'ธรรมศาสตร์' ติด TOP 10 โลก มหา'ลัย แห่งความเท่าเทียมทางเพศ

‘มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’ คว้าอันดับที่ 7 จากกว่า 1,000 สถาบันทั่วโลก พร้อมกับคว้าอันดับ 1 ของประเทศ ในการขับเคลื่อน SDG 5: เป้าหมายด้านความเสมอภาคทางเพศ’ ลุยจัดกิจกรรม Pride @Thammasat: Celebrate with Pride, Unite in Diversity ตอกย้ำ ‘ความเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เท่าเทียม’ สำหรับคนทุกกลุ่ม

20 มิ.ย.2566 - The Times Higher Education (THE) Impact Rankings สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลก ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับสถาบันการศึกษาที่ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ที่ 5 เรื่อง Gender Equality หรือ ความเสมอภาคทางเพศ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2566 โดยพบว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 7 จาก 1,081 สถาบันการศึกษาทั่วโลก และถือเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย

รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยในกิจกรรม “Pride @Thammasat: Celebrate with Pride, Unite in Diversity แตกต่างอย่างเท่าเทียม: เป็นตัวเองอย่างมั่นใจบนพื้นที่ปลอดภัยที่เท่าเทียม” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2566 ตอนหนึ่งว่า ในโอกาสครบรอบ 89 ปี มธ. ได้ดำเนินวิสัยทัศน์ด้วยแนวคิด Trinity TU : Equity, Opportunity, Sustainability โอกาสสู่ความเสมอภาคที่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ การไม่เลือกปฏิบัติ และส่งเสริมให้เห็นถึงความสำคัญของความเท่าเทียมทางเพศในทุกมิติ

รศ.เกศินี กล่าวว่า มธ.ให้ความสำคัญกับ SDGs เป้าหมายที่ 5 เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมามีการดำเนินการที่จะมุ่งไปสู่การลดความเสียเปรียบทางเพศในด้านการศึกษาและการจ้างงาน รวมถึงมีนโยบายที่ไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง และผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมทั้งสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการดำเนินชีวิตของทุกเพศ ตลอดจนการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมความปลอดภัยและสร้างความเข้าใจทางเพศ

ตั้งแต่ปี 2562 ที่เข้ามากำหนดนโยบายและแผนปฏิบัติงานของ มธ. โดยตระหนักถึงความละเอียดอ่อนในมิติความแตกต่างระหว่างเพศ ควบคู่ไปกับการจัดทำมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ

รศ.ดร.พิษณุ ตู้จินดา รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์รังสิตด้านคุณภาพชีวิต มธ. กล่าวว่า แม้ปัจจุบันสังคมไทยจะก้าวข้ามคำว่าชายและหญิงไปแล้ว อันมาจากความแตกต่างความหลากหลายที่มากขึ้น แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเรื่องสวัสดิการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นสิ่งที่ มธ.ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เช่น การจัดสรรโควต้าการศึกษาให้ตั้งแต่ในระดับปฐมวัยจนถึงอุดมศึกษา มีบริการการช่วยเลี้ยงดูบุตร สำหรับการทำให้สถาบันครอบครัวมีความเข้มแข็งมากขึ้น

รศ.ดร.พิษณุ กล่าวต่อไปว่า ทุกนโยบายที่ มธ. ขับเคลื่อน มีการติดตามและรับฟังเสียงจากประชาคมธรรมศาสตร์ทั้งสี่ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา เจ้าหน้าที่ อาจารย์ รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่มีความร่วมมือกัน เช่น กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ชุมชน องค์การบริหารจังหวัด (อบจ.) ฯลฯ เพื่อให้นโยบายที่ทำสามารถเกิดเป็นรูปธรรมและตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง

“แน่นอนว่าในการขับเคลื่อนเราไม่ได้ต้องการหยุดแค่ที่ 7 ของโลก เราคาดหวังที่จะไปได้ไกลกว่านี้ แต่สุดท้ายที่เราเดินมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่แค่เพียงนโยบายของผู้บริหารมหาวิทยาลัยอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเสียงของพวกเราทุกคนที่ช่วยสะท้อนกลับมาว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ช่วยกันคิด มีมิติใหม่ๆ มากมาย ที่จะสามารถนำเสนอให้กับมหาวิทยาลัย และสังคมได้” รศ.ดร.พิษณุ กล่าว

รศ.ดร.ชุมเขต แสวงเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์รังสิตด้านกายภาพ มธ. กล่าวว่า มธ.ไม่ได้มุ่งหวังแต่เพียงการสร้างความเสมอภาคทางเพศเท่านั้น แต่ยังมีการขับเคลื่อนในการลดความเหลื่อมล้ำซึ่งเป็นเป้าหมาย SDGs ที่ 10 โดยการเปิดให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงทรัพยากรอื่นๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างเท่าเทียมโดยไม่มีเส้นแบ่ง เช่น การมีรถเมล์ไฟฟ้าในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีทางขึ้นลงรองรับรถเข็นได้ทุกรูปแบบ มีเสียงประกาศเมื่อถึงจุดจอดระหว่างทางเพื่อให้ผู้พิการทางสายตาได้ทราบถึงข้อมูล

“ถามว่าธรรมศาสตร์ทำอะไรบ้าง เรามีการให้นักศึกษาแต่งกายตามเพศที่เลือกเองได้ เรามีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักศึกษาของเรา เรามีคลินิกสุขภาพเพศธรรมศาสตร์ที่รองรับการให้คำปรึกษาให้กับทุกเพศ เริ่มให้ถูกจุด คลี่คลายปมต่างๆ ตั้งแต่แรก แล้วปัญหาเหล่านั้นมันจะคลี่คลายตามไป” รศ.ดร.ชุมเขต ระบุ

คุณากร ตันติจินดา นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มธ. เป็นพื้นที่แห่งความหลากหลาย ไม่ว่าจะความคิด ความเชื่อ หรือตัวตน แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความสวยงามที่เกิดภายใต้ร่มเงาของมหาวิทยาลัย และเพื่อจะให้ความหลากหลายต่างๆ อยู่ร่วมกันได้ เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการสร้างความเท่าเทียมในทุกมิติคือสิ่งสำคัญอย่างมาก ทั้งทางโอกาส การปฏิบัติ และทางเพศ

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพื้นที่แห่งนี้เดินทางมาไกลมากในเรื่องของความเท่าเทียมอย่างการแต่งกายตามเพศสภาพได้ เรายกเลิกคำนำหน้านามได้ เราสามารถจัดกิจกรรมเหมือนในวันนี้ได้ ผมในฐานะนักศึกษาปัจจุบันขอขอบคุณที่ทุกคนร่วมกันผลักดันประเด็นเหล่านี้ร่วมกันมา และหวังว่าจะร่วมกันต่อยอดไปสู่ประเด็นเชิงสังคมมากขึ้น ให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมไทยอย่างแท้จริง” คุณากร กล่าว

เจสซี่ กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์ นางแบบและนักแสดง กล่าวว่า อยากให้ทุกคนเริ่มด้วยการเปิดใจรับความเปลี่ยนแปลง และเห็นอกเห็นใจมนุษย์ด้วยกัน เนื่องจากเป็นสิ่งที่สำคัญมากในทุกการขับเคลื่อนทางสังคม ตอนนี้ส่วนตัวกำลังผลักดันเรื่องความแตกต่างในด้านการพัฒนาสมอง และบางครั้งต้องเผชิญการตีตราว่าการมีส่วนมาขับเคลื่อนเรื่องนี้ต้องเป็นภาวะแบบนี้ กระทั่งโรคหรือเพศก็ตาม จนถูกผลักให้เป็นอื่น

ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกๆ คนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพังทลายกรอบพวกนั้นได้ แค่เริ่มด้วยการโอบรับ รวมถึงเปิดพื้นที่ในจิตใจให้คนกลุ่มต่างๆ ที่มีความหลากหลายได้ทำตามความฝัน ทำสิ่งที่ต้องการจะทำ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างประโยชน์ต่อให้กับสังคมได้ ดังนั้นทั้งสิ่งที่กำลังมีการขับเคลื่อนอยู่ รวมถึงกิจกรรมในวันนี้ด้วย อยากให้เป็นสิ่งที่ช่วยให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในข้อนี้

เชอริศา อินทร์พิมพ์ นักขับเคลื่อนด้านความเท่าเทียม กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างอาจเริ่มที่ตนเอง ในความหมายที่ว่าต้องตั้งหลักให้ได้ว่าจะไม่ยอมจำนนกับการถูกละเมิดสิทธิไม่ว่าจะประเด็นใดก็ตาม และลุกขึ้นสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง เพราะถ้าเริ่มแรกถ้าไม่รู้สึกถึงผลกระทบ หรือไม่ตระหนักถึงสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นก็ไม่อาจนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้

“ในภาพอนาคตอาจต้องคำนึงถึงในเรื่องความเป็นธรรมไปด้วยในสังคม เพราะว่าทุกวันนี้เราก็เข้าใจเรื่องความเท่าเทียมกันมาแล้วพอสมควร แต่ในประเด็นของกลุ่มต่างๆ ที่อยู่ในสังคมอาจจะยังไปไม่ถึง” นักขับเคลื่อนด้านความเท่าเทียม กล่าว

ญาณกร พรมปัญญา ประธานชุมนุมสันทนาการ มธ. กล่าวว่า ถ้าเกิดหลายคนมองว่าเรื่องความหลากหลายเป็นเรื่องใหม่หรือเข้าใจยาก สิ่งที่แรกที่จะทำได้เพื่อสนับสนุนประเด็นนี้ก็คือการรับฟัง เพื่อเปิดใจว่าสิ่งที่เขากำลังทำ ภาพสังคมที่เขาฝันเป็นแบบไหน ไม่ต้องเห็นด้วยก็ได้ แต่ลองพยายามทำความเข้าใจ และถ้าสามารถช่วยตอบโจทย์อะไรได้ก็อยากให้สนับสนุน เพราะเพียงเท่านั้นก็เป็นการทำให้เกิดพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้มีความหลากหลายเหล่านั้นแล้ว

“ขอฝากว่าต่อไปจะมีคนอีกหลายเจเนอเรชั่นมากๆ ที่จะเกิดมาอยู่บนโลกของเรา และความหลากหลายทางเพศจะมีมากไปกว่านี้มาก ก็เลยอยากให้พวกเราเริ่มด้วยการทำให้สังคมเป็น Save Space สำหรับทุกคน” ญาณกร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการ มธ. แนะมาตรการรับมือสาธารณภัยในชุมชนเมืองเก่า

นักวิชาการธรรมศาสตร์ แนะท้องถิ่น-สำนักงานเขต สำรวจข้อมูลใหม่ทุก 5 ปี “สร้างคลังข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐาน” เพื่อเตรียมทรัพยากร วางแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน-ภัยพิบัติ หากไม่สามารถแก้ผังเมือง-โครงสร้าง-กรรมสิทธิ์ที่ดิน

90 ปี สถาปนาธรรมศาสตร์ ก้าวสู่ 'มหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบชั้นนำเพื่อสังคมแห่งอนาคต'

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครบรอบปีที่ 90 พร้อมมอบรางวัลเข็มเกียรติยศ ให้แก่ “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” อดีต รมว.คลัง และ อดีต รมว.คมนาคม ในฐานะผู้ประกอบคุณงามความดีต่อสังคมและประเทศชาติ ขณะที่

นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุ สว. ชุดใหม่ คือผู้กำหนดภูมิทัศน์การเมืองไทยไปอีก 5 ปี

อาจารรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ระบุ สว. ชุดใหม่ ยังมีอำนาจมากเกินไป และจะเป็นผู้กำหนดภูมิทัศน์การเมืองประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า

มธ. จัดเสวนารุมสับระบบเลือก สว.ชุดใหม่ เป็นปัญหามากที่สุด ซับซ้อน ทำให้งงอย่างจงใจ

ศูนย์นิติศาสตร์ จัดเสวนาวิชาการ “การเลือก สว. และประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กับอนาคตประชาธิปไตยไทย” เนื่องในงานรำลึก 32 ปี พฤษภาประชาธรรม 2535

'ธรรมศาสตร์' เตือน! อย่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) แจ้งเตือนบุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่า ประชาคมธรรมศาสตร์ และประชาชน ระวังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ขณะนี้พบพฤติกรรมของมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็น “เจ้าหน้าที่กอง

สำรวจบาดแผล 'เด็ก' ในยุคที่กลายมาเป็น 'คอนเทนต์' ของผู้ใหญ่

นักวิชาการธรรมศาสตร์ ชวนสำรวจบาดแผล ‘เด็ก’ ในยุคที่ต้องกลายมาเป็น ‘คอนเทนต์’ เพราะความเปราะบางของเนื้อหาจะทิ้งร่องรอยความบอบช้ำไว้เสมอ