สร้างคอมมิวนิตี้’สุนัขบำบัด’ ช่วยคนหายเศร้า

สุนัขเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของมนุษย์อันดับต้นๆ และมีสายพันธุ์หลากหลายกว่า 300 สายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีอุปนิสัยแตกต่างกันด้วย คนนิยมเลี้ยงด้วยน้องหมามีความซื่อสัตย์ หมาแสนรู้ยังรักนายยิ่งชีพปกป้องจากโจรร้าย ปัจจุบันคนกับสุนัขผูกพันกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว สัตว์เลี้ยงคู่ใจมาคลายเหงา ช่วยให้ยิ้มได้หายเศร้า   อย่างในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่าง  เพจ ลีโอ #ไอ้หนูของยาย น้องหมาพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ ที่ได้เข้ามาสร้างสีสันให้กับคุณยายวัย 90 ปี มีชีวิตชีวา ขณะที่ผู้ติดตามเพจดูวิดีโอคลิปก็ช่วยฮีลใจ  วันที่ลีโอจากไปแม้จะเสียใจ แต่อยู่ในความทรงจำ ขณะที่ในต่างประเทศนิยมเลี้ยงสุนัขและแมวเพื่อบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้ากันเป็นจำนวนมาก เรียกว่า Pets Therapy หรือสัตว์เลี้ยงบำบัด 

ในบ้านเราทางสมาคมสุนัขนักบำบัดเดินหน้าโครงการและพัฒนาหลักสูตรสุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย  โดยนำหลักสูตรของ Therapy Dog Association Switzerland VTHS ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีความเข้มข้นและพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง 21 ปี มีมาตรฐานระดับสากล มาเป็นแนวทางการพัฒนาหลักสูตร  “Certified Therapy Dog Thailand”  ให้มีความเหมาะสมกับบริบทของคนไทย ตรงตามความต้องการในปัจจุบันของสังคมไทยที่สุด โครงการนี้เริ่มเมื่อปี 2563

โฉมหน้าทีมสุนัขบำบัดไทยรุ่นที่ 1  พร้อมทำงานช่วยเหลือสังคม

ทีมสุนัขบำบัดไทยในเปิดตัวครั้งแรกในงาน First in Thailand, Therapy Dog Thailand Team Debut! เมื่อเร็วๆ นี้  โดยมี 16 ทีมที่จบหลักสูตรในรุ่นแรก แบ่งเป็น เจ้าของสุนัข 18 คน และสุนัข 16 ตัว ที่มีสายพันธุ์หลากหลาย อาทิ โกลเด้น รีทริฟเวอร์, บอร์เดอร์ คอลลี่, ลาบราดอร์, ปักกิ่ง, ไวมาราเนอร์,  เทอร์เรีย และปอมเมอเรเนียน เป็นต้น งานนี้ สร้างการรับรู้ให้สังคมในวงกว้าง และต่อยอดความรู้จากหลักสูตรสู่การลงมือปฏิบัติหน้าที่น้องหมาบำบัดสร้างความรัก ความสุขให้แก่สังคมไทย โดยปัจจุบันยังมีอีก 24 ทีม อยู่ระหว่างการฝึกอบรมรุ่นที่ 2 อีกด้วย 

สำหรับผู้เข้ารับการอบรมในสูตร Certified Therapy Dog Thailand  มี 2 รุ่น รุ่นเยาวชนอายุ 14-18 ปี และรุ่นผู้ใหญ่อายุ 18-65 ปี โดยเจ้าของจะต้องอยู่อาศัยร่วมกันกับสุนัขตัวที่จะนำมาฝึกไม่น้อยกว่า 1 ปี และมีเวลาที่จะเข้ามาเรียน ให้ครบตามเวลาที่กำหนด 30 ชั่วโมงขึ้นไป  ในส่วนของสุนัขไม่ได้กำหนดสายพันธุ์ แต่น้องต้องสามารถฟังคำสั่งเบื้องต้นได้ ไม่กลัวการใช้ชีวิตนอกสถานที่ มีสุขภาพแข็งแรง ได้รับวัคซีนครบถ้วน

สุนัขบำบัดทางเลือกใหม่บำบัดผู้ป่วย

ทั้งเจ้าของสุนัขและสุนัขจะฝึกหนักทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวม 6 บทเรียน ครอบคลุมตั้งแต่การเรียนรู้ และทำความเข้าใจในเรื่องลักษณะพื้นฐานอาการโรค ความต้องการและความเหมาะสมในการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งนี้ ทีมสุนัขบำบัดจะเข้าดูแลกลุ่มผู้สูงวัย  กลุ่มผู้ป่วยโรคซึมเศร้า กลุ่มเด็กพิเศษ เช่น ออทิสติก สมาธิสั้น และกลุ่มผู้พิการ เช่น พิการสายตา หู หรือปัญญา เหล่าสุนัขบำบัดจะเป็นผู้ช่วยเปิดประตูใจ สร้างความสดใส ชวนออกกำลังกาย กระตุ้นประสาทสัมผัสทุกส่วนด้วยความใกล้ชิด สร้างความอ่อนโยน และสร้างความอบอุ่นใจ ให้ผู้เข้ารับการบำบัดมีรอยยิ้ม 

สำหรับทีมสุนัขบำบัดรุ่นแรกต้องผ่านการทดสอบและทำงานในฐานะจิตอาสา เพื่อทดลองบำบัดผู้รับบริการกว่า 150 ราย ในหลากหลายสถานที่ อาทิ การบำบัดเด็กหูหนวก ที่โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ การบำบัดผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าของ โรงพยาบาลศรีธัญญา การบำบัดผู้สูงวัยที่มีภาวะสมองเสื่อม ที่ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูหลอดเลือดสมอง The Senizens และการบำบัดเด็กพิเศษที่อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์การศึกษาพิเศษ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  หลังจบหลักสูตรแล้วจะได้รับใบรับรองการเป็นสุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย ระยะเวลา 1 ปี พร้อมกับสิทธิต่างๆ ตามที่สมาคมสุนัขนักบำบัดกำหนด สำหรับการเข้าอบรมราคาเริ่มต้นที่ 46,000-86,000 บาท 

วรกร โอสถารยกุล ผู้ก่อตั้งโครงการและหลักสูตรสุนัขบำบัดแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมสุนัขบำบัด กล่าวว่า ก้าวต่อไปของโครงการนี้จะให้ทีมสุนัขนักบำบัดฯ ที่จบการศึกษาได้สิทธิ์เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมสุนัขบำบัด เพื่อร่วมเป็นคณะกรรมการกำหนดทิศทางและการทำงานภาคการบำบัด เพื่อสร้างความรักและความสุขให้แก่สังคมไทย ในมิติต่างๆ อาทิ การเป็นหนึ่งในทางเลือกของเครื่องมือแพทย์ในการบำบัดผู้ป่วย, การเป็นสื่อการเรียนการสอนสำหรับ เด็กพิการหรือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ, การเป็นผู้นำในการส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์อันดีของเจ้าของสุนัขและสุนัขผ่านการเลี้ยงดู ตลอดจนการจัดพื้นที่เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีต่อการอยู่ร่วมกันของคนและสุนัข ไปจนถึงการพัฒนาต่อยอดไปสู่การทำงานภาคสังคมร่วมกับภาครัฐในการพัฒนาสุนัขชุมชน ตอนนี้เปิดรับสมัครรุ่นที่ 3 เพื่อสร้างทีมสุนัขนักบำบัด อีกหนึ่งทางเลือกเครื่องมือแพทย์สำหรับการบำบัดให้แก่ผู้ที่ต้องการต่อไป

น้องข้าวตังจบหลักสูตรพร้อมปฏิบัติหน้าที่

ทีมสุนัขบำบัด เดือน วีรวรรณ เจ้าของน้องข้าวตัง อายุ 6 ปี สุนัขที่รับอุปการะมาจากมูลนิธิเดอะวอยซ์ เล่าว่า ปกติข้าวตังเป็นสุนัขที่มีนิสัยขี้อาย กลัวสุนัขตัวใหญ่  แต่จะเข้ากับคนได้ง่าย มีความเชื่อใจ สามารถสัมผัสได้ ไม่เห่า ลูกสาวอยากลองนำข้าวตังเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรนี้ ก็ได้รับการฝึกเรียนรู้พฤติกรรมของสุนัข ทั้งการให้อาหาร การจูง ทำให้ทั้งข้าวตังและลูกสาวสนิทกันและเชื่อฟังกันมากขึ้น

“ ข้าวตังได้ลงพื้นที่บำบัดเด็กพิเศษ  เด็กๆจะเข้ามาสัมผัสลูบหัว ลูบตัว ทำให้เด็กอารมณ์ดี รู้สึกมีความสุข หากทางมูลนิธิสุนัขบำบัดต้องการให้ข้าวตังไปบำบัด พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่เสมอ “ เดือน กล่าว 

น้องปุยนุ่นขวัญใจเด็กออทิสติก

สังฆ์วร บรรจงวานิช ครูสอนเด็กพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ส่วนกลาง เจ้าของน้องปุยนุ่น อายุ 4 ปี  เล่าว่า เดิมน้องปุยนุ่นทำกิจกรรมบำบัดให้กับเด็กออทิสติกในศูนย์ พียงแต่เราไม่มีองค์ความรู้ด้านการฝึกสุนัขบำบัดโดยตรงจึงได้เข้าอบรม หลังจากอบรมเราจะสามารถสังเกตพฤติกรรมของเด็ก และวิธีป้องกันสุนัขจากทั้งตัวคนที่เข้าหา และตัวสุนัขเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย รวมถึงการฝึกให้เด็กๆ ใจเย็น และรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองก่อนที่จะมาเล่นกับน้องปุยนุ่น ช่วยให้เด็กๆ ฝึกความอดทน มีวินัย  สร้างสมาธิ ทั้งยังลดพฤติกรรมที่รุนแรง ลดความเครียด แต่ละครั้งที่ใช้สุนัขบำบัดต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย

ไทนี่ สุนัขสายพันธุ์ไวมาราเนอร์ ตัวใหญ่แต่ใจดีที่หนึ่ง

ด้าน ขรรค์ ประจวบเหมาะ ที่ปรึกษาและกรรมการกิติมศักดิ์ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่ง ประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า ในไทยหลายคนจะคุ้นกับสุนัขนำทางช่วยอำนวยความสะดวกให้คนตาบอดมากกว่าสุนัขบำบัด  แต่สุนัขช่วยเหลือคนพิการยังอยู่ในวงจำกัด ดังนั้น สุนัขนักบำบัดที่ผ่านการอบรมเรียบร้อย เชื่อว่าจะยิ่งทำให้การใช้สุนัขบำบัดเป็นที่แพร่หลายและได้รับความสนใจมากขึ้น

ทีมสุนัขนักบำบัดกระตุ้นให้ออกกำลังกาย

พญ.นาฏ ฟองสมุทร คณะกรรมการกองทุนผู้สูงวัย กระทรวงพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ บอกว่า สุนัขบำบัดจะช่วยให้ผู้สูงอายุยอมออกจากห้องพักมาทำกิจกรรม และมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับคนรอบข้าง ช่วยกระตุ้นสมองและร่างกายได้อย่างดี ที่สำคัญการได้กอดหรือเล่นกับสุนัขช่วยลดความกังวลและความเจ็บปวดให้คนกลุ่มนี้ได้ด้วย

รศ. ดร. สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อ ความยั่งยืน (RISC) บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า  โครงสร้างประชากรไทยที่เลี้ยงสัตว์เป็นเหมือนลูกพบว่าอัตราเติบโตแซงหน้าอัตราการเกิดของเด็กไทย เมื่อ 20 ปีที่แล้วอัตราการเกิดประมาณ 1.4 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันประมาณ 5 แสนคนต่อปี ในอนาคตเราจะเห็นภาพของคนที่อยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นอย่างแน่นอน การฝึกให้สัตว์เลี้ยงมีทักษะดูแลคนแลคนในบ้านเป็นเรื่องที่ดี

ตอนนี้โครงการเปิดรับสมัครสุนัขนักบำบัดรุ่นที่ 3 เพื่อเพิ่มทีมสุนัขนักบำบัดที่มีคุณภาพให้มากขึ้น สู่เป้าหมายสุนัขบำบัดจิตอาสาชุมชนดูแลกลุ่มเปราะบางตามชุมชนต่างๆ ในเมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรงานกุหลาบรวมน้ำใจ เทิดไท้องค์ราชัน

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรการจัดแสดงกุหลาบเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  6 รอบ  ในงานกุหลาบรวมน้ำใจ

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานกาชาดปี 2567

11 ธ.ค. 2567 เวลา 17.00 น.  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี       สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้