![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/1-6.jpeg)
สังกะสีที่ถูกตั้งเป็นกำแพงรอบล้อม แสดงถึงอาณาเขตของพื้นที่การแสดงหมอลำ ลานโล่งๆด้านหน้าเวทีไม่ต้องแสดงมีบัตรแสดงเลขที่นั่ง ใครมาก่อนก็ปูเสื่อจับจองพื้นที่กันได้ตามสะดวก หากเปรียบให้ภาพชัดขึ้นก็เหมือนกับการแสดงคอนเสิร์ตในโดม หรือในสนามกีฬาสปร์ตไลท์สีสันต่างๆ สาดส่องไปทั่วพื้นที่ สัญญาณบ่งบอกว่าการแสดงม่วนๆกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว…
เมื่อไม่นานนี้ “วงเสียงอีสาน” ได้เคลื่อนกองทัพหมอลำไปทำการแสดงที่ วัดป่าอาเจียง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ในงาน “Concert หมอลำเสียงอีสาน x ISAN IN LOVE” ที่จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ร่วมกับบริษัท ท็อปไลน์ มิวสิค จำกัด กระตุ้นการท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนโดย Soft Power ผ่านการแสดง หมอลำ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของภาคอีสาน กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/2-6.jpeg)
ก่อนที่งานแสดงจะเริ่ม ได้มีโอกาสสนทนากับ “นกน้อย อุไรพร “ในวัย 66 ปี ผู้ก่อตั้งวงเสียงอีสาน และหัวหน้าวง หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อ “แม่นกน้อย” ได้เล่าให้ฟังว่า วงเสียงอีสานเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2519 จวบจนปัจจุบันวงก็มีอายุเข้าปีที่ 48 ปีแล้ว ระยะทางในการก่อร่างสร้างวงเสียงอีสานล้วนมีความลำบาก และอุปสรรคมากมาย แต่ดีที่มีคู่ชีวิตคือ พ่อหลอด เป็นคู่คิดเคียงข้างเสมอมา ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน ยิ่งในยุคปัจจุบัน จากที่เคยทำการแสดงหมอลำ วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคอีสาน ในลักษณะของการลำเรื่องต่อกลอนที่ใช้ภาษาถิ่นอีสาน เคล้าคลอไปกับเสียงพิณ เสียงแคน คล้ายกับลิเก พร้อมกับแดนเซอร์ที่แต่งชุดประดับขนนกอลังการ สลับกับการแสดงตลก ในลักษณะของละคร สะท้อนสังคมเข้าถึงง่าย เป็นอีกการแสดงที่สร้างเสียงหัวเราะ และไม่น่าเบื่อ
การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยก็ทำให้ต้องเรียนรู้และประยุกต์ให้ทันกับกระแสของผู้รับชม แต่เอกลักษณ์ของหมอลำก็ยังคงอยู่ แม่นกน้อย บอกว่า เพื่อให้วงอยู่รอด ต้องมีการพัฒนา และตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจดูหมอลำ หากเป็นแต่ก่อนส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงอายุ คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ แต่เดี๋ยวนี้วัยรุ่นหันมาสนใจและชื่นชอบเยอะมาก ในตลอดระยะ 10 ปี จึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องมีสไตล์ของการเล่นดนตรีแบบสากล หรือสไตล์อินดี้ลูกทุ่งเข้ามาผสมผสานสร้างจังหวะที่สนุก ไปพร้อมกับเครื่องดนตรีพิณ แคน และการร้องแบบหมอลำ เพราะวงเราต้องทำการแสดงกว่า 40 เพลง ต้องมีสลับผลัดเปลี่ยนแดนเซอร์ในทุกเพลง เพื่อให้คนดูไม่เบื่อ ตื่นเต้นไปกับชุดการแสดง และรู้สึกเข้าถึงได้ง่าย สามรถชมได้ทั้งกลุ่มคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/3-5.jpeg)
“ส่วนตัวมองว่าวัฒนธรรมหมอลำไม่มีวันตายอย่างแน่นอน เพราะวัยรุ่น ที่เป็นนักเรียนนักศึกษาก็ดูได้ คนสูงอายุก็ดูได้ ดังนั้นแม้ว่าวัฒนธรรมแบบหมอลำแท้ๆ อาจจะไม่ใช่ในรูปแบบดั้งเดิมเหมือนแต่ก่อน แต่ส่วนที่เป็นหัวใจหลัก อย่างการลำเรื่องต่อกลอน เครื่องดนตรีพิณ แคน ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ในการแสดง” แม่นกน้อย บอกถึงความตั้งใจ
แม้วงจะต้องปรับเปลี่ยนให้ร่วมสมัยไม่เพียงแค่ในเรื่องของดนตรี แต่การแสดงก็ยังต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงด้วย เพราะคนที่อยู่ในวงรุ่นเก่าไป คนรุ่นใหม่ก็เข้ามาแทนที่ การแสดงต่างๆจึงต้องมีการประยุกต์ให้เกิดความน่าสนใจที่ยังคงไว้อยู่ก็คือ ความอลังการของการแสดง การจัดเต็มของคอสตูมแดนเซอร์ ทำให้ผู้ชมได้รู้สึกคุ้มค่าตลอดการแสดง
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/4-4.jpeg)
ในบทบาทของหัวหน้าวงเสียงอีสาน ที่มีเหล่าลูกนกที่ต้องดูแลกว่า 300 ชีวิต ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่แม่นกน้อย ผู้หญิงตัวเล็กๆแต่ใจกล้าแกร่งคนนี้ ได้ดูแลอย่างเต็มที่ เพราะอีกบทบาทเธอยังต้องเป็นครูถ่ายทอดองค์ความรู้การแสดงหมอลำด้วย
แม่นกน้อย เล่าว่า คนรุ่นใหม่ที่ได้เข้ามาดูการแสดงของเสียงอีสาน และเกิดความชื่นชอบ ก็เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะอยากเป็นนักร้องหรือแดนซ์เซอร์ เราก็ยินดีที่จะเปิดรับ และพร้อมถ่ายองค์ความรู้ให้กับลูกนกเหล่านี้ที่โบยบินอย่างแข็งแรง เพราะสิ่งสำคัญในการสอนไม่ใช่การเคร่งครัดให้ร้องหมอลำเป็น แต่ต้องเอาความสามารถของเขาเป็นตัวตั้ง เสียงคือพรสวรรค์มาพร้อมกับพรแสวง และก็ค่อยนำมาปรุงแต่งให้เข้าหมอลำ ทำให้รู้สึกว่าการเรียนนั้นไม่ยาก แค่มีความตั้งใจก็สามารถที่จะเป็นักร้องหมอลำได้แล้ว ส่วนเรื่องการเต้นก็จะมีครูคอยสอน ใครสนใจแบบไหนก็เลือกได้ตามที่ถนัด และทำการแสดงให้ออกมาดีที่สุด
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/5-4.jpeg)
ทุกปัญหาที่รุมเร้าตั้งแต่พอหลอดล้มป่วย หรือสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้การจ้างงานหยุดชะงัก ค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับทำให้แม่นกน้อย ต้องปล่อยให้เหล่าลูกนกที่เคยมีมากถึง 600 คน ต่างฝืนใจโบยบินเพื่อหาทางรอด ส่วนลูกนกที่เหลืออยู่ถึง 300 คน ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำการแสดงผ่านไลฟ์สด หรือการขายของออนไลน์ ภายใต้แบรนด์เสียงอีสาน ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้มีรายได้เข้ามา
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/6-3.jpeg)
และเมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น วงเสียงอีสาน ก็ได้กลับโลดแล่นบนเส้นทางหมอลำอย่างเต็มที่ ทุกงานที่ได้เดินทางไปทำการแสดง แม่นกน้อย ด้วยใบหน้าที่มีความสุขว่า แม้ในแต่วันจะต้องเจอปัญหามากมายแค่ไหน แค่ได้ออกไปทำการแสดงและผู้ชมสนุกสนาน มีการลุกขึ้นมาเต้น แค่นี้ความทุกที่มีก็มลายหายไปหมดแล้ว
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/7-4.jpeg)
เมื่อสิ้นสุดบทสนทนา แม่นกน้อยก็เดินไปด้านหลังเวทีตรวจเช็คความเรียบร้อยของการตั้งเวที การตั้งเครื่องเสียง เครื่องไฟ และเหล่าลูกนกที่กำลังแต่งหน้า ทำผม เตรียมตัวขึ้นแสดง ผ่านไปเพียงพริบตา ลานหน้าเวทีก็เต็มไปด้วยผู้ชมที่ตั้งตารอชมการแสดง แววตาเป็นประกาย เมื่อเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มขึ้น สปอร์ตไลท์ที่สาดส่องพร้อมกับการปรากฎตัวของแม่นกน้อย กับนักร้องรุ่นใหม่ และเหล่าแดนเซอร์ที่จัดเต็มด้วยชุดขนนก เครื่องหัว ออกท่าทางสุดมันส์ จะมอบความสุข สนุกสนานจัดเต็มทุกการแสดงตลอดหลายชั่วโมงให้กับผู้ชมในค่ำคืนนี้
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/8-3.jpeg)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แม่นกน้อย' จะยุบวงไหม หลังสูญเสีย 'พ่อหลอด' ผู้ก่อตั้งวงเสียงอิสาน
หลังจากที่วงการหมอลำสูญเสีย พ่อหลอด สามีของ แม่นกน้อย อุไรพร ผู้ก่อตั้งวงดนตรีหมอลำชื่อดังเสียงอิสาน ในวัย 71 ปี เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา ล่าสุด แม่นกน้อย ได้ออกมาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม ถึงการสูญเสียครั้งนี้ของคณะเสียงอิสาน และวงจะไปต่อยังไง เดินหน้าหรือต้องหยุดเอาไว้เพียงเท่านี้ในวันที่ไม่มีเสาหลักแล้ว
'แม่นกน้อย' เคลียร์ดราม่าตำนานหมอลำ 'เสียงอีสาน'
ตำนานก็คือตำนาน สำหรับต้นตำรับหมอลำสุดสุดฮิต คณะเสียงอีสาน บริหารงานโดยนักร้องหมอลำเสียงเทพ แม่นกน้อย อุไรพร ท่ามกลางข่าวดราม่าถาโถมเข้ามามากมายว่า ณ ปัจจุบันต้นตำรับหมอลำจะไปต่อหรือพอแค่นี้ จนล่าสุด เสียงอีสาน กลับมาเป็นที่ฮือฮาอีกครั้งกลับการบุกโซเชี่ยลรับช่วงต่อโดยเหลนแท้ๆอย่าง แป้ง-ณัฐธิดา พาเลาะ ที่พร้อมเขย่าบัลลังก์วงการหมอลำ
‘นกน้อย’ เปลือยมรสุมชีวิต สามีป่วยหนัก-ประกาศยุบวง-ตัดใจขายบ้านตอง5
ราชินีหมอลำ “นกน้อย อุไรพร” ขอกลับมากางปีก หลังปรับวงเสียงอิสาน หลายสิบล้านบาท พร้อมอัปเดตสามีป่วยมะเร็งนานหลายปี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ, เป็กกี้ ศรีธัญญา และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ