'อนุทิน 'แจงมาตรการรับมือนักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้าไทย เฝ้าระวัง ตรวจหาเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในน้ำเสียจากเครื่องบิน

กำหนดเกณฑ์สำหรับการปรับมาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อในอัตราสูงหรือพบเชื้อกลายพันธุ์ รวมถึงเฝ้าระวังและตรวจเชื้อโควิด 19 ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ทั้งนี้ จะมีการสื่อสารถึงนักเดินทางเพื่อเพิ่มการตระหนักรู้และให้ความร่วมมือในการลดความเสี่ยง

4 ม.ค. 2566- นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 และการเตรียมความพร้อมรองรับผู้เดินทางจากประเทศจีน ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง โดยข้อมูลวันที่ 25-31 ธันวาคม 2565 มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,111 ราย เฉลี่ย 301 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 529 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 352 ราย และผู้เสียชีวิต 75 ราย เฉลี่ย 10 รายต่อวัน โดยเกือบทั้งหมดยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เว้นระยะห่างทุก4 เดือน ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการรับบริการวัคซีนเพิ่มขึ้น 277,206 โดส สะสม 145,928,256 โดส โดยเป็นเข็มแรกร้อยละ 82.7 เข็มที่ 2 ร้อยละ 77.7 เข็มที่ 3 ร้อยละ 38.9 และเข็มที่ 4 ร้อยละ 9.1

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีจีนเตรียมเปิดประเทศ จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน คาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คน โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด มีระยะเวลาในการขอทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า และรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองและเป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ

สำหรับการเตรียมการรับนักท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่ผ่านมา มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการประชุมของคณะกรรมการด้านวิชาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีความเห็นตรงกันว่าควรปฏิบัติตามแนวทางโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และปฏิบัติกับผู้เดินทางจากทุกประเทศอย่างเท่าเทียม ไม่ใช้มาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อกีดกันผู้เดินทางจากประเทศใดประเทศหนึ่ง ทั้งนี้ ประเทศไทยมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามหลักวิชาการและเป็นไปตามมาตรฐานโลกอยู่แล้ว ยืนยันว่าระบบสาธารณสุขของไทยยังมีความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยขณะนี้มีการใช้เตียงระดับ 2-3 เพียง 5.2% และมีแผนเตรียมความพร้อมหากพบการระบาดของโรคที่รุนแรงเพิ่มขึ้น รวมถึงจะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 เพื่อปรับมาตรการตามสถานการณ์ของเชื้อกลายพันธุ์ด้วย

รมว.สธ. กล่าวอีกว่าส่วนข้อเสนอมาตรการด้านสาธารณสุขรองรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ ที่จะเสนอในวันที่ 5 มกราคมนี้ คือ ก่อนเข้าประเทศไทยให้ฉีดวัคซีนโควิด 19 อย่างน้อย 2 เข็ม หากมีอาการป่วยทางเดินหายใจ ควรเลื่อนการเดินทางและรักษาให้หายก่อนเพื่อลดการแพร่โรค และให้ซื้อประกันสุขภาพเดินทางที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิด 19 ก่อนเข้าประเทศ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ส่วนมาตรการขณะพำนักในประเทศไทย จะมีการให้คำแนะนำผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ หากมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล


กรณีเดินทางออกจากประเทศไทยและประเทศปลายทางมีนโยบายตรวจคัดกรองก่อนเข้าประเทศ แนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ ซึ่งจะมีบริการตรวจหาเชื้อโควิด 19 โดยสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนออกจากประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการเฝ้าระวังโรคกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศที่มีอาการทางเดินหายใจ โดยให้ได้รับการตรวจด้วย ATK/PCR และมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์โรคและตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีผู้เดินทางจากต่างประเทศ พร้อมทั้งเพิ่มกลไกการรายงานสถานการณ์ผ่านเว็บไซต์กรมควบคุมโรค เน้นจำนวนนักท่องเที่ยวและผลการตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการป่วยทางเดินหายใจที่สนามบิน กำหนดเกณฑ์สำหรับการปรับมาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อในอัตราสูงหรือพบเชื้อกลายพันธุ์ รวมถึงเฝ้าระวังและตรวจเชื้อโควิด 19 ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ทั้งนี้ จะมีการสื่อสารถึงนักเดินทางเพื่อเพิ่มการตระหนักรู้และให้ความร่วมมือในการลดความเสี่ยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อนุทิน’ สั่ง กทม.เร่งสอบที่มาป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ตและสัญชาติ ย่านห้วยขวาง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ทราบถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เปิดเผยและวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงกรณีมีการติดตั้งป้ายโฆษณาภาษาจีน

ชื่นมื่นสุดสัปดาห์ ‘ทักษิณ-อนุทิน-สารัชถ์’ ออกรอบตีกอล์ฟเขาใหญ่ ‘สุวัจน์-รมต.-สส.พท.’ ร่วมแจม

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เขาใหญ่ จ. นครราชสีมา ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใด้ใช้เวลาในช่วงสุดสัปดาห์

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน

'อนุทิน' เผย 'วัน อยู่บำรุง' มีพรรคสังกัดแล้ว ลุ้นนั่งเก้าอี้ผู้ช่วยรมต.มหาดไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง ระบุตนเป็นหนึ่งในบุคคลที่รักและเคารพว่า นายอนุทิน อุทานว่า "โอ้โห้ ผมรู้จักกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

ดี! 'อนุทิน' ชม สว.ใหม่ ขอเชียร์ในใจชิงประธานวุฒิสภา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีโฉมหน้าของวุฒิสภาหรือสว.ชุดใหม่ มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ว่า “ ดี ”ส่วนจะให้วิจารณ์ คงเป็นไปไม่ได้ อยู่สูงกว่าตน เพราะวุฒิสภาเค้าเรียกว่าสภาสูง ของพวกผมเป็นสส.