ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของฝ่ายค้าน ที่กำลังจะระเบิดศึก ซึ่งเวทีนี้คือ สงครามครั้งสุดท้ายกลางสภาฯของรัฐบาลบิ๊กตู่กับฝ่ายค้าน
เบื้องต้น วิปรัฐบาลจะให้อภิปรายช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และจะให้เวลาฝ่ายค้าน 2 วัน แต่ฝ่ายค้านต้องการอภิปรายภายในเดือนมกราคม
ศึกฟาดฝีปาก ยกนี้ ที่ฝ่ายค้านใช้ชื่อ “ยุทธการถอดหน้ากากคนดี” ถูกมองว่า จะเป็นเวทีดิสเครดิตรัฐบาล และเป็นเวทีหาเสียง โชว์ตัวรอบสุดท้ายของส.ส.ฝายค้าน
ประเด็นหนึ่งที่ชัดเจนว่า ฝ่านค้านล็อกเป้ารอถล่ม บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และในฐานะรมว.กลาโหม ก็คือกรณี “เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง” ซึ่งตัวเลขถึงวันที่ 5 มกราคม มีทหารเรือเสียชีวิตจากเหตุนี้แล้ว 24 ราย
ต้องดูว่า พลเอกประยุทธ์ จะรับมือฝ่ายค้านในเรื่องนี้อย่างไร
จุดสำคัญที่คาดว่า กลาโหมจะใช้รับมือฝ่ายค้านก็คือ การย้ำว่า กองทัพเรือ และกลาโหม ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคงใช้วิธี เอากรณี กองทัพเรือโดย พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ตั้ง กรรมการสอบ เพื่อคลี่คลายปมสาเหตุการอับปางครั้งนี้ไปแล้ว มายันสู้ฝ่ายค้าน
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่ากรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ตั้งขึ้นมาตามคำสั่งกองทัพเรือที่ลงนามโดย ผบ.ทร. เมื่อ 24 ธ.ค.2565 เป็นแค่เพียงการซื้อเวลา เพราะกว่าจะกู้เรือ สอบสวนผู้เกี่ยวข้องจนครบ น่าจะใช้เวลาเป็นปี ถึงเวลานั้นเรื่องดังกล่าวก็จะเงียบไปเหมือนข่าวอื่นๆ ขณะที่สังคมก็หันเหความสนใจไปติดตามเรื่องที่เป็นกระแสในขณะนั้น
แต่ก็ต้องยอมรับว่า คำสั่งที่เขียนไว้ให้มีการสอบสวน ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ ย่อมต้องใช้เวลานาน
และเมื่อ พลิกดูคำสั่งมีการระบุถึงอำนาจหน้าที่ไว้อย่างครอบคลุมและกว้างขวาง กล่าวคือ
-ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุเรืออับปาง
-ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการดำเนินการภายหลังประสบเหตุ เพื่อตรวจสอบการดำเนินการในขั้นตอนการสละเรือใหญ่
-การค้นหา ช่วยเหลือกำลังพลที่ประสบเหตุว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางปฏิบัติที่กำหนดไว้หรือไม่ อย่างไร
-นำผลการสอบสวนมาเป็นบทเรียน และป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหาย เพื่อมิให้เกิดเหตุในทำนองเดียวกันอีก
โดยมี พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน พร้อมด้วยบิ๊กกองทัพเรือ อีกหลายคนร่วมเป็นกรรมการสอบ เช่น เสนาธิการกองเรือยุทธการ เจ้ากรมอู่ทหารเรือ เป็นต้น
และในกรรมการสอบ มีการแยกเป็น 2 คณะทำงาน คือ คณะทำงานสอบสวนสาเหตุการอับปาง มี พล.ร.ท.สมบัติ นาราวิโรจน์ เสนาธิการกองเรือยุทธการเป็นหัวหน้าคณะทำงาน
ส่วนคณะทำงานที่ 2 เป็น คณะทำงานสอบสวนการดำเนินการภายหลังประสบเหตุ ไล่ตั้งแต่ขั้นตอนการสละเรือใหญ่ มี พล.ร.ท.อภิชัย สมพลกรัง รองเสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน
ทว่า ระหว่างนี้ปรากฏว่า “นักสืบโซเชียล” ชักรอไม่ไหว เริ่มทำหน้าที่ “คณะกรรมการสอบสวนเงา“ ทยอยเปิดข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นระลอก โดยเฉพาะ 27 สาเหตุปมอับปางครั้งนี้ ที่เป็นข้อความส่งต่อ ปลิวว่อนไปทั่วทุกช่องทาง
ที่คาดเดากันว่ามาจาก “คนเรือ” ตัวจริงที่ทนไม่ไหว ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเรือ ความไม่พร้อมต่างๆ ขั้นตอนการสื่อสาร การสั่งการ ระหว่างผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งในเบื้องต้นยังมีข้อมูลจากปากคำทั้งสองฝั่งไม่ตรงกัน
ตามมาด้วย เอกสาร “ขุดบ่อล่อปลา” ชี้เป้าการซ่อมทำ เรือหลวงสุโขทัย หลังจากปล่อยเอกสารราชการ รายงานปัญหาแผ่นเหล็กใต้แนวน้ำของเรือบางลง เพื่อขยายผลไปสู่ปมอื่นๆ
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ขอชี้เป้าไว้ว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่กองทัพเรือเจอปัญหา “ข้อมูล-เอกสาร” หลุด.....
เพราะก่อนหน้านี้มีการนำไปอภิปรายในสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นโครงการจัดหาเรือดำน้ำ เรือผิวน้ำ อากาศยาน อากาศยานไร้คนขับ ตอกย้ำด้วยข้อมูลจากเพจอาวุธต่างๆ ที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล จุดอ่อนในการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ไม่สมดุล สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ
ยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ ร.ล.สุโขทัย ที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1 ใน 4 ของผู้ที่อยู่บนเรือ ขณะที่เรือรบชั้นดีจมลงสู่ก้นทะเลอย่างเสียหายหนัก สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย ขวัญกำลังใจพี่น้องทหารเรือ รวมถึง “อดีตครู ทร.” ที่เป็นทหารเรือรุ่นเก่า จึงเกิดปฏิกิริยา “ทนไม่ได้” การส่งต่อข้อมูลต่างๆ จึงหลั่งไหลยิ่งกว่าสายน้ำ และคงส่งถึงส.ส.ฝ่ายค้านด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า บางข้อมูลอาจจะเป็นเพียงการวิเคราะห์ คาดการณ์ ผสมปนเปเข้ากับอคติของผู้เสียประโยชน์ รวมไปถึงความขัดแย้งภายใน จากปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ก็มีข้อเท็จจริงบางส่วนที่ กองทัพเรือ คงตระหนักดีว่า มีปัญหาเกิดขึ้นจริง ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งสังคมคาดหวังว่า ผบ.ทร.จะสร้างความกระจ่างให้กับสังคมโดยเร็วก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนปีนี้
อย่างน้อยก็เป็นการเรียกความศรัทธาคืนให้กับองค์กรที่เคยเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนคนไทยมาอย่างยาวนาน!!.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของไทยโพสต์ได้ทุกช่องทางที่
Website : https://www.thaipost.net/
Youtube : https://www.youtube.com/c/ThaipostTV
Facebook : https://www.facebook.com/thaipost
Twitter : https://twitter.com/thaipost
Instagram : https://www.instagram.com/thaipost_ig/
Line : https://lin.ee/ukteb32
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฟุ้งปีใหม่โอกาสดีทุกคน มั่นใจ‘แม้ว-หนู’ไร้ปัญหา
นายกฯ อิ๊งค์อวยพรปีใหม่ ให้ทุกคนมีจิตใจเบิกบานยันปี 68
ถ้าไม่รู้ทัน "มันกินเรียบ"
"ตรรกะโจร" บางเรื่องนี่ ใช้ได้นะ เช่นที่พูดว่า "ผลไม้พิษย่อมมาจากต้นไม้พิษ"
สภาสูง ยั๊วะ รัฐบาล ข้ามหัว เทตอบ 5 กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯนินจา’ หนีสภา
‘สภาสูง’ ยั๊วะ รบ.ข้ามหัว เทตอบ 5กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯ นินจา’ หนีสภา ‘หมอเปรม’ อาลัย ‘แพทองโพย’ ไร้รับผิดชอบ แขวะใส่ชุดนอนตรวจทหาร หิ้วผัวใต้ออกงาน
'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ ช่วยหาเสียงนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' คึกมั่นใจชนะล้านเปอร์เซ็นต์
'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ 'เจ๊แดง-สมชาย-พิชัย' ต้อนรับ แวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านมิชเชอร์ลิน 7 ปีซ้อน ก่อนช่วงเย็นขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' ลั่นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์
'อิ๊งค์' ยิ้มร่ารับฉายา 'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' แซวตัวเอง 'แพทองแพด' แฮปปี้ไม่เกลียดใคร
'นายกฯอิ๊งค์' ยิ้มแย้ม ไม่โกรธฉายา 'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' ขอมองมุมดี พ่อมีประสบการณ์เพียบช่วยหนุน หยอกสื่อกลับ 'แพทองแพด' ไม่ใช่แพทองโพย บอกไม่ค่อยเกลียดใครมันเหนื่อย แฮปปี้เข้าไว้
'หลวงพ่อทวด' สำเร็จแล้ว
คุยเรื่องบาปมาหลายวัน วันนี้คุยเรื่องบุญกันนิด! แต่ขอเตือนความจำกันก่อน