ช่วงนี้อากาศบ้านเราเรียกได้ว่าร้อนมากๆ ผิวแทบไหม้กันเลยทีเดียว แต่หน้าร้อนแบบนี้ก็มีข้อดีนะเพราะทำให้ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ไม่เกิดการแปรปรวนของสภาพอากาศเหมือนช่วงหน้าฝน หลายคนจึงนิยมที่จะออกเดินทางไปพักผ่อนที่ทะเล นั่งรับลม ชมทะเล โต้คลื่น ดำน้ำดูปะการัง
หากนึกถึงทะเลที่เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำแล้วละก็ ควรต้องลองไปเกาะเต่าสักครั้ง เกาะเต่า เป็นเกาะเล็กๆ ในอ่าวไทย มีเนื้อที่ประมาณ 11,700 ไร่ อยู่ในต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเกาะเต่า มีประวัติความเป็นมาก่อนจะมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และแหล่งดำน้ำที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในฝั่งอ่าวไทย เพราะในวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2442 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสเกาะเต่า และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้บนหินที่ แหลม จ.ป.ร. ทางใต้สุดของหาดทรายรี ปัจจุบันหินสลักและพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เป็นหนึ่งในสิ่งสักการะของคนเกาะเต่าและนักท่องเที่ยว
โดยอีกมุมหนึ่งในอดีตของเกาะเต่าช่วงปี พ.ศ. 2486 – 2487 เคยถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษการเมืองจากคดีกบฏบวรเดช โดยคุกตั้งอยู่ที่อ่าวแม่หาด ตามคำบอกเล่าของนักโทษที่เคยถูกคุมขังว่า เกาะเต่าคือเกาะนรกที่ล้อมรอบด้วยฉลาม ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ชีวิตเต็มไปด้วยความอดอยากแร้นแค้นและโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะไข้จับสั่น
จนในปี พ.ศ. 2487 นักโทษได้รับพระราชทานอภัยโทษและได้ถูกส่งตัวกลับบ้าน ปล่อยให้เกาะเต่ารกร้างไร้ผู้คนอยู่อาศัย จน 3-4 ปีถัดมา ก็มีผู้บุกเบิกแล่นเรือมาจากเกาะสมุย เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานในแทบหาดทรายรี ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวแม่หาดไม่ไกล จากนั้นผู้คนจากคนเกาะพะงันก็เริ่มย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานและเริ่มชีวิตใหม่ที่เกาะเต่าแห่งนี้ โดยมีวิถีชีวิตเรียบง่ายด้วยการหาปลา ปลูกสวนมะพร้าว ผลไม้ และข้าว และที่สำคัญมีเต่าทะเลอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ในฤดูวางไข่ของแต่ละปีบนชายหาดจะเต็มไปด้วยลูกเต่าที่เพิ่งเกิดใหม่จนทำให้หาดทรายกลายเป็นสีดำ
บทบาทของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเกาะเต่าในยุคแรกเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2520 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มแรกได้เดินทางมาเพื่อดำน้ำสำรวจธรรมชาติใต้ท้องทะเลทำให้เกิดการบอกต่อความสวยงามของเกาะ จากนั้นในปี พ.ศ. 2527 ก็มีการสร้างที่พักแห่งแรกขึ้น ตั้งแต่นั้นมาเกาะเต่าเริ่มเปลี่ยนจากการทำประมงและเพาะปลูกซึ่งยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง มาเป็นการท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนถึงปัจจุบัน เพราะมีไฉไลท์เป็นเกาะต่างๆ ที่สวย อย่าง หาดทรายรี อ่าวแม่หาด อ่าวโฉลกบ้านเก่า เกาะนางยวน อ่าวม่วง อ่าวกล้วยเถื่อน อ่าวหินวง แหลมเทียน อ่าวโตนด อ่าวลังค่าย อ่าวลึก เกาะกงทรายแดง หสดทรายแดง หาดฟรีด้อมบีช อ่าวชาร์คเบย์ เป็นต้น มีโรงแรมที่พักให้หลากหลายสไตล์ รวมไปถึงร้านอาหาร บาร์ แหล่งช้อปปิ้ง และโรงเรียนสอนดำน้ำ พร้อมแพ็คเกจทัวร์ให้มากมายอีกด้วย
การเดินทางไปเกาะเต่าครั้งนี้ สำหรับคนที่เพิ่งเคยไปครั้งแรกแบบเราสามารถบินตรงมาลงสนามบินสมุยได้เลย จากนั้นก็ไปทำการจองตั๋วเรือ โดยครั้งนี้เราโดยสารเรือของลมพระยา ใช้เวลาประมาณ เกือบๆ 2 ชั่วโมงก็ถึงเกาะเต่าลงเรือที่ท่าแม่หาด ลืมบอก…ก่อนมาถึงเกาะเต่าควรจองแท๊กซี่ไว้ล่วงหน้าจะดีนะ ซึ่งแท๊กซี่ของที่นี่จะเป็นรถกระบะ ทำให้เบาะให้ผู้โดยสารนั่งด้านหลัง หรือจะเช่ารถจักรยานยนต์ในเกาะก็ได้ ส่วนคณะเรามากันหลายคนนั่งแท๊กซี่กระบะก็จะสะดวกกว่า
จุดหมายแรกเรามาที่จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกพร้อมจิบเครื่องดื่มให้ชื่นใจ ที่ Sunset seaview bar & restaurant ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย มีที่นั่งให้เลือกสบายๆ สั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยก็มานั่งชมพระอาทิตย์ดวงกลมโตสาดแสงสีส้มอาบท้องทะเล ที่ค่อยๆลาลับขอบฟ้า อาหารของที่นี่ไม่ว่าจะสไตล์ฝรั่งหรืออาหารปักใต้ก็ทำได้อร่อยรสชาติถึงเครื่องแกงทีเดียว
สำหรับแพลนที่ต้องจัดเต็มใน 1 วันเคือ กิจกรรมล่องเรือดำน้ำ เพราะเกาะเต่ามีจุดดำน้ำไฮไลท์หลายแห่งที่ควรคุ้มค่าแก่การลงไปชมโลกใต้ท้องทะเลเป็นอย่างมาก เกาะแรกที่เราจะล่องเรือไปกันคือ เกาะนางยวน เกาะขนาดเล็ก อยู่ห่างจากเกาะเต่าประมาณ 480 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เอกลักษณ์ของเกาะนางยวนคือหาดทรายขาวที่เป็นเนินทรายขึ้นมา คล้ายกับทะเลแหวก น้ำทะเลสีเขียวใส่จนมองเห็นเหล่าฝูงปลาได้ด้วยตาเปล่าเลย และมีจุดสำหรับดำน้ำด้วย แต่เราใช้เวลาให้คุ้มค่าด้วยการเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว เรียกว่าเป็น Viewpoint แลนด์มาร์คของที่นี่เลย ถ้าไม่ขึ้นไปเหมือนมาไม่ถึงเกาะนางยวน เมื่อขึ้นไปถึงจะพบกับลานหินมองลงมาเห็นวิวด้านล่างของเกาะที่มีหาดทรายเชื่อมระหว่างสองเกาะเข้าด้วยกัน เป็นทิวทักน์ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์อย่างงดงาม ท่ามกลางน้ำทะเลใสล้อมรอบ
จากเกาะนางยวน ไปไม่ไกลมากนักเราไปดำน้ำกันที่ Japanese Garden ที่มีชื่อเรียกนี้เพราะใต้ท้องทะเลของจุดนี้มีความสวยงามของปะการังที่เหมือนกับสวนของประเทศญี่ปุ่น ถ้าจะให้บอกว่าสวยงามอย่างไรนั้น เรียกได้ว่า ไม่มีมุมไหนเลยที่รู้สึกไม่สวย จนบรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่ามันคุ้มค่ามากๆ ที่ได้เห็นเหล่าปะการังเขากวาง ปะการังดอกจอก ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง และปะการังขนาดใหญ่ที่มีหนอนพู่ฉัตรที่เกาะอยู่บนปะการังแต่งแต้มให้ท้องทะเลสวยงาม นอกจากยังได้เหล่าฝูงปลาผีเสื้อ ปลาหูช้าง ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง และอีกหลากหลายชนิดเลย
อีกจุดที่ต้องไม่พลาดลงไปดำน้ำคือ อ่าวชาร์คเบย์ ที่มีไฮไลท์คือเต่าตนุและเต่ากระ นับว่าโชคดีมากที่ในวันนั้นเราได้เห็นน้องเต่าแหวกว่ายอยู่ในทะเลพร้อมกับเพื่อนคู่ใจเห่าฉลาม ท่ามกลางเหล่าปาการัง แต่หากใครโชคดีบางวันก็อาจจะได้เจอกับลามครีบดำ ซึ่งไม่มีความดุร้าย มาอวดโฉมด้วยนะ
ลงน้ำจนหนำใจเราก็สลับมานั่งเรือชมเกาะ โดยเราจะล่องผ่านอ่าวม่วง น้ำทะเลที่นี่จะนิ่งและใส ทรายสีขาวทำให้เห็นน้ำทะเลเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ไล่โทนอย่างสวยงามมีแนวประการังอยู่ล้อมรอบตามแนวของอ่าว อย่างปะการังโต๊ะ ปะการังผักกาด
มาถึงอ่าวหินวง ที่มีไฮไลท์คือเหล่าฝูงปลาข้างเหลืองล้านตัว หอยมือเสือ และดงปะการังผักกาด ผ่านมาถึงอ่าวโตนด ซึ่งมีความสมบูรณ์ของปะการัง และเหล่าสัตว์น้ำตัวใหญ่ โอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ อ่าวแหล่งนี้ได้ถูกจัดอันให้เป็นชายหาดที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่ 44 จาก 100 อันดับ ประจำปี 2566 โดย World Beach Guide ซึ่งมีชายหาดในประเทศไทยติดอันดับอีก 4 แห่ง อันดับที่ 1 คือ เกาะกระดาน จ.ตรัง อันดับ 9 หาดไร่เลย์ จ.กระบี่ อันดับ 18 หาดฟรีด้อม (Freedom beach) จ.ภูเก็ต และอันดับ 21 แหลมหาด เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา
แล่นเรือมาเรื่อยๆ ผ่านอ่าวโฉลกบ้านเก่า ให้สังเกตหินภูเขาที่ตั้งซ้อนเรียงรายกัน บริเวณนี้จะมีหินพ่อตาโต๊ะ-หินแม่มาแมะ ซึ่งเป็นหินขนาดใหญ่ทั้งสองก้อน หินพ่อตาโต๊ะเป็นกลุ่มหินหลายก้อนที่เรียงกันดูคล้ายผู้ชายนั่ง ส่วนหินแม่มาแมะดูคล้ายผู้หญิง นอกจากความสวยงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติแล้ว ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาและยังเป็นสถานที่สำคัญของเกาะ บริเวณด้านล่างของหินพ่อตาโต๊ะ ยังมีหินที่รูปร่างเหมือนหัวเต่า ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับชื่อเกาะเต่าอีกด้วย ดื่มดำกับบรรยากาศดีให้เต็มที่จนถึงท่าเรือ ได้แต่พูดกับตัวเองว่าประทับใจความสวยงามของทะเลที่นี่จริงๆ เมื่อมีโอกาสจะต้องกลับมาอีกแน่นอน
ชาวเกาะเต่า รวมไปถึงผู้ประกอบการต่างๆ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อให้เกาะเต่ายังคงมีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการขยะ ซึ่งบางส่วนสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ การสร้างานปลาของชาวประมงพื้นบ้านบนเกาะเต่า และกิจกรรมอื่นๆที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาวบ้านเกาะเต่า ร้องผู้ตรวจฯ ชงศาลปค. เพิกถอนกฎกระทรวงห้ามออกโฉนดบนเกาะ
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วยชาวบ้านเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบและมีความเห็นเสนอต่
เปิดใจหนุ่มหน้าใส 'มิก มณฑล' กับแง่มุมที่หลายคนยังไม่เคยรู้!
ถือเป็นน้องใหม่ไฟแรงอีกคนของวงการบันเทิงเลยทีเดียว สำหรับหนุ่มหน้าใส มิก-มณฑล วิเศษสินธุ์ จากซีรีส์ "ทุกๆเธอที่รัก" Every you , Every me the series ทางช่อง GMM25 ที่ตอนนี้กำลังเข้มข้นเรียกได้ว่าพาคนดูทั้งเศร้าน้ำตาพรากไปจนถึงฟินจิกหมอน โดยเจ้าตัวได้มาเปิดใจถึงทุกๆแง่มุมในชีวิต
สุราษฎร์ธานี จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี67 ย้ำชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน
UN – HABITAT หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’ กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’
'วัชระ' จี้ 'พีระพันธุ์' แก้ปัญหาไฟฟ้าเมืองสุราษฎร์ฯ แพงมหาโหด
'วัชระ' จี้ 'พีระพันธุ์' แก้ปัญหาไฟฟ้าแพง พร้อมค้านยุบเลิกแผนโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี
ปลุกคนใต้โดนปล้นพลังงาน 'วัชระ' ค้านย้ายโรงไฟฟ้าสุราษฎร์
“วัชระ”ปลุกกระแส จุดเทียนประท้วง ค่าไฟมหาโหด ค้านย้ายโรงไฟฟ้าจากสุราษฎร์ธานีไปภาคกลาง ชี้จะทำให้ภาคใต้สูญเสียความมั่นคงด้านพลังงาน
ไอเดียเจ๋ง! 'ลิงจากมะพร้าว' งานฝีมือพระวัดเกาะเต่า
นางสาววัจนันท์ ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเปิดเทศกาลท่องเที่ยวเกาะเต่า Spotlight Koh Tao 2024