ทัวร์“พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์”การลงโทษและชีวิตในเรือนจำ

พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์

คุก หรือ เรือนจำ สถานที่จองจำผู้ที่กระทำผิด ที่มีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์  โดยลักษณะของคุกมีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ  จากสถานที่หดหู่ มาเป็นสถานที่จองจำที่ทันสมัยอย่างที่เห็นในต่างประเทศ  ในประเทศไทยเองก็มีคุกผ่านหลายยุคหลายสมัย ทำให้กรมราชทัณฑ์  ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ขึ้น เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ความเป็นมาวิวัฒนาการของการก่อตั้งเรือนจำ  ตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการลงโทษ รวมไปถึงการดำรงชีวิตในคุก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนเป็นเครื่องเตือนใจให้คนที่เข้าชมไม่อยากทำผิด  จะได้ไม่ถูกจองจำ และมีชีวิตอย่างหดหู่  

กลองที่ผู้คุมใช้ตีบอกเวลาเข้าเวรยาม

หากยังจำกันได้ประเทศไทยเคยมีการจัดแสดงวัตถุเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์เกี่ยวกับการลงทัณฑ์ของประเทศไทยตั้งแต่โบราณมาเก็บรวมไว้ในที่แห่งเดียวกันเพื่อให้อนุชนรุ่นหลัง ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ ซึ่งได้จัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์และมีการเคลื่อนย้ายสถานที่ในการจัดแสดงถึง 3 ยุค โดยยุคแรก ที่เกิดการสร้างพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ครั้งแรกขึ้นที่เรือนจากลางบางขวาง จ.นนทบุรี เมื่อปีพ.ศ.2482 โดยนายพันตำรวจโทขุนศรีศรากร (ชลอ ศรีศรากร) อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เริ่มรวบรวมวัตถุเกี่ยวกับการลงโทษและวัตถุโบราณที่พบภายในบริเวณเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ สมัย 50 ปีก่อนมาเก็บรวมไว้จำนวน 41 ชิ้น

หับเผยจำลอง ประตูระหว่างทางเข้าเรือนจำไปสู่คุก

ต่อมาในยุคที่ 2 ปี พ.ศ.2515 ได้ย้ายไปตั้งอยู่ ณ อาคารศูนย์ฝึกศูนย์ฝึกอบรมข้าราชการราชทัณฑ์ ปัจจุบันคืออาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการ ราชทัณฑ์ ซึ่งมีการจัดหาโบราณวัตถุเพิ่มเติมได้มากขึ้นถึง 334 รายการ อาทิ เครื่องมือจารีตนครบาล อุปกรณ์การประหารชีวิตด้วยดาบ การประหารชีวิต ด้วยปืน ภาพวาดสีน้ำมันเกี่ยวกับโทษทวะดึงษ์กรรมกรณ์ (การลงโทษ 32 ประการ) อาวุธปืนโบราณ ภาพถ่ายการประหารชีวิต หุ่นรูปปั้น สิ่งของต้องห้าม และเครื่องมือในการกระทำผิด หรือสิ่งของที่ผู้ต้องขังลักลอบนำเข้าเรือนจำ เป็นต้น

บรรยากาศบริเวณอาคาร 2 ชั้น 1 กับเรื่องราวของบทลงโทษ

 และในยุคที่ 3 ได้ย้ายไปจัดแสดงภายในสวนรมณีนาถ ด้านถนนมหาไชย เขตพระนคร ซึ่งเคยเป็นเรือนจาพิเศษกรุงเทพมหานครเดิม ซึ่งกรมศิลปากรได้อนุรักษ์และขึ้นทะเบียนเป็นอาคารโบราณสถานไว้แล้ว กระทั่งในปี พ.ศ.2558 พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ ที่สวนรมณีนาถได้ปิดทำการ เนื่องด้วยกระทรวงยุติธรรมโดยสถาบันการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จะมีการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ระหว่างประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม

ทำให้ในปีพ.ศ.2565 กรมราชทัณฑ์ ได้เล็งเห็นความสาคัญ จึงได้ทำการการปรับปรุงและพัฒนาพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์แห่งใหม่ขึ้น ที่สถาบันพัฒนาข้าราชการ ราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี โดยได้มีการเคลื่อนย้ายวัตถุจัดแสดงมายังกรมราชทัณฑ์ พร้อมมีการจัดสรรค์พื้นที่ภายในอาคาร 3 หลัง เพื่อทำการจัดแสดงเครื่องมือและอุปกรณ์เกี่ยวกับการลงทัณฑ์

บทลงโทษทรมานด้วยตะกร้อ

ล่าสุดในปีนี้ผู้สนใจสามารถเข้าชม  พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ แห่งใหม่กันได้แล้ว โดยรูปแบบของอาคารออกแนวสไตล์ลอฟท์ถูกฉาบด้วยสีเทาเข้มให้อารมณ์ความรู้สึกที่หม่นหมอง ความทุกข์และเศร้า แต่ในอีกมุมก็ให้ความรู้สึกที่สุขุมและมั่นคง นี่อาจจะสะท้อนความหมายของเรือนจำในฐานะสถานที่จองจำนักโทษ

อุปกรณ์พันธนาการนักโทษ

 โดยอาคารการจัดแสดงหลักมีทั้งหมด 3 หลัง ภายในอาคาร 1 ชั้น 1 เป็นจุดเริ่มต้นในทุกเรื่องราวของประวัติศาสตร์ เป็นห้องแห่งคำถามว่าคุก…มีไว้ทาไม ตลอดจนไทม์ไลน์ของการจัดทำพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ในแต่ละยุค ซึ่งภายในชั้นนี้จะได้เห็นเครื่องใช้บางส่วนในเรือนจำ อาทิ กลองที่ผู้คุมใช้ตีบอกเวลาเข้าเวรยามสันนิษฐานว่า ถูกใช้ในปี ร.ศ.126 และใบที่สอง ซึ่งได้มาจากเรือนจำกำแพงเพชร มีความเชื่อว่า ถ้าตีกลอง 1 ครั้ง จะมีนักโทษเสียชีวิต 1 คน จึงได้มีการยกเลิกใช้ หันมาใช้ระฆังแทน หรือตู้เก็บเงินของเรือนจำ ที่คาดว่ามาจากเรือนจำหัวเมืองเพื่อใช้เก็บส่วย  และถังดับเพลิงที่ผ่านการใช้งานจริงมาแล้ว

เบ็ดเหล็ก บทลงโทษที่ทรมานให้รับสารภาพ

เดินเชื่อมมายังอาคาร 2 ชั้น 1 จะเป็นโซนการจัดแสดงวิธีและเครื่องมือการลงทัณฑ์ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน โดยในอดีตจะมุ่งเน้นการลงโทษด้วยเครื่องลงทัณฑ์ ด้วยวิธีการรุนแรงให้เข็ดหลาบ หวาดกลัว การลงทัณฑ์แบบจารีต ที่เน้นการทรมานเพื่อให้นักโทษรับสารภาพ ที่เราเองดูแล้วก็รับรู้ได้ถึงความทรมาน อาทิ ตะกร้อ จากเรือนจำกลางนครราชสีมา เครื่องลงโทษที่ทำด้วยหวายขนาดใหญ่ พอให้ใส่คนเข้าไปด้านในได้และมีเหล็กปลายแหลมโผล่ด้านในเป็นระยะๆ โดยใช้ช้างเตะตะกร้อให้กลิ้งไปมา ทำให้นักโทษเจ็บปวดจากการถูกเหล็กตำ  เบ็ดเหล็ก ซึ่งจะใช้เบ็ดเหล็กเกี่ยวเข้าไปที่ใต้คางของนักโทษ แล้วชักรอกให้เท้าลอยพ้นพื้น และหลายบทลงโทษ  ถัดมาก็จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พันธนาการนักโทษ เช่น ตรวนขานกยาง ตรวนขาถ่าง ตรวนข้อเท้า เหล็กครอบสะเอว

จำลองวิธีการประหารชีวิตด้วยดาบ

ถัดมาก็จะวิธีการประหารชีวิตที่มีวิวัฒนาการการใช้ตั้งแต่ด้วบดาบ โดยได้มีการจำลองอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบไม่ว่าจะเป็น มีดตัดส้นเท้า มีดตัดสายมงคล ขันทำน้ำมนต์ และดาบของนายเหรียญ เพิ่มกำลัง เพชฌฆาตดาบคนสุดท้าย เป็นต้น ต่อมาก็เป็นการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า โดยเราจะได้เห็นหลักประหารชีวิตอันแรก ปืนที่ใช้ในการประหารชีวิตของจริง เครื่อแบบเพชฌฆาตประหารชีวิตคนสุดท้ายที่นายเชาวเรศน์ จารุบุณย์ ได้สวมใส่ และการประหารชีวิตในปัจจุบันที่ใช้การฉีดยา

จำลองการประหารชีวิตด้วยการยิงเป่า และปืนที่เพชฌฆาตใช้จริง

ขึ้นไปบนชั้น 2 พบกับการจัดแสดงพระหัตถเลขาในหมายปล่อยตัวนักโทษในรัชกาลที่5 และ รัชกาลที่ 6 ที่หาดูได้ยาก ผ่านหับเผยจำลอง คือประตูระหว่างทางเข้าเรือนจำไปสู่คุก ด้านในจะเป็นบรรยากาศการจำลองการใช้ชีวิตประจำวันในเรือนจำโรงเลี้ยง โรงครัว โรงฝึกวิชาชีพ ห้องนอน ห้องขัง ห้องพยาบาล เครื่องหมาย-เครื่องแบบข้าราชการราชทัณฑ์ในยุคต่างๆ ภาพเรือนจำต่างจังหวัดในอดีต ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน เพชรบุรี สระบุรี ลพบุรี ปืนของผู้คุมในอดีต  ในโซนนี้มีการจัดแสดงโครงกระดูกของนักโทษชายที่อุทิศร่างกายให้สถานพยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อปี 2480 รวมถึงโครงการในพระราชดาริฯ ยุคปัจจุบัน

ดาบเล่มสุดท้ายที่ใช้ประหารชีวิตด้วยดาบ

ส่วนอาคาร 3 ติดแม่น้าเจ้าพระยา เป็นร้านหับเผย ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของผู้ต้องขังที่ได้จากการเรียนรู้ภายในเรือนจำทั้งกระเป๋า รองเท้า ของที่ระลึก ที่ล้วนเป็นงานฝีมือ ส่วนด้านบนก็จะเป็นคาเฟ่อาหารและเครื่องดื่มจากฝีมือผู้ต้องขัง รวมไปถึงการแสดง ความสามารถและทักษะพิเศษของผู้ต้องขังด้านนาฎศิลป์ ดนตรี ศิลปะ เป็นต้น

หลักประหารชีวิตอันแรก

การมาเยือนพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ถึงจะไม่ได้จรรโลงใจ แต่เราได้เข้าใจถึงกระบวนการยุติธรรมที่วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ ตามหลักสิทธิมนุษยชน จะดีแค่ไหนหากไม่มีใครทำผิดกฎหมาย เคารพกฎสังคม และไม่ต้องถูกลงโทษหรือจองจำเพราะสุดท้ายบั้นปลายชีวิตก็ต้องจบลงด้วยกระบวนการยุติธรรม  สำหรับพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์เปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 09.00-17.00 น.

พระหัตถเลขาในหมายปล่อยตัวนักโทษในรัชกาลที่ 6
จำลองห้องนอนในเรือนจำ
การประหารชีวิตด้วยวิธีฉีดยา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รังสิมันต์' ลั่นกมธ.มั่นคงฯมีอำนาจตรวจสอบเทวดาชั้น 14 ท้า 'ทักษิณ' บริสุทธิ์จริงต้องมาชี้แจง

'รังสิมันต์' ลั่นกมธ.มั่นคงฯมีอำนาจตรวจสอบเทวดาชั้น 14 ยันไม่ซ้ำซ้อนคณะอื่น รับทำงานลำบากหน่วยงานไม่ให้ข้อมูล ท้า 'ทักษิณ' บริสุทธิ์จริงต้องมาชี้แจง วอนขรก.น้ำดีหากพบพิรุธส่งมาให้กมธ.

'ดิไอคอน-18 บอส' อ่วม! 'ดีเอสไอ' บุกคุกแจ้งเพิ่ม 3 ข้อหาหนัก

'ดีเอสไอ' บุกเรือนจำ แจ้งเพิ่ม 3 ข้อกล่าวหา 'ดิไอคอน-18 บอส' ความผิดตามกฎหมายขายตรง-แชร์ลูกโซ่ พร้อมเปิดโอกาสนำหลักฐานมาแจงความบริสุทธิ์ได้

'จตุพร' ซัด 'ทักษิณป่วยทิพย์' สุมหัวปล้นยุติธรรม จี้ 'พรรคส้ม' ขยี้ให้จริงไม่ใช่โฉบไปเฉี่ยวมา

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ตำหนิ รพ.ตำรวจและเรือนจำพิเศษกรุงเทพ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ลุ้น! ศาลไต่สวน-ออกหมายขัง 'นักโทษเทวดา' ใกล้ตกสวรรค์

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่าเทวดาที่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวใกล้จะตกสวรรค์แล้ว คณะกรรมาธิการความมั่นคงของสภาผู้แทน ได้ตรวจสอบแล้วแถลงเมื่อวานนี้ว่า

ปปช.ขอเวชระเบียนรพ.ตำรวจ 3 ครั้งไม่ให้ ต้องใช้สภาพบังคับตามพ.ร.บ.ปปช. งานนี้ มีติดคุก

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ต้องใช้ไม้แข็ง