ศูนย์ FLEC ต้นแบบเปิดโอกาส 'เด็กข้ามชาติ' เข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม

ามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็กที่หลายประเทศทั่วโลกให้คำมั่นร่วมมือกันคุ้มครองและปกป้องสิทธิเด็ก ในปัจจุบัน ประเทศไทยยังมีเด็กๆ ซึ่งเป็นลูกหลานของแรงงานข้ามชาติจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้ จึงมีความเสี่ยงในการใช้ชีวิตและเข้าสู่วงจรการใช้แรงงานเด็กอย่างผิดกฎหมาย องค์กรภาครัฐและเอกชนจึงร่วมกันจัดตั้งขึ้นศูนย์สวัสดิภาพและธรรมาภิบาลแรงงานประมงสงขลา หรือ FLEC ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน เพื่อบูรณาการความร่วมมือและผนึกองค์ความรู้ของหน่วยงานภาครัฐ

โดยองค์กรภาครัฐและเอกชน  ภาคประชาสังคม ที่มีส่วนร่วมตั้งศูนย์ FLEC ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  องค์การสะพานปลา กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา (บ้านสุขสันต์) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)  และ บริษัท จีอีพีพี สะอาด จำกัด  เพื่อจัดการและป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์และการทำประมงที่ฝ่าฝืนและละเมิดกฎหมาย (Illegal Unreported and Unregulated Fishing หรือ IUU Fishing) ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติและครอบครัวแบบครบวงจรครอบคลุมถึงมิติต่างๆ รวมถึง โอกาสทางการศึกษาของ “เด็กข้ามชาติ”  เพื่อสร้างความเท่าเทียม สร้างพื้นฐานการเคารพสิทธิเด็ก และร่วมยกระดับอุตสาหกรรมอาหารทะเลและประมงไทยให้ปลอดจากการใช้แรงงานเด็ก

นางสาวนาตยา เพชรรัตน์ ผู้จัดการศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา ในฐานะกรรมการศูนย์ FLEC กล่าวว่า หนึ่งในการดำเนินงานหลักของศูนย์ FLEC คือ “ห้องเรียนรู้เพื่อเด็กและครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน”  เป็นความร่วมมือที่เปิดโอกาสให้ลูกหลานแรงงานข้ามชาติได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ช่วยให้เด็กมีความรู้อ่านออกเขียนได้ และมีทักษะอาชีพ เพื่อสนับสนุนให้เด็กข้ามชาติได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการถูกเอาเปรียบ ตกเป็นเหยื่อของการแรงงานเด็กผิดกฎหมาย

ห้องเรียนรู้ฯ ตั้งอยู่ชั้นล่างของอาคารสำนักงานท่าเทียบเรือประมงสงขลา (ท่าสะอ้าน) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมี คุณครู “พาตีเมาะ  หะแว” เป็นครูประจำห้องเรียนรู้ฯ เปิดการเรียนการสอนทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ จัดการเรียนการสอนที่เป็นระบบและเหมาะสมกับวัยของเด็ก ได้แก่ วัยเด็กเล็ก การเรียนการสอนแบบบูรณาการเพื่อเสริมพัฒนาการ  สำหรับเด็กโตจะได้เรียนรู้วิชาหลัก ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมความพร้อมเด็กเข้าเรียนในระบบการศึกษาของไทย นอกจากนี้ น้องๆ ยังได้เรียนภาษากัมพูชาจากเจ้าหน้าที่ของศูนย์ FLEC และมีการเรียนรู้นอกห้องเรียน เสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิตและการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ การสอนให้เด็กปลูกพืชผักสวนครัวใช้เป็นอาหาร การปรุงอาหารที่ปลอดภัย การคัดแยกขยะ เป็นต้น

นับตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ศูนย์ FLEC มีส่วนช่วยลูกหลานแรงงานข้ามชาติรวม 263 คนได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ได้เรียนรู้ทักษะการส่งเสริมคุณภาพชีวิต และมากกว่าร้อยละ 80  สามารถสอบผ่านเกณฑ์ประเมินของศูนย์การเรียนรู้ฯ  นอกจากนี้ มีลูกหลานแรงงานข้ามชาติ 34 คน กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเทศบาล 1  อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา อีกด้วย


“ศูนย์ FLEC และซีพีเอฟ ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็กข้ามชาติ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ และป้องกันปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก เพื่อให้ “เด็กข้ามชาติ” ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป” นางสาวนาตยากล่าว 
จากการดำเนินงานเชิงรุกในการคุ้มครองสิทธิเด็กข้ามชาติอย่างต่อเนื่องของ ศูนย์ FLEC และ “ห้องเรียนรู้เพื่อเด็กและครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน”  จนเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานระดับประเทศและสากลเดินทางมาเยี่ยมชมดูงาน ส่งผลให้ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นองค์กรในภาคเกษตรอุตสาหกรรม  ติดอันดับองค์กรสนับสนุนและมีการดำเนินงานด้านสิทธิเด็กจาก GLOBAL CHILD FORUM  มูลนิธิด้านสิทธิเด็กและธุรกิจ ที่ดำเนินงานคุ้มครองสิทธิเด็กของสวีเดน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมากล้อมเชื่อมสัมพันธ์ ศึกลุยไถ2024 พีซีจี–ซีพีเอฟ-ซีพีแอ็กซ์ตร้า ชิงกว่า650,000บาท

สมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (ซีพีเอฟ) และ บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด (พีซีจี)  และ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) จัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาหมากล้อมศึกลุยไถ 2024 เพื่อแลกเปลี่ยนฝีมือและประสบการณ์เชื่อมความสัมพันธ์ให้กับนักหมากล้อม 3 บริษัท ชิงถ้วยเกียรติยศและเงินรางวัลรวมกว่า 650,000 บาท

ซีพีเอฟ เข้าแจง กมธ. มั่นใจไม่เกี่ยวข้องปลาหมอคางดำแพร่ระบาด

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัทมหาชนจำกัด เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF กล่าวภายหลังการเข้าชึ้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหารวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ