ชมความอลังการสุดยอด'เครื่องทองอยุธยา'

อยุธยาเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อยู่มากมาย ทั้งอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัดวาอารามเก่าแก่ รวมถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และโบราณคดีสำคัญอันดับต้นๆ ล่าสุด กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรเปิดอาคารเครื่องทองอยุธยา อาคารหลังใหม่ที่จัดแสดงโบราณวัตถุประเภท”เครื่องทอง” โดยเฉพาะ จำนวนมากกว่า 2,244 รายการ  

จุลมงกุฎ เครื่องทองจากวัดราชบูรณะ

แต่ละชิ้นทรงคุณค่าระดับโลก มีความเก่าแก่ ความสวยงาม และยิ่งใหญ่ ที่ไม่ควรพลาดไปเยือน โดยค้นพบจากกรุวัดที่มีชื่อเสียงใน จ.พระนครศรีอยุธยา  อย่างวัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดมหาธาตุ วัดพระศรีสรรเพชญ์ และพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย  เครื่องทองชิ้นโดดเด่นของอาคารเครื่องทองแห่งนี้ อาทิ จุลมงกุฎ เครื่องประดับศรีษะทำด้วยทองคำประดับแก้วสีเขียวและใส ศิลปะอยุธยาตอนต้น ,พระแสงขรรค์ชัยศรี ทำจากเหล็ก หินเขี้ยวหนุมาน และทองคำประดับแก้วสี ลวดลายประดับศิลปะเปอร์เซีย-อิสลาม  ศิลปะอยุธยาตอนต้น  ,พระพุทธรูปปางมารวิชัยทองคำ, พระคชาธารทองคำประดับอัญมณีและแก้วสี,สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุทำจากอัญมณีหายากรัดด้วยสาแหรกทองคำ ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่แสดงถึงความร่ำรวยทางศิลปวัฒนธรรมและความชำนาญของช่างชาวอยุธยา

ในการนี้  นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตรวจเยี่ยมอาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา  พร้อมด้วยนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นายสมพจน์  สุขาบูลย์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา  นำชมอาคารเครื่องทองทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น ที่มี 8 ส่วนจัดแสดง ร้อยเรียงเชื่อมโยงกันด้วยรูปแบบจัดแสดงที่อลังการ น่าสนใจ ทันสมัย และได้มาตรฐานตามหลักพิพิธภัณฑสถานสากล ซึ่งเปิดให้บริการวันแรกวันที่ 30 ธ.ค.2565 เป็นต้นไป

อิทธิพล คุณปลื้ม เยี่ยมชมพระแสงขรรค์ชัยศรีภายในอาคารเครื่องทอง

นายสมพจน์ สุขาบูลย์ กล่าวว่า  อาคารเครื่องทองอยุธยา ถือเป็นสถานที่จัดแสดงเครื่องทองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเครื่องทองอยุธยาที่จัดแสดงสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคั่ง ความเจริญด้านศิลปวัฒนธรรม และความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอยุธยาในสมัยอยุธยาตอนต้น  อย่างวัดราชบูรณะ สร้างขึ้น พ.ศ.1967 เครื่องทองที่พบในกรุวัดราชบูรณะบ่งชี้อยุธยาเจริญในระดับอาณาจักรตั้งแต่อดีต ผู้มาเที่ยวชมนอกจากได้องค์ความรู้แล้ว ยังเกิดความรัก ความภาคภูมิใจในมรดกที่บรรพบุรุษสร้างไว้ รวมถึงความตระหนักถึงการอนุรักษ์สมบัติของประเทศชาติ

เจดีย์แก้วผลึกทรงเหลี่ยมและเครื่องสูง 

ผอ.พิพิธภัณฑ์ฯ เจ้าสามพระยา กล่าวว่า โบราณวัตถุกว่า 2,200 ชิ้น ทุกชิ้นเป็นไฮไลต์ ส่วนใหญ่ไม่เคยนำออกมาจัดแสดง เป็นการขยายขอบเขตความรู้เครื่องทองมากขึ้น  ทั้ง 8 ส่วนจัดแสดงเนื้อหานิทรรศการเชื่อมโยงกัน โดยเริ่มจากส่วนที่ 1  จัดแสดงเครื่องทองจากวัดราชบูรณะ ประเภทเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องสูง เครื่องราชูปโภคและเครื่องถนิมพิมพาภรณ์ เครื่องทองที่จัดแสดงล้วนเป็นสัญลักษณ์และพระเกียรติยศของพระราชา

พระคชาธารทองคำ

ส่วนที่ 2 จัดแสดงเครื่องทองจากวัดราชบูรณะ ประเภทเครื่องพุทธบูชา เครื่องอุทิศ และพระบรมสารีริกธาตุ  รวมถึงกรุจำลองวัดราชบูรณะ  จะจัดแสดงพระพิมพ์ พระเครื่อง พระพุทธรูป

พระพุทธรูปทองคำควรค่าเยี่ยมชม

ส่วนที่ 3 จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับคติการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุที่พบในโบราณสถานจ.พระนครศรีอยุธยา ได้แก่ พระปรางค์วัดพระราม พระปรางค์วัดมหาธาตุ เจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ และเจดีย์ศรีสุริโยทัย  ซึ่งอยุธยาได้รับสืบทอดมาจากอินเดีย ศรีลังกา ก่อนกลายเป็นประเพณีของพระมหากษัตริย์ผู้สร้างวัด ในฐานะธรรมราชา ผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา  

นิทรรศการจัดแสดงในรูปแบบทันสมัย

อีกส่วนจัดแสดงห้ามพลาดในอาคารเครื่องทองอยุธยา  นายสมพจน์ แนะนำว่า เป็นผืนผ้าประดับทองคำ สะท้อนความรุ่งเรืองของอยุธยา โดยเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรนำเศษทองเศษเล็กเศษน้อยที่ไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์การใช้งาน พบที่วัดราชบูรณะ บริเวณขอบของโบราณวัตถุมีการเจาะรู ประกอบกับได้หลักฐานจากบันทึกคำให้การของคนร้ายที่ลักลอบขุดกรุนี้ระบุพบม่านทองคำ แต่ปัจจุบันหลักฐานเสื่อมสลายไปแล้ว นำมาสู่การจัดแสดงโบราณวัตถุชุดนี้ โดยการต่อยอด เย็บปัก และสอดประสาน นำมาปะติดปะต่อขึ้นใหม่บนลวดลายสันนิษฐาน อย่างลายหงษ์ทองคำ เทวดาทองคำ จนเกิดเป็นผืนผ้าประดับทองคำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศได้เยี่ยมชมความงาม เพิ่มสีสันในการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

สำหรับอาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา เปิดให้บริการแล้ว โดยระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.2565  ถึงวันที่ 2 ม.ค.2566 ไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่เติมเต็มความสุขให้กับทุกคน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ Night at The Museum

กลับมาอีกครั้งสำหรับบิ๊กอีเว้นท์ของคนรักพิพิธภัณฑ์ เมื่อกรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำหนดจัดกิจกรรม "ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ" Night at the Museum ในเทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน

บูรณะวัดไชยวัฒนารามนำชีวิตชีวาสู่มรดกโลก

วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา งดงามทรงคุณค่า เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของกรุงศรีอยุธยาอดีตเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นโบราณสถานสำคัญของอยุธยา และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่โดย

'4วัด1วัง'เที่ยวมรดกโลกอยุธยายามราตรี

กระแสตอบรับดีสำหรับโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ยกระดับท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีเปิดโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็น 5 แห่ง ประกอบด้วย 

ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ

ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา  ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

โบราณสถานเวียงกุมกามเสียหายหนักจากน้ำท่วม

7 ต.ค.2567 - นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามผลกระทบของสถานการณ์อุทกภัยที่มีต่อโบราณสถานสำคัญของจังหวัด โดยพบว่า พื้นที่เวียงกุมกามที่เป็นเมืองโบราณสมัยพญามังรายปฐมกษัตริย์ล้านนา ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสา

คนรักศิลปฯแย้งผู้ว่าฯทุบปูนปั้นครูทองร่วง ยันผู้เสียหายคือสาธารณะ เตือนผิดม.157

นายวรา จันทร์มณี เลขาธิการชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม อดีตเลขาฯศิลปินแห่งชาติ อังคาร กัลยาณพงศ์ โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีทุบปูนปั้นครูทองร่วง เอมโอษฐ ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี (ตอนที่ 2) ระบุว่า