สพฐ.ทำระบบฐานข้อมูลกลางสำเร็จ ฉายภาพการศึกษาประเทศ ครอบคลุมครู 5แสน นักเรียน 6.5 ล้านคน

12 ก.ค.2566-นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า สพฐ.ได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง เพื่อรวบรวมระบบงานหลักของ สพฐ.ในการใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐานแล้ว ดังนี้ 1. ระบบบริหารข้อมูลนักเรียนรายบุคคล (DMC) เป็นระบบที่พัฒนาเพื่อบริหารจัดการงบประมาณ ให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับรายการหนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ภาครัฐให้การสนับสนุน 2. ระบบบริหารงานบุคคล (HRMS) เป็นระบบบริหารงานบุคลากรในสังกัด สพฐ. 3. ระบบงานทะเบียนวัดผล (SGS) เป็นระบบที่ใช้ในการบริหารจัดการผลการเรียนของนักเรียน 4. ระบบบริหารงานที่ดินสิ่งก่อสร้าง (B-OBEC) เป็นระบบที่บริหารจัดการข้อมูลเกี่ยวกับ อาคารสถานที่ ตลอดจนที่ดิน สิ่งก่อสร้าง 5. ระบบงานสารบรรณ (Smart Obec) เป็นระบบบริหารจัดการ การรับส่งเอกสารทางราชการ ตั้งแต่ระดับสถานศึกษา จนถึงหน่วยงานภายในสำนักงานคณะกรรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 6. ระบบติดตามสุขภาพจิตนักเรียน (School Health Hero) เป็นระบบที่คอยติดตาม สุขภาพจิตของนักเรียน ตลอดจนแจ้งผู้เชี่ยวชาญจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้การช่วยเหลือ ปรึกษาและรักษา และ 7. ระบบฐานข้อมูลครู นักเรียน สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (SET) เป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลนักเรียนของสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ซึ่งทั้งหมดนี้พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลนักเรียน ข้อมูลบุคลากร งบประมาณ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน เป็นระบบงานคอมพิวเตอร์ ที่ใช้เป็นเครื่องมือปรับเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาโดยตรง เป็นระบบอัตโนมัติ ที่จะนำมาแทนที่การปฏิบัติงานแบบเดิม

เลขาสพฐ. กล่าวต่อว่า ระบบเทคโนโลยีฐานข้อมูลกลางนี้ ทำให้เห็นภาพรวมใหญ่ของประเทศ ซึ่ง สพฐ.เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เด็กและเยาวชนตั้งแต่ระดับอนุบาล 3 ขวบ จนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีสถานศึกษาในสังกัด 29,312 แห่ง มีครู และบุคลากรทางการศึกษา 5 แสนกว่าคน ดูแลนักเรียนในสังกัดทั่วประเทศมากกว่า 6.5 ล้านคน ดังนั้น จึงรอไม่ได้และถ้าไม่นำเทคโนโลยีมาใช้ก็จะไม่ทันการณ์ สพฐ.จึงได้พัฒนาระบบของเราขึ้น และจากการใช้งานระบบที่พัฒนาขึ้น พบว่า เรื่องเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการ เป็นไปในทิศทางที่ดี เราสามารถดึงข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการบริหารได้หมด แต่เรื่องเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ เทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน นั้น ประสิทธิภาพยังไม่เต็มที่ ทั้งในส่วนของซอฟต์แวร์ โปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน และ ในส่วนของฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ รวมไปถึงเรายังไม่สามารถจัดหาเครื่องมือให้ครู และนักเรียน ได้อย่างเพียงพอ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต เครื่องมือต่างๆควรมีทุกโรงเรียน เพียงพอและทันสมัย มีอินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ เป็นต้น

นายอัมพร กล่าวด้วยว่า นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตระหนักถึงเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัล โดยได้มอบหมายให้ สพฐ.จัดทำโครงการ ‘การพัฒนาระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อรองรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของกระทรวงศึกษาธิการ ’ เป็นเมกกะโปรเจคขนาดใหญ่ ในกรอบวงเงิน 3,550 ล้านบาทเศษ โดยมีเป้าหมายให้มีระบบประมวลผลแบบคลาวด์ระดับกระทรวงศึกษาธิการ หรือ MOE Private Cloud เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการใช้ทรัพยากรระบบคอมพิวเตอร์ร่วมกัน, มีรูปแบบการจัดการเรียนรู้แห่งชาติโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน, มีรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐาน และ มีระบบเครือข่ายการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Network) ให้มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง เป็นเครือข่ายเฉพาะการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเชื่อมต่อสถานศึกษาและหน่วยงานในสังกัดให้เป็นเครือข่ายเดียวกัน โดยได้เสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติในภาพรวมใหญ่ ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้มีมติให้ความเห็นชอบในหลักการเฉพาะส่วนที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์ ในกรอบวงเงิน 3,198 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ สพฐ.ก็จะจะมีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือ และเสนอของบประมาณอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงศึกษาธิการ เร่งผลักดันการเรียนรู้แบบ Active Learning

กระทรวงศึกษาธิการ สั่ง สพฐ. เร่งผลักดันการเรียนรู้แบบ Active Learning ให้ครอบคลุมทุกภาค ทุกโรงเรียน หวัง ส่งเสริมให้นักเรียนตั้งคำถามและหาคำตอบเอง แทนการท่องจำแบบเดิม

การจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ขับเคลื่อนได้จริงตามนโยบายและจุดเน้นของ สพฐ.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 ต้นแบบการส่งเสริม การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ โดย ดร.ภูมิ พระรักษา

16 พ.ค.เปิดเทอมแน่แต่ให้สิทธิ์โรงเรียนเลื่อนหากมี 'โควิด-ฝุ่นพิษ-อากาศร้อน'

รัฐบาลย้ำ สพฐ.พร้อมเปิดเทอม 16 พ.ค. นี้ กำชับผู้บริหารโรงเรียนปรับรูปแบบการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม คำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นสำคัญ

สพฐ.ทำโครงการเงินอุดหนุนรายหัวลดความเหลื่อมล้ำการศึกษา

โฆษกรัฐบาลเผย สพฐ.ทำโครงการสนับสนุนเงินอุดหนุนรายหัว อนุบาล – ประถม – มัธยม – ปวช. พร้อมเงินสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ ลดภาระผู้ปกครอง