มูลนิธิคึกฤทธิ์เปิดม่านการแสดงโขนหน้าพระที่นั่ง

การแสดงโขนรามเกียรติ์ครั้งใหญ่มูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  ประจำปีนี้ มีชื่อชุด “โมกขศักดิ์” ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมความสามารถของเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นเด็กๆ ที่ร่ำเรียนฝึกโขนกับศูนย์ศิลปะการแสดง สถาบันคึกฤทธิ์ หรือเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ได้แสดงความสามารถด้านต่างๆ ทั้งการออกแบบ กราฟฟิก  การสร้างคอนเทนต์ เพื่อสร้างความประทับใจและรอยยิ้มผ่านกิจกรรมต่างๆในงาน   ทั้งนี้ มูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ ในพระราชูปถัมภ์ฯ  จะเปิดม่านการแสดงโขนหน้าพระที่นั่งครั้งยิ่งใหญ่ โดยคณะโขนเยาวชนจากศูนย์ศิลปะการแสดง  สถาบันคึกฤทธิ์  ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 20 เม.ย. 2566 รอบการแสดง รอบบ่าย เวลา 13.30  น . และรอบค่ำ เวลา 18.00 น. รอบเสด็จ  ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ 

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล  ประธานกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ ในพระราชูปถัมภ์ฯ กล่าวถึงการจัดแสดงโขนรามเกียรติ์ครั้งนี้ว่า เราได้จัดเตรียมการแสดงโขนรามเกียรติ์ ประจำปี 2566  ชื่อชุด โมกขศักดิ์ ซึ่งจะแสดงหน้าพระที่นั่ง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  โดยเตรียมความพร้อมในการฝึกซ้อมเยาวชนกว่า 300 ชีวิต ที่จะนำทักษะจากการเรียนมาใช้ในการแสดงจริงบนเวที เผยแพร่โขนนาฏศิลป์ไทยสู่สายตาผู้ชมอย่างสุดความสามารถ

“ ปีนี้ทางสถาบันคึกฤทธิ์ยังเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานในทุกจุดของโขนรามเกียรติ์ โดยที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะเด็กที่ฝึกรำ ฝึกเล่นโขน เพราะเชื่อว่าการสืบทอดศิลปะวัฒนธรรม ไม่จำเป็นแค่เรียนโขน หรือเล่นดนตรีไทย พวกเขาสามารถเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมผ่านการทำงานได้อีกหลายวิธีหลายรูปแบบ ในรามเกียรติ์ ตอนโมกขศักดิ์ มีเด็กมัธยมมาเป็นทีมโซเชียล ทีมกราฟฟิกดีไซน์ ที่มาออกแบบ เสื้อ กระเป๋าของที่ระลึกจำหน่ายในงาน ผลงานออกมามีสไตล์ ขอเพียงเราเปิดโอกาสให้พวกเขาได้สัมผัสและใกล้ชิดกับศิลปวัฒนธรรม  เยาวชนเหล่านี้จะเกิดความรัก ความผูกพันและสืบทอดความสวยงามของศิลปะชาติด้วยตัวเอง “ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

ความยิ่งใหญ่ของการแสดงโขนชุดนี้ ทางศูนย์ศิลปะการแสดง สถาบันคึกฤทธิ์ ได้จัดสร้างฉากใหม่อย่างงดงามวิจิตรตระการตา  ออกแบบโดยอาจารย์ปาน สุธี ปิวรบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปกรรมในการออกแบบและสร้างฉากละคร สํานักการสังคีต กรมศิลปากร เพื่อให้ผู้ชมได้อรรถรสในการชมการแสดงโขนครั้งนี้ ประกอบกับฉากการยกขบวนกองทัพวานร และทัพอสูร ที่ออกแสดงบนเวทีพร้อมกัน จะสร้างปรากฏการณ์ความตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ทางสถาบันคึกฤทธิ์จะจัดการแสดงประกอบชุดอื่นๆ จากเยาวชนของสถาบันคึกฤทธิ์  เช่น  มโหรีบรรเลงเพลงโหมโรงสามัคคีชุมนุม  เพลงถวายพระพร และรำถวายพระพร 

สำหรับโขนรามเกียรติ์ ตอน “ โมกขศักดิ์ ” มีความสนุกสนาน ตื่นเต้น และสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม  เป็นเรื่องราวของกุมภกรรณ พญายักษ์ ซึ่งเป็นอนุชาของทศกัณฐ์ กุมภกรรณเป็นพญายักษ์ซึ่งครองธรรม รักษาไว้ซึ่งสัจจะ ทศกัณฐ์เรียกกุมภกรรณมาปรึกษาเรื่องการศึก  กุมภกรรณจึงจำใจรับอาสาออกทำสงคราม โดยจะนำหอกโมกขศักดิ์อันมีฤทธิ์ร้ายกาจออกทำศึก แต่ด้วยเหตุอาเพศที่ต้องเสียสัจสุจริตหอกนั้นกลับเป็นสนิมทั้งสี่คม กุมภกรรณต้องประกอบพิธีลับหอกริมแม่น้ำใหญ่ โดยจัดสั่งให้ตั้งโรงพิธีพร้อมทั้งเครื่องบูชาตามตำรา และได้สั่งไพร่พลกวดขันดูแลมิให้สิ่งปฏิกูลใดๆ ผ่านเข้ามาเป็นอันขาด

ทางฝ่ายพระราม พิเภกกราบทูลว่า สิ่งที่จะทำลายพิธีได้ คือ ให้หนุมานและองคตแปลงกายเป็นอีกาที่จิกกินซากหมาเน่า ลอยผ่านเข้าไปใกล้บริเวณพิธี เมื่อกุมภกรรณได้กลิ่นก็จะประกอบพิธีต่อมิได้ ถึงกุมภกรรณเสียพิธีแต่ก็ต้องยกทัพออกรบกับพระลักษณ์

ในการรบครั้งนี้พระลักษณ์เป็นฝ่ายเสียทีถูกหอกโมกขศักดิ์ปักพระอุระจนสลบลง กองทัพของกุมภกรรณจึงกลับเข้ากรุงลงกาอย่างฮึกเฮิม  ฝ่ายพิเภกทูลพระรามว่า สรรพยาที่จะแก้ฤทธิ์หอกนี้ได้ คือ ต้นสังกรณีตรีชวาและน้ำปัญจมหานที แต่ที่สำคัญที่สุดคือถ้าแสงพระอาทิตย์สาดส่องเมื่อใดจะหมดโอกาสแก้ไขได้ หนุมานรับอาสาเหาะขึ้นไปบนฟากฟ้าเข้ายุดรถพระอาทิตย์ จนตนเองต้องพินาศ เพราะอำนาจของแสงอาทิตย์ พระอาทิตย์เห็นเหตุการณ์ประหลาดครั้งนี้จึงชุบหนุมานขึ้นมาแล้วถามถึงสาเหตุ ในที่สุดพระอาทิตย์ก็ช่วยเหลือโดยชักรถหลบเข้าไปในกลีบเมฆ หนุมานไปเก็บสรรพยา และน้ำปัญจมหานทีจากกรุงอโยธยามาถวาย จนพระลักษณ์ฟื้นคืนสติ นำกองทัพกลับคืนสู่พลับพลา   

การแสดงโขน รามเกียรติ์ ชุด “ โมกขศักดิ์ ”  วันที่ 20 เมษายน 2566  มี 2 รอบ รอบบ่าย เวลา 13.30-15.30  น. และรอบค่ำ เวลา 18.00-21.00 น. (รอบเสด็จ)  ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ เป็นเวทีที่เสริมสร้างประสบการณ์ในการแสดงแก่เยาวชนและสืบสานมรดกศิลปวัฒนธรรมไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มูลนิธิคึกฤทธิ์ฯ เพิ่มรางวัลใหม่ให้’ศิลปินพื้นบ้าน’

รางวัลคึกฤทธิ์ เป็นรางวัลที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยมูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อมอบให้แก่ศิลปิน นักเขียน และผู้มีผลงานเป็นที่ยอมรับ มีความรู้ความสามารถ สร้างองค์ความรู้ในด้านนั้นอย่างลึกซึ้ง เป็นประจำในทุกๆปี

มูลนิธิคึกฤทธิ์แสดงโขน-โนรา ส่งต่อมรดกชาติ

เดินหน้าส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยตลอดปี 2566 หลังจากหยุดชะงักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ปีนี้มูลนิธิคึกฤทธิ์ 80  ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เตรียมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยของสถาบันคึกฤทธิ์ขึ้น