คัมภีร์ใบลานโบราณหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ 3 ยุคสมัย ได้แก่ สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งวัดเบญจมบพิตรได้เก็บรักษาไว้ที่ในพระวิหารสมเด็จ ส.ผ. (เสาวภา ผ่องศรี) กรมศิลปากร (ศก.) สำนักหอสมุดแห่งชาติ ร่วมกับวัดเบญจมบพิตร นำเข้าสู่การดำเนินงานภายใต้โครงการอนุรักษ์วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เพื่อทำการสำรวจ ลงทะเบียน จัดเก็บเอกสารโบราณ พร้อมกับการแปลใบลาน ให้เป็นข้อมูลในการศึกษา ซึ่งใช้เวลา 5 เดือนทำงานอนุรักษ์ ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จ กรมศิลปากรส่งมอบคัมภีร์ใบลาน 6,275 ผูก ให้แก่วัดเบญจมบพิตรอนุรักษ์ดูแล อนาคตทางวัดมีแผนจัดทำพิพิธภัณฑ์คัมภีร์ใบลานเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว
พนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการจัดทำโครงการฯ อาศัยความร่วมมือทั้งส่วนราชการ คณะสงฆ์ และภาคประชาชนที่ร่วมเป็นอาสาสมัคร ในการทำการจัดหมวดหมู่ ทำทะเบียน แปลและเก็บรักษา เพื่อให้คัมภีร์โบราณได้ถูกจัดอย่างเป็นระบบ เพราะเป็นคัมภีร์ที่มีประวัติศาสตร์ต่อเนื่องตั้งแต่สมัยอยุธยาจวบจนรัตนโกสินทร์ ที่เจ้านายหลายพระองค์ได้พระราชทานให้กับวัดเบญฯ เป็นองค์ความรู้ในคนรุ่นต่อไป
วัฒนา พึ่งชื่น นักภาษาโบราณชำนาญการพิเศษ กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ กล่าวว่า ผลวิจัยภาคสนามเบื้องต้น คัมภีร์โบราณที่จัดเก็บภายในตู้ธรรม วัดเบญฯ มีคัมภีร์สำคัญ อายุเก่าแก่ที่สุดประมาณ 380 ปี สมัยกรุงศรีอยุธยา และยังมีพบคัมภีร์สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ ข้อสังเกตในสมัยรัตนโกสินทร์ มีเจ้านายชั้นสูงของราชวงศ์จักรีมีส่วนสร้างคัมภีร์ เพราะมีความเชื่อเรื่องพระไตรปิฎกเกิดชึ้น มีการจารึกอักษรขอมผ่านใบลาน เกิดความศรัทธาในการสร้างคัมภีร์ใบลานถวายวัด ซึ่งเจริญถึงขีดสุดช่วงรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 2 เป็นต้นมา
“ จนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ผลิตพระไตรปิฎกอักษรไทยขึ้นครั้งแรก และไม่มีการทำซ้ำ ในรัชกาลที่ 6 กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้สร้างคัมภีร์พระไตรปิฎกถวายไว้ในพระพุทธศาสนาเจาะจงสำหรับวัดเบญฯ ถึง 288 ผูก หรือประมาณ 16 รายการ การจัดเก็บไต้องมีการวิเคราะห์ชื่อเรื่อง เนื้อหา เพื่อรวบรวมเป็นหมวดหมู่ จากนั้นทำความสะอาด และนำมาห่อผ้าผูก พร้อมจัดทำเลขแต่ละผูก ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ “
วัฒนาระบุการออกเลขทะเบียนบัญชีรายชื่อเอกสารโบราณ ณ วัดเบญฯ แบ่งเป็นประเภทคัมภีร์ใบลาน 425 มัด ออกรหัสเลขที่ได้ 719 เลขที่ รวม 6,275 ผูก และเอกสารโบราณ ประเภทหนังสือสมุดไทย 6 เล่ม ถือเป็นแหล่งเอกสารโบราณใหญ่มาก ทั้งนี้ สามารถใช้ตัวเลขในการสืบค้นของหอสมุดแห่งชาติเพื่อใช้เป็นแหล่งอ้างอิงในการศึกษาต่อไป
เอกสารสำคัญเบื้องต้น แบ่งได้ 6 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 สมัยอยุธยา เลขที่ 22 เรื่องวิมติวิโนทนี วินยฎีกา ฉบับล่องชาด 12 ผูก สร้างโดยอุบาสกขุนยอดโยธาพ.ศ.2186 สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาทอง อายุ 380 ปี, เลขที่ 70 เรื่องมิลินทปัญหาบาลี ฉบับทองทึบ 15 ผูก สร้างโดยมหาคงอิน เมื่อ พ.ศ.2291 สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ อายุ 275 ปี ประเภทที่ 2 สมัยธนบุรี เลขที่ 338 เรื่องสารสังคหะ ฉบับทองทึบ 6 ผูก สามเณรบัวสร้าง พ.ศ.2320 สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี อายุ 246 ปี เลขที่ 323 เรื่องสารสังคหะ ฉบับทองทึบ 13 ผูก ไม่ปรากฏผู้สร้าง พ.ศ. 2321 สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี 245 ปี
ประเภทที่ 3 สมัยรัตนโกสินทร์ ร.1 – ร.2 เลขที่ 271 เรื่องธรรมบทอรรถกถา ฉบับทองทึบ 6 ผูก ไม่ปรากฏผู้สร้างพ.ศ. 2328 อายุ 238 ปี, เลขที่ 17-18 เรื่องขุททกสิกขา ฉบับล่องชาด 6 ผูก สร้างโดยเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ เมื่อ พ.ศ.2331 อายุ 235 ปี ทั้งเลขที่ 271 และ 17-18 ตรงสมัยร.1 เลขที่ 93 เรื่องทศชาติชาดก ชาดกพระเจ้า 10 ชาติ ฉบับทองทึบ 14 ผูก ไม่ปรากฏผู้สร้าง เมื่อ พ.ศ. 2360 ตรงสมัยรัชกาลที่ 2 อายุ 206 ปี ประเภทที่ 4 สมัยรัตนโกสินทร์ ร.3 – ร.5 เลขที่ 128 เรื่องปปัญจสูทนี คัมภีร์อรรถกถาอธิบายความในพระสูตร ฉบับล่องชาด 11 ผูก สร้างโดยจันทโชติคุณูปการของคุณยายค้อมมารดาพระศรี พ.ศ. 2376 ตรงในสมัยร. 3 อายุ 190 ปี
ประเภทที่ 5 สร้างโดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ สำรวจพบ 16 รายการ(เลขที่) 288 ผูก นับว่าพระองค์มีศรัทธาสร้างคัมภีร์ถวายไว้ในพระพุทธศาสนาจำนวนมาก คิดเป็น 5% ของคัมภีร์ทั้งหมดที่ลงทะเบียนในพระวิหารสมเด็จ ทั้งนี้ พระองค์บันทึกไว้เป็นการเฉพาะว่า “สร้างไว้ในพระพุทธศาสนา สำหรับวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อุทิศส่วนพระกุศลถวายฉลองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” เลขที่ 524 เรื่องเวสสันดรชาดกกถา ฉบับทองทึบ 16 ผูก สร้างโดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อ พ.ศ.2461 สมัยร. 6 อายุ 105 ปี
ส่วนประเภทที่ 6 สร้างโดยเจ้าจอมมารดาเปี่ยม สำรวจพบ 26 รายการ(เลขที่) 233 ผูก นับว่าสร้างไว้หลากหลายเรื่องมาก ถ้านำจำนวนผูกมาเปรียบเทียบได้ประมาณ 4 % ของคัมภีร์ทั้งหมด มีข้อสังเกตส่วนใหญ่ไม่ได้บันทึกปีที่สร้างไว้ แต่เพียงประมาณท่านมีชีวิตระหว่าง พ.ศ.2381-2447 สมัยร. 3- ร.5 คัมภีร์ที่สร้างจึงมีอายุไม่เกิน 185 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พระเจ้าตอง' กลับพะเยา หลังโดนขโมย 36 ปีก่อน ค้นพบที่สวิต กรมศิลป์พิสูจน์แล้วของจริง
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ประสานงานและติดตามนำ “พระเจ้าตอง” กลับจังหวัดพะเยา รับส่งมอบพระเจ้าตอง จากนางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ Night at The Museum
กลับมาอีกครั้งสำหรับบิ๊กอีเว้นท์ของคนรักพิพิธภัณฑ์ เมื่อกรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำหนดจัดกิจกรรม "ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ" Night at the Museum ในเทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน
บูรณะวัดไชยวัฒนารามนำชีวิตชีวาสู่มรดกโลก
วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา งดงามทรงคุณค่า เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของกรุงศรีอยุธยาอดีตเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นโบราณสถานสำคัญของอยุธยา และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่โดย
'4วัด1วัง'เที่ยวมรดกโลกอยุธยายามราตรี
กระแสตอบรับดีสำหรับโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ยกระดับท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีเปิดโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็น 5 แห่ง ประกอบด้วย