“อุดรธานี” เป็นเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ อารยธรรม และความเชื่อ ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาแวะเวียนไม่ขาดสาย ยิ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ทุ่งทะเลบัวแดง อ.กุมภาวาปี ที่บานสะพรั่งเต็มบึงหนองหาน เป็นหมุดหมายที่ไม่ควรพลาด พร้อมกับการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมดวงชะตา หรือนั่งรับลมชมสวนดอกไม้ให้ชุ่มช่ำหัวใจ นี่คือโปรแกรมหลักๆของการมาเยือนอุดรฯ ในครั้งนี้
ก่อนตะลอนเที่ยว ขอแวะสักการะพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ ที่วัดโพธิสมภรณ์ เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้น พ.ศ. 2449 ปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ขอพร ขอโชค ขอลาภ เรียบร้อยก็พักผ่อนก่อนจะลุยต่อในวันพรุ่งนี้
เช้าตรู่ของอีกวัน ฟ้ายังคงมืดสนิท ก็ได้เวลาตื่นแม้จะงัวเงีย แต่เมื่อตั้งใจจะมาเที่ยวแล้ว เรื่องนอนจะต้องไม่เป็นอุปสรรค ล้างหน้าจัดแจงทำภาระกิจส่วนตัว เตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการล่องเรือชมทุ่งบัวแดง คือ ช่วงเช้าประมาณ 06.00 น. แดดจะไม่ร้อน ถ่ายรูปออกมาสวย ออกจากโรงแรมมาถึงบึงหนองหาน อ.กุมภาวาปี ก็ประมาณ 6 โมงนิดๆ เวลากำลังดีพร้อมลงเรือที่ท่าบ้านเดียม จัดโซนที่นั่งเองได้ตามใจชอบ เพื่อความปลอดภัยต้องสวมใส่เสื้อชูชีพด้วยนะ เมื่อลูกเรือพร้อม กัปตันเรือผู้ชำนาญของบ้านเดียมก็สตาร์ทเครื่องพาเรือแล่นมุ่งหน้าสู่เวิ้งน้ำอันกว้างใหญ่ทันที
จากท่าเรือมาถึงกลางบึงใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที มองจากมุมบนเรือเริ่มเห็นสีชมพูของดอกบัวแดงที่เรากำลังจะขยับเข้าไปใกล้แล้ว จนเข้าสู่กลางทุ่งบัวแดง กล้องในมือก็เริ่มทำงานทันที บัวที่เบ่งบานชู่ดอกรับแสงยามเช้าทั่วบึงหนองหานขนาดกว่า 20,000 ไร่แห่งนี้ หากจะให้บรรยายความสวยที่ปรากฎอยู่ผ่านรูปภาพ หรือ ข้อความที่อยากสื่อสารถึงความงดงาม คงต้องบอกว่ามันสวยจนเกินบรรยายนั้นก็น่าจะเหมาะ เพราะสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้ ต้องใช้สายตาสัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ ถึงจะรับรู้ได้ว่ามันคุ้มค่ามากที่ได้ตื่นเช้า
บึงแห่งนี้นอกจากบัวแดง ก็ยังมีเหล่านกอีโก้ง นกเป็ดน้ำ นกนางแอ่นบินมาอวดโฉมไปมาเหนือผิวน้ำให้ได้ชม บางก็เดินหาอาหารบนดอกจอก กัปตันเรือแอบกระซิบว่า นี่ถือว่าสวยที่สุดในช่วงหลายปีเลยนะ หากใครเป็นแฟนคลับของทุ่งบัวแดง ก็น่าจะเคยบ่นอุบอิบว่าปีนั้นบานน้อย ปีก่อนโน้นบานไม่เยอะ แต่ปีนี้ต้องไม่พลาดมาชมความอลังการของบัวแดงที่นี่เลย
สำหรับเรือท่าบ้านเดียมมีให้บริการทั้งเรือลำใหญ่นั่งได้ไม่เกิน 7 คน มีหลังกันแดดให้ด้วยนะ ราคา 500 บาท ส่วนเรือลำเล็กนั่งได้ 2 คน ราคา 300 บาท
ชมธรรมชาติอันสวยงาม ก็มาต่อที่เส้นทางความศรัทธา เพราะที่อุดรฯ มีความหลากหลายทางความเชื่อ ให้นักท่องเที่ยวสายมูได้เลือกเต็มที่ ใครที่อยากขอพระด้านการงาน ก็มักจะมาขอพรที่องค์ศรีสุขคเณศ ต้ังอยู่บริเวณด้านหลังวิทยาลัยอาชีวะศึกษาอุดรธานี องค์นี้นับว่ามีความสวยงามด้วยการปั้นที่ปราณีตบรรจงของศิลป์เก่าศิลปกรรมของวิทยาลัยแห่งนี้ มีการผสมผสานความเชื่อเรื่องของพญานาค รังสรรค์มาเป็นองค์ศรีสุขคเณศนั่งบนพญานาคปรก 9 เศียร ตัวองค์พระพิฆเณศวรมี 8 กร มีความหมายถึง มหามงคลแห่งความสุข ความสำเร็จทั้งปวง
เคลื่อนพลังศรัทธามาต่อที่ พิพิธภัณฑ์พระธาตุ พระอริยสงฆ์ไทย อ.เมือง เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่มาอุดรฯ คราวใดก็ต้องไปกราบสักการะพระธาตุที่นี่ ชมการแปรธาตุของพระสงฆ์สายวัดป่าที่ในแต่ละปีก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น
ฆรณี แสงมณี เจ้าของพิพิธภัณฑ์พระธาตุฯ เล่าให้ฟังว่า เคยทำงานที่ไทยเบฟฯ เกี่ยวกับกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนา ทำให้ได้มีโอกาสถวายงานกับพระในวัดต่างๆ จึงเกิดความเลื่อมใส ศรัทธา จนได้เริ่มเก็บบูชาธาตุของพระหลังจากที่ได้ไปงานพระราชทานเพลิง พ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระท่านก็จะมอบอัฐิให้กับวัดสาขา ซึ่งตนก็ได้รับมอบด้วยจึงได้ถือโอกาสเก็บบูชาเรื่อยมา เมื่อเยอะมากเลยจึงมีแนวคิดนำมาจัดแสดงในรูปแบบพิพิธภัณฑ์เพื่อให้คนได้เห็นว่าการบรรลุธรรมในปัจจุบันยังมีอยู่จริง จากพระที่ปฏิบัติดี เคร่งในหลักธรรม จนเกิดการฟอกขัณฑ์ในร่างกายที่บริสุทธิ์ ซึ่งการแปรเป็นธาตุก็มีระยะเวลาบางองค์ใช้เวลา 1-2 วัน บางองค์ใช้เวลาเป็นปีก็มี
โดยธาตุที่ได้รับมอบมานั้นจะมีทั้งอัฐิ อังคาร เส้นเกศา โลหิต เล็บ ส่วนใหญ่จะเป็นของพระสายวัดป่า แต่ก็จะมีพระวัดบ้านและแม่ชีอยู่บ้าง ซึ่งก็จะมีส่วนที่มรณภาพและยังมีชีวิตด้วย รวมกว่า 400 องค์ แต่ที่แปรเป็นพระธาตุแล้วประมาณ 100 องค์
ก่อนที่จะชมพระธาตุก็ต้องทำการสักการะพระบรมสารีริกธาตุเสียก่อน ทางพิพิธภัณฑ์ก็จะเตรียมพวงมาลัยคริสตัลสวยงาม เพื่อใช้ในการบูชา ส่วนด้านในพิพิธภัณฑ์มีการจัดเก็บพระธาตุใส่ไว้ในตู้กระจกจัดเรียงตามพรรษาของแต่ละรูป แต่พระธาตุที่งดงามที่สุดและมีการแปรธาตุเยอะคือของ หลวงตามหาบัว ที่มีการแปรธาตุทั้งอัฐิ อังคาร เกศา โลหิต น้ำหมาก ก้อนถ่านที่ใช้เผา ซึ่งแต่ละส่วนก็จะมีสีธาตุที่แตกต่างอย่างงดงาม ส่วนธาตุของพระที่ยังมีชีวิตอยู่และเริ่มมีการแปรเป็นธาตุ เช่น หลวงพ่ออินถวาย หลวงปู่แสง ฯลฯ โอกาสมงคลทางเจ้าของพิพิธภัณฑ์ฯ ได้เปิดให้ชมพระบรมสารีริกธาตุ ที่เราก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก พระธาตุมีความขาวงดงามต่างจากพระธาตุของพระ นับเป็นบุญตาจริงๆที่ได้เห็นสักครั้ง นอกจากนี้ยังการจัดแสดงรูปปั้นพระจากวัดต่างๆ หรืออักขระลงตะกรุดจากพระเกจิชื่อดังด้วย
เสริมมงคลกันต่อที่ วัดสระมณี อ.หนองหาน วัดเก่าแก่ที่มีเรื่องเล่าในจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่าก่อนจะมีวัด เดิมมีเพียงสระน้ำเล็กๆ ชื่อเดิมว่าหนองก๊กโพธิ์ หรือหนองต้นโพธิ์ วันดีคืนดีก็จะเห็นแสงไฟลอยขึ้นจากสระน้ำ เรียกว่า แสงมณีโชติ ต่อมาใช้ชื่อว่า สระมณี ชาวบ้านจึงสันนิษฐานว่าอาจจะไปดวงไฟของพญานาค ต่อมาจึงได้มีการสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น โดยโบสถ์ก็สร้างขึ้นใกล้กับบริเวณสระมณี ตัวโบสถ์ถือว่ามีความวิจิตรด้วยประติมากรรมพญานาค 4 ตระกูล 9 เศียร ได้แก่ ตระกูลสีทอง พญาวิรูปักษ์นาคราช, ตระกูลสีดำ พญากัณหาโคตรมะนาคราช, ตระกูลสีรุ้ง พญาฉัพพยาปุตตะนาคราช และตระกูลสีเขียว พญาเอราปถนาคราช ล้อมรอบกำแพงโบสถ์ได้อย่างงดงาม
เบิกบานก่อนลาอุดรฯ ที่สวนดอกไม้แบงค์เบญจมาศ อ.เมือง คาเฟ่ที่อบอวลไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้หลากสีสันของดอกเบญจมาศ ดอกคอสมอส ดอกมาร์กาเร็ต ดอกดาวเรือง ซึ่งในแต่ละช่วงทางสวนก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนดอกไม้ไปตามช่วงอายุการร่วงโรยของดอกไม้ โดยสามารถเข้ามาชมสวนได้ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงช่วงต้นเดือนเมษายนนะ เพราะช่วงอากาศร้อนก็ต้องพักดิน ก่อนจะเริ่มต้นฤดูกาลของดอกไม้ใหม่อีกครั้ง
ที่อุดรฯ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากหมาย คงต้องใช้เวลาอีกหลายวันหากจะเที่ยวให้ครบทุกที่ แต่การเดินทางเพียงเท่านี้ก็อิ่มอกอิ่มใจและอิ่มบุญมากแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ย้ำพรรคร่วมมีเป้าเดียวทำเพื่อประชาชนส่วนจะอยู่ได้แค่ไหนก็แค่นั้น
'อนุทิน' ย้ำพรรคร่วมรัฐบาลมีเป้าหมายเหมือนกัน ทำประโยชน์ให้ประชาชน - ประเทศ หลังทักษิณชมพรรคร่วมสามัคคีกันดี
จักรภพไม่พลาด! แต่งกลอนอวยนายใหญ่ลงอุดรธานี
นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี
'กรมพัฒนาธุรกิจการค้า' จัดกิจกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพ Roadshow 2024 ส่วนภูมิภาค จังหวัดอุดรธานี
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดกิจกรรม แฟรนไชส์สร้างอาชีพ Roadshow 2024 โดยยกขบวน แฟรนไชส์ชั้นนำกว่า 40 แบรนด์ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม บริการ และค้าปลีก มาให้ผู้สนใจได้เลือกสรรตามความสนใจและความถนัด
นายกฯอิ๊งค์ทัวร์ 'อุดรธานี-หนองคาย' 17 ต.ค.
นายกฯ บินหนองคาย 17 ต.ค. ตรวจฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำท่วมอีสาน พร้อมเปิดงานบั้งไฟพญานาค ชู 'ซอฟต์พาวเวอร์'
กมธ.ที่ดิน ลงพื้นที่ภูผาเหล็ก ยังไร้ข้อยุติความขัดแย้งชุมชน-อุทยานฯ
คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายอภิชาติ ศิริสุนทร ได้มาลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและรับเรื่องร้องเรียนกรณีที่ชาวบ้านผลกระทบจากป่าสงวนแห่งชาติภูผาเหล็กทับซ้อนที่ดินทำกิน
วธ.เปิด3เส้นทางมูเตลู สร้างรายได้ชุมชน
26 ม.ค.2567 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ในปี 2567 ได้มอบนโยบายให้กรมการศาสนา (ศน.) ขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงความเชื่อ (มูเตลู) ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Soft power ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของไทย