'ตรีนุช' ลงพื้นที่พิจิตร ถอดบทเรียนโดมถล่มทับเด็กดับ ลุยเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ

24 พ.ค.2566 – ที่จังหวัดพิจิตร นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ร่วมคณะของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และให้ความช่วยเหลือสาธารณภัย วาตภัย ณ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดเนินปอ เพื่อติดตามสถานการณ์ ให้ขวัญกำลังใจ ช่วยเหลือเยียวยา และมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเหตุพายุฝนพัดอาคารโดมของโรงเรียนวัดเนินปอล้มทับนักเรียน ผู้ปกครอง และนักการภารโรง ในจุดนี้มีผู้เสียชีวิต รวม 7 ราย และผู้บาดเจ็บ 19 ราย และคณะของนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลพิจิตร ซึ่งนักเรียนและผู้ปกครองที่ประสบเหตุเข้าพักรักษาตัวอยู่ด้วย

นางสาวตรีนุช กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกคน โดยตนได้สั่งการให้ต้นสังกัดของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่อยู่ในพื้นที่วาตภัย ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือ และ ขอให้สถานศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศสำรวจตรวจสอบอาคารสถานที่ ตลอดจนระบบไฟฟ้าของสถานศึกษา ว่าได้มีการบำรุงดูแลรักษาให้ปลอดภัย พร้อมใช้งานหรือไม่ หากพบอาคาร สายไฟฟ้า สนามเด็กเล่น ชำรุดก็ต้องเร่งซ่อมแซมให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้สถานศึกษามีแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดภัยพิบัติทุกประเภทอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเมื่อเกิดภัยพิบัติรูปแบบต่าง ๆ และต้องถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เพื่อป้องกันและเตรียมรับมือหากเหตุเช่นนี้อีก

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ประสบเหตุวาตภัยที่อาคารโดมของโรงเรียนวัดเนินปอล้มทับ ได้มีการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ดังนี้ 1.กลุ่มผู้เสียชีวิต กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มอบเงินช่วยเหลือรายละประมาณ 145,000 บาท พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลืองานบำเพ็ญศพ และทีมสหวิชาชีพช่วยเหลือด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต และ 2.กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ กระทรวงศึกษาธิการมอบเงินช่วยเหลือนักเรียนที่บาดเจ็บสาหัส รายละ 8,000 บาท บาดเจ็บไม่สาหัส รายละ 6,000 บาท รวมถึงมีทีมศูนย์ความปลอดภัยลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ช่วยเหลือและมีทีมงานดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ทุกราย อย่างน้อยรายละ 2 คน ส่วนการฟื้นฟูช่วยเหลือระยะยาวกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จะอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม พร้อมจัดครูดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ครู 1 คน ต่อ นักเรียน 1 คน รายงานทุกวันและทุกระยะ รวมถึงส่งต่อข้อมูลและดูแลช่วยเหลือนักเรียนจากระดับชั้นประถมศึกษาไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษา และจัดหาทุนการศึกษาให้กับนักเรียนกลุ่มผู้ประสบภัย เป็นต้น พร้อมทั้งให้นักจิตวิทยาโรงเรียนประจำเขตพื้นที่ ลงพื้นที่ให้คำปรึกษา ฟื้นฟูและเยียวยาจิตใจ ของนักเรียนที่มีเพื่อนบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อแม่นักเรียน ม.4 เรียนพละเสียชีวิต ร้องขอความเป็นธรรม

ความคืบหน้าจากกรณี นายธนกร ทองยิ้ม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.4/10 ของโรงเรียนสระหลวงพิทยาคม เสียชีวิตขณะเรียนวิชาพละภายในสนามกีฬาของโรงเรียน โดยครูพละอ้างว่าเป็นการเรียนเพื่อทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยการวิ่ง โดยนักเรียนหญิง วิ่ง 800 เมตร นักเรียนชาย วิ่ง 1,000 เมตร

กระทรวงศึกษาธิการ เร่งผลักดันการเรียนรู้แบบ Active Learning

กระทรวงศึกษาธิการ สั่ง สพฐ. เร่งผลักดันการเรียนรู้แบบ Active Learning ให้ครอบคลุมทุกภาค ทุกโรงเรียน หวัง ส่งเสริมให้นักเรียนตั้งคำถามและหาคำตอบเอง แทนการท่องจำแบบเดิม

กรมอุตุฯ เตือนฉบับที่ 2 อากาศแปรปรวน 19-21 ต.ค. เปิดพื้นที่ฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 2 (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 19 - 21 ตุลาคม 2567)

'ศปช.' สรุป 5 ข้อหลัก น้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงราย ยันเป็นเหตุไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) แถลงผลการประชุมว่าที่ประชุมมีการประมวลวิเคราะห์สถานการณ์