หน่วยราชการในพระองค์-มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มอบต้นไม้แก่ชุมชน

หน่วยราชการในพระองค์พร้อมด้วยมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ มอบต้นไม้แก่ชุมชนประชาร่วมใจ 1-2 สืบสานพระราชปณิธานเศรษฐกิจพอเพียง

16 ก.ค.66 เวลา 08.20 น. นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ เป็นประธานในกิจกรรมมอบต้นไม้แก่ประชาชนผู้อยู่อาศัย ณ ชุมชนประชาร่วมใจ 1 และ 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร  โดยมีข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ คณะกรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กรมป่าไม้ กรุงเทพมหานคร เครือเอสซีจี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันอาศรมศิลป์ จิตอาสาพระราชทาน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมด้วยอย่างพร้อมเพรียง โดยมีท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ เลขาธิการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม

จรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ กล่าวว่า กิจกรรมมอบต้นไม้แก่ชุมชนประชาร่วมใจ 1 และ 2 เป็นกิจกรรมที่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ร่วมกับหน่วยราชการ ในพระองค์ กรุงเทพมหานคร กรมป่าไม้ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายหน่วยงาน ร่วมใจกันดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เสด็จๆ ขึ้นทรงราชย์ นับว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ และเป็นการสืบสาน รักษาต่อยอด แนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้อย่างดียิ่ง 

“ ปัจจุบันนี้ทั่วโลกต่างยอมรับและยกย่องว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ได้อย่างยั่งยืนแท้จริง และการสร้างพื้นที่สีเขียวกลางใจเมือง ก็เป็นแนวทางที่นานาประเทศยึดถือในการพัฒนาเมืองมาช้านาหวังว่าทุกท่านจะร่วมกันดูแลพืชพรรณไม้ที่ได้ปลูกด้วยกันในวันนี้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสนองพระราชปณิธานในอันที่จะดำรงไว้ซึ่งความสุขของประชาราษฎร์สืบไป” องคมนตรี กล่าว

จากนั้นเป็นพิธีมอบต้นไม้ให้แก่ นายพายัพ  เขื่อนขันธ์ ประธานชุมชนประชาร่วมใจ 1 และนางสมร  จันทร์ฉุน ประธานชุมชนประชาร่วมใจ 2 ซึ่งพันธ์ุไม้ต่างๆ ที่ให้ประกอบด้วยพืชผักสวนครัว เช่น ตะไคร้ มะเขือ พริก ไม้ดอกไม้ประดับ อาทิ ทองอุไร พุดซ้อน ดาวเรือง เฟิร์นก้างปลา ไม้ยืนต้น เช่น ยางนา พะยอม ต่อจากนั้น องคมนตรี ข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ คณะกรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันปลูกต้นไม้ลงในกระถางสวนครัว ซึ่งเมื่อปลูกต้นไม้แล้วเสร็จ จิตอาสาพระราชทานได้ช่วยขนย้ายเพื่อนำกลับไปตั้งที่บริเวณบ้านของประชาชนแต่ละครัวเรือน รวมทั้งได้ร่วมกันพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดเตรียมเครื่องเล่นสนาม ลานกีฬา ปลูกพืชผักสวนครัว และปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาในพื้นที่สวนสาธารณะส่วนกลางของชุมชน สำหรับเป็นพื้นที่สร้างสุขภาวะ และเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนในชุมชนอีกด้วย

ต่อจากนั้น  องคมนตรี และคณะ ได้เยี่ยมชมบ้านเรือนประชาชนผู้อยู่อาศัยในชุมชนประชาร่วมใจ 1 และรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ริมฝั่งคลองเปรมประชากรในพื้นที่ของชุมชน
ประชาร่วมใจ 1 และ 2 ซึ่งมีจำนวนรวม 481 หลังคาเรือน ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสวยงามสะอาดตา

กิจกรรมการมอบต้นไม้แก่ประชาชนผู้อยู่อาศัยในชุมชนประชาร่วมใจ 1 และ 2 ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้น จากความร่วมมือของหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้ความสำคัญกับการร่วมแรงร่วมใจกันของประชาชนทุกหมู่เหล่า ในการพัฒนาคูคลองในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นลำคลองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อกาลเวลาที่ผ่านไป ได้เกิดความเสื่อมสภาพของลำคลองมีขยะมูลฝอย มีการรุกล้ำลำคลอง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานพระราชดำริให้กลับคืนสู่ความใสสะอาด และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น  อีกทั้งยังเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  การพึ่งพาตนเอง และการดำรงชีวิตอย่างพออยู่พอกิน  มาเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต

โดยให้ชุมชนคัดเลือกพันธุ์พืชผักสวนครัวมาปลูกที่แปลงผักหน้าบ้าน เพื่อนำมาใช้ในการประกอบอาหาร เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายครัวเรือนได้ทางหนึ่ง  รวมถึงแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์ป่าไม้  และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวกลางใจเมือง ดังพระราโชบาย “สร้างป่าเล็ก ในเมืองใหญ่”  โดยจัดสร้างสวนป่า สวนสาธารณะ สวนดอกไม้นานาพันธุ์ เพื่อเป็นสถานที่สร้างสุขภาวะ  สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ  เป็นปอดขนาดใหญ่สำหรับหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  

อีกทั้งเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกแก่ประชาชนและเยาวชนให้ร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนองพระราชปณิธานเพื่อดำรงไว้ซึ่งความสุขของอาณาราษฎรสืบไป  พระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยเสมอมา  ทำให้ประชาชนคลายทุกข์ร้อน เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น