ยวไทย โซนนี้จะรวบรวมหน่วยงานพันธมิตรด้านการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อนำเสนอ ความน่าสนใจของการท่องเที่ยวในมุมต่าง ๆ อาทิ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. นำเสนอนิทรรศการมีชีวิต เส้นทางและแหล่งท่องเที่ยวธรณีวิทยาเชียงราย ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน  สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT นำเสนอ Soft Power ด้านแฟชั่น ผ่านโครงการประกวดชุดจากผ้าไทยประยุกต์ร่วมสมัย SACIT AWARD และ SACIT YOUTH CRAFTS CAMP เป็นต้น

โซนที่ 8 : เวทีกลาง จัดเต็มบรรยากาศแห่งความสนุกสนานชวนออกท่องเที่ยวแบบ Unstoppable ตลอด 5 วัน กับ การแสดงเชิงวัฒนธรรมทั้ง 5 ภูมิภาค เช่น การแสดงนาฎมวยไทย และ คีตะมวยไทย , การแสดงจากวิทยาลัยนาฎศิลปกาฬสินธุ์ , การแสดงจากวิทยาลัยนาฎศิลปพัทลุง , รำวงเพชรบุรี , ทิฟฟานี่ คาบาเร่ต์โชว์ , โขนและโนรา , โนราใต้x นาฏลายเจิงเหนือ จากคณะเทพศรัทธา , การแสดงล้านนาจากคณะสกุลจันทร์ , วงดนตรีประยุกต์นิศาเทวา , ฟีโน่ เดอะ ระนาด มือระนาดรางแก้วไฟวิบวับ และการแสดงจากศิลปินมากมาย  

ปิดท้ายด้วย โซนที่ 9 : TAT Net Zero นำเสนอความพร้อมของสินค้า บริการ และกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญในเรื่องการ ท่องเที่ยวยั่งยืน

งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ มีเส้นทางให้เลือกเพื่อมายังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ทั้ง รถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ทางออก 3 หรือรถประจำทาง สาย 136 รถแท็กซี่ หากมารถยนต์ส่วนตัว สามารถมาจอดได้ที่ ชั้น B1 B2 LM จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก ชั่วโมง ถัดไป ชั่วโมงละ 30 บาท สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center 1672 Travel Buddy และติดตามข้อมูลได้ที่ thai.tourismthailand.org/Articles/ttf2023