กรุงเทพฯ เมืองใหญ่เต็มไปโครงการพัฒนาที่ดิน ทำเลดีๆ มีโครงการคอนโด ตึกสูงเกิดขึ้นมากมาย ความฝันจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังบนที่ดินในเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย ราคาบ้านและที่ดินเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มเติบโตกว่ารายได้คนเมือง ในช่วง 10 ปีมานี้ราคาบ้านมีแต่ทะยานสูงขึ้น โดยเฉพาะคนจนเมือง ความเหลื่อมล้ำและรายได้น้อยไม่มีทางเลือกด้านที่อยู่อาศัย ทำให้คนจนเมืองไร้ที่อยู่อาศัยยังมีอยู่อีกจำนวนมาก
มีความพยายามเปลี่ยนแปลงเมือง เพื่อเอื้อให้คนทุกกลุ่มในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผ่านการประชุมแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยอาคารร้างและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยที่อยู่อาศัยในพื้นที่อาคารร้าง จัดโดยสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย (สพอ.) กรุงเทพมหานคร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย (มพศ.) แนวคิดฟื้นตึกร้างสร้างที่อยู่อาศัย เริ่มจากการสำรวจอาคารร้างในกรุงเทพฯ ของ สพอ. ร่วมกับ มพศ. และทีมทำงานชุมชนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 พบจำนวนอาคารร้างทั้งลักษณะเป็นอาคารคอนโดและหมู่บ้านจัดสรรที่สร้างไม่เสร็จกว่า 400 อาคาร จึงเกิดแนวคิดการพัฒนาอาคารเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ผู้มีรายได้น้อยที่ขาดแคลนที่อยู่อาศัย ผู้กำลังประสบปัญหาไม่มีที่อยู่อาศัยหรือถูกไล่รื้อ รวมถึงช่วยคนรุ่นใหม่ในวิกฤตที่อยู่อาศัยราคาแพง
ตึกร้างสร้างไม่เสร็จในเมือง เป้าหมายพัฒนาที่อยู่อาศัยคนจน
นพพรรณ พรหมศรี เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย ผู้มีประสบการณ์ทำงานด้านที่อยู่อาศัยคนจนเมือง ให้ภาพสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในเมืองว่า ทุกวันนี้โอกาสในการซื้อขายที่ดินและมีบ้านเป็นของตัวเองน้อยมาก ไม่เพียงกลุ่มคนจน และผู้มีรายได้น้อยทั่วไป แต่รวมถึงคนชั้นกลาง ด้วยราคาที่ดินและบ้านในเมืองไม่มีลดลงเลย เพราะที่ดินเป็นสินค้าสำคัญต่อการลงทุนธุรกิจ ที่ดินในเมืองที่มีอยู่จำกัดถูกแย่งชิง ทำโครงการพัฒนาต่างๆ ตลอดเวลา คนอยากมีบ้านต้องกู้เงินผ่อนบ้านระยะยาวหรือตัดสินใจซื้อบ้านนอกเมืองใหญ่ เกิดต้นทุนเดินทางสูง โอกาสบ้านหลุดมือก็เยอะ หากรายได้ลดลงหรือตกงาน ขณะที่ภาครัฐขาดนโยบายจัดการปัญหานี้ ส่วน พอช.มีบ้านมั่นคง โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของคนในชุมชนแออัด ซึ่งก็ต้องอาศัยการเช่าที่ดินของหน่วยงานรัฐ
“ นอกจากนี้ มีกลุ่มคนตกหล่นที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและโอกาสต่ำกว่าคนในชุมชนแออัด ประกอบด้วยคนไร้บ้านใช้ชีวิตในที่สาธารณะ มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ กลุ่มคนที่อยู่ห้องเช่าราคาถูกตามชุมชน แต่ก็อยากมีบ้าน มีห้องเช่าราคาถูก เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ อีกทั้งคนชั้นกลางมีแนวโน้มเป็นครอบครัวเดี่ยวเพิ่มขึ้น รวมถึงคนรุ่นใหม่ บัณฑิตจบใหม่ ที่รายได้ไม่สูงนัก ทิศทางข้างหน้าที่อยู่อาศัยเช่าราคาไม่แพง คือ คำตอบ ซึ่งหอพัก ห้องเช่า ราคาไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท คนจนรับไหว ส่วนคนชั้นกลาง ราคา 3,000-4,000 บาท “ นพพรรณ กล่าว
เธอย้ำเมืองที่เป็นธรรมต้องประกอบด้วยคนทุกภาคส่วน การพัฒนาเมืองเราจะเห็นคนลงแรงทุกสถานะ ทุกอาชีพ ทั้งคนขายของ คนขายแรงงาน คนหาเช้ากินค่ำ การถูกกีดกันที่อยู่อาศัย แสดงถึงความเหลื่อมล้ำ เมืองที่น่าอยู่ ทุกคนต้องมีที่อยู่อาศัยเหมาะกับสถานะทางเศรษฐกิจและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของตนเอง
สำรวจอาคารร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
เมื่อ กทม. ฟื้นสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย ประกาศจะปรับปรุงตึกร้างเป็นเป้าหมายแรก หวังเพิ่มสวัสดิการด้านที่อาศัยให้คนจนเมือง เลขาธิการ มพศ.ระบุจากนโยบายที่เขียนไว้ต้องเดินหน้า หาแนวทางขยับ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในเชิงปฏิบัติเพราะทุกเขตของกรุงเทพฯ มีอาคารร้าง ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หากสามารถนำมาปรับปรุงเป็นห้องเช่าราคาถูก จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกลับคืนมา ถือเป็นทางเลือกที่อยู่อาศัย เป็นหลักประกันชีวิต ช่วงโควิดโรงงานปิด คนตกงาน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน หลุดมาเป็นคนไร้บ้านจำนวนมาก ปัจจุบันมีคนไร้บ้าน 1,500-2,000 คน ในกรุงเทพฯ
“ การชุบชีวิตตึกร้างมาเป็นที่อยู่ราคาถูก จะช่วยหยุดคนเข้าสู่วงจรคนไร้บ้านหน้าใหม่ และช่วยคนชั้นกลางมีเงินเหลือหมุนเวียนจับจ่ายใช้สอยด้านอื่นๆ ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น “
ภาพชีวิตชุมชนบนอาคารร้างในเมืองใหญ่
อย่างไรก็ตาม นพพรรณระบุแนวทางพัฒนาที่อยู่อาศัยนี้ไม่ง่าย มีปัญหาและอุปสรรคมาก มีประวัติทางกฎหมายต่างๆ ทำให้ทิ้งร้างมานาน ควรสร้างกลไกการพูดคุยกับเจ้าของตึกร้างให้ชัดเจน โจทย์ใหญ่ต้องมีทีมเจรจา ค้นหาอาคารร้างที่เหมาะสมในแง่การปรับปรุงไม่ลงทุนสูงมาก หากนำมาทำที่อยู่เพื่อเช่าไม่ผิดกฎหมาย เจ้าของอาคารต้องยินดีให้ใช้อาคารเป็นที่อยู่อาศียเช่า ด้านงบประมาณปรับปรุงอาคารร้างเบื้องต้น กทม.มีแนวคิดตั้งกองทุนที่อยู่อาศัย หรืออีกแนวทางหาภาคีเอกชนร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยและบริหารจัดการ ซึ่งที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ร้างจะต้องมีหลายระดับตอบโจทย์คนจน คนมีรายได้น้อย คนชั้นกลาง คนจบใหม่ บนหลักความปลอดภัยเป็นที่อยู่อาศัยเช่าที่มีความมั่นคง มีหลักประกันคุ้มครองผู้เช่า ไม่ขึ้นราคาค่าเช่าอย่างไม่เหมาะสม
“ จาก 400 อาคารร้างที่สำรวจ จะทดลองนำร่องในพื้นที่อาคารร้างสูง 6 ชั้น บริเวณแยกแม้นศรี ซึ่งอยู่ในที่ดินสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตามแผนจะพัฒนาและปรับปรุงให้เป็นทั้งห้องเช่าของคนจน และคนไร้บ้านย่านหัวลำโพง ซึ่งตามชั้นตอนต้องร่วมกันออกแบบห้องพักตามความต้องการ เมื่อปรับปรุงตึกเสร็จจะมีแผนพัฒนาด้านใด อาชีพ อาหาร สวัสดิการ “ นพพรรณให้ข้อมูล
คนไร้บ้านใช้พื้นที่อาคารร้างพักผ่อน
นอกจากโมเดลชุบชีวิตตึกร้างแล้ว ทางมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัยมีข้อเสนอแนวทางการจัดการที่อยู่อาศัยในสังคมเมืองอีก 2 รูปแบบ เธออธิบายว่า โมเดลแรกใช้ศักยภาพชุมชนบ้านมั่นคงมาบริหารจัดการช่วยเหลือผู้เช่าที่กระกระจัดกระจายหาห้องเช่าราคาถูก ซึ่งโครงการบ้านมั่นคงจะมีที่ดินว่างของชุมชน นำที่ดินนั้นมาพัฒนาจัดทำเป็นห้องเช่าราคาถูก นำร่องใน 3 พื้นที่ ประกอบด้วยศูนย์พักคนไร้บ้าน จ.ปทุมธานี มีจำนวน 5 ห้อง ,ที่ดินซอยเลียบวารี 79 จำนวน 10 ห้อง และศูนย์พักคนไร้บ้าน บางกอกน้อย 8 ห้อง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบก่อสร้าง พื้นที่เหล่านี้มีสมาชิกคนไร้บ้านอาศัย มีการเพาะปลูก ตั้งกองทุนค่าน้ำ ค่าไฟ
อีกโมเดลสร้างใหม่ โดยใช้พื้นที่ว่างเปล่าของหน่วยงานต่างๆ หน่วยงานรัฐ โดยเช่าที่ดินนำมาทำเป็นห้องเช่าราคาถูก เห็นว่าอาจจะเป็นแนวทางที่ง่ายกว่าการเจรจาพัฒนาที่อยู่อาศัยอาคารร้าง
ส่วนสถานการณ์การอยู่อาศัยชุมชนบนซากอาคารร้าง 2 แห่ง คือ ชุมชนสิรินเพลส และชุมชนจรัญ 95/1 นพพรรณเผยว่า ชุมชนจรัญ 95/1 ซึ่งมีคนไร้บ้านและคนยากจนจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่บนตึกร้าง ไม่สามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยต่อได้ เพราะเป็นที่ดินที่จะถูกเวรคืนก่อสร้างสะพาน รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมหาที่อยู่ใหม่รองรับคนกลุ่มนี้ ส่วนชุมชนตึกร้างสิรินเพลส ย่านซอยรามคำแหง 81 ที่มีผู้อาศัยหลายร้อยคน มีอุปสรรคด้านกฎหมายหากจะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยให้เช่า และอาคารร้างมีขนาดใหญ่มากต้องใช้งบประมาณมหาศาล
ทั้งนี้ จะต้องติดตามต่อไปว่า ซากคอนกรีตทั่วกรุงทั้งตึกร้างที่มีคนอาศัยหลับนอนและตึกร้างที่แสนเปล่าเปลี่ยว จะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ให้คนจนเมืองได้หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุราษฎร์ธานี จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี67 ย้ำชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน
UN – HABITAT หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’ กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’
รวมพลังคนจนแก้ปัญหาที่ดิน-ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ วันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2567
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’
‘21 ปีบ้านมั่นคง’ พอช. แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนทั่วประเทศ กว่า 3 แสนครัวเรือน
รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และสร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยแก่คนจนในเมืองที่ ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัด
เสียงจากคลองเปรมประชากร…บ้านหลังใหม่ชีวิตใหม่ “คืนสายน้ำให้คนคลอง คืนสายคลองให้คนเมือง”
คลองเปรมประชากร มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คลองนี้ได้ประสบปัญหามากมาย
บอร์ด พอช. มีมติ พักชำระหนี้องค์กรผู้ใช้สินเชื่อในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ
สถานการณ์การเกิดอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุยางิ ในระหว่างวันที่ 7 - 8 กันยายน 2567 ส่งผลกระทบต่อประชาชนในจังหวัดเชียงราย จำนวน 7 อำเภอ
รมว.พม. แจ้งตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 34 แห่ง ใน 13 จว. ช่วยกลุ่มเปราะบาง-ผู้ประสบภัยน้ำท่วมริมแม่น้ำโขง ด้าน พอช. พร้อมอนุมัติงบช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบภัยพิบัติภาคเหนือและอีสาน
จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลกระทบในพื้นที่ 8 จังหวัด 47 อำเภอ 207 ตำบล 22,817 ครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา