การดำรงชีวิตของผู้คนในปัจจุบันและอนาคต จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน เพื่อรับมือปัญหาขาดแคลนพลังงานสภาพอากาศแปรปรวน และการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่ ดังนั้นการพัฒนานวัตกรรมโซลูชัน ให้ทุกชีวิตสะดวกสบาย ปลอดภัย เพื่อส่งต่อโลกที่สมดุลให้คนรุ่นต่อไปในอนาคต จึงเป็นสิ่งที่หลายวงการธุรกิจตระหนัก เช่นเดียวกับ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด หรือ เอสซีจี ล่าสุดได้ประกาศเดินหน้าเข้าสู่งจรธุรกิจที่เรียกว่าตอบโจทย์ความต้องการโลกอนาคต พร้อมกับจัดนิทรรศการในชื่อว่า“SCG : The Next Chapter Exposition”
ภายในงานจะจัดแสดงนวัตกรรมโซลูชันแห่งอนาคตที่หลากหลาย อาทิ พลังงานสะอาด สุขภาพและการแพทย์ ดิจิทัลโลจิสติกส์ นวัตกรรมรักษ์โลก สมาร์ทสีฟวิ่ง สมองกลอัจริยะ เป็นต้น โดยงานจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 16 ธันวาคม 2555 ณ สำนักงานใหญ่ 1 เอสซีจี บางซื่อ
รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มนุษย์ก็ต้องมีการปรับวิถีชีวิตให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด19 ต้องการสวมใส่หน้ากากอนามัย การทำงานที่บ้าน การซื้อ-ขายออนไลน์ ซึ่งในส่วนของภาคธุรกิจ ก็ต้องประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ต้นทุนพลังงานสูง จึงได้มีการนำดิจิทัลเทคโนโลยี พลังงานสะอาดมาใช้เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น ขณะเดียวกันต้องดูแลสังคม สิ่งแวดล้อมด้วย
ดังนั้นเป้าหมายของเอสซีจี จึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมโซลูชันต่างๆ ต้องตอบโจทย์กับความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค ที่ครอบคลุมทั้งความประหยัด ปลอดภัย สะดวก รักษ์โลก อาทิ พลังงานสะอาดครบวงจร สุขภาพและการแพทย์ ดิจิทัลโลจิสติกส์ นวัตกรรมกรีน สมาร์ทลิฟวิ่ง และหุ่นยนต์อัจฉริยะ และยังตอบสนองความต้องการของตลาดอาเซียนและโลกในอนาคต จึงมั่นใจได้ว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวนั้น จะสร้างความเติบโตและแข็งแกร่งให้เอสซีจี พร้อมเดินหน้าขยายโครงการลงทุนทั่วโลก ด้วยงบลงทุน 100,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี และก้าวอย่างต่อเนื่องมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050
สำหรับงานนิทรรศการของเอสซีจี ที่มาในธีม The Next Chapter ในครั้งนี้ได้มีการจัดแสดงบูธนวัตกรรมต่างๆ ที่มีความน่าสนใจ และเชื่อว่าจะต้องเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเราในอนาคตอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านอยู่อาศัย นิคมอุตสาหกรรม กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มอาคารขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม ห้างสรรพสินค้า อย่างในด้านพลังงานสะอาด ที่ทางเอสซีจีได้พัฒนา SCG Solar Roof Solutions รูปแบบ Smart Grid Smart Platform เครือข่ายอัจฉริยะจัดการซื้อ-ขายพลังงานสะอาดได้สะดวก และคุ้มค่า ปัจจุบันมีกำลังการผลิตกว่า 195 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งเป้า 3,000 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปี เหมาะสำหรับโรงงาน และนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มอาคารขนาดใหญ่ กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม และห้างสรรพสินค้า หรือการพัฒนา อะเซทิลีนแบล็ค (Acelylene Black) ที่ เอสซีจีซี ร่วมทุนกับบริษัท Denka ประเทศญี่ปุ่น ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นวัสดุผลิตสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง เป็นต้น
มาทางฝั่งด้านสุขภาพและการแพทย์ ซึ่งเอสซีจีพี ได้มีการเข้าถือหุ้น Deltalab ประเทศสเปน ในการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ ที่เก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากร่างกาย และ Cryoinstant หลอดน้ำยาสำหรับเก็บรักษาตัวอย่างเชื้อด้วยความเย็น เป็นต้น หรือการผลิตเม็ดพลาสติกเพื่อการแพทย์ สำหรับผลิตอุปกรณ์การแพทย์และเภสัชกรรม อาทิ กระบอกเข็มฉีดยา สายและถุงน้ำเกลือ ถุงเลือด
ในส่วนของสมาร์ทลิฟวิ่ง (Smart Living Solutions) เพื่อช่วยให้การช้ชีวิตสะดวก สบาย สุขภาพดี ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ อาจจะตอบโจทย์สังคมเมือง และกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว อย่าง เทคโนโลยี DoCare ที่สามารถเชื่อมต่อบ้านกับโรงพยาบาล ส่งข้อมูล ติดตามอาการ-ปรึกษาแพทย์แบบเรียลไทม์ (Real time) พร้อมระบบขอความช่วยเหลือ แจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุผิดปกติ เช่น หกล้ม เป็นลม หรือ SCG Bi-ion และSCG HVAC Air Scrubber ที่ช่วยฆ่าเชื้อในอากาศ และทำให้อากาศถ่ายเท มีการระบายความร้อน ควบคุมผ่านเทคโนโลยีระบบ Trinity เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีบูธอื่นๆ เช่น การขยายบริการของ SCGJWD สู่ดิจิทัลโลจิสติกส์ครบวงจร (Digital logistics) บริการขนส่งและซัพพลายเชนครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียนทั้งทางบก เรือ ราง อากาศ รองรับสินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ อาทิ วัคซีน ยา งานศิลปะมูลค่าสูง รถยนต์ อาหารแช่แข็ง สินค้าอันตราย พร้อมเครือข่ายครอบคลุมทั่วอาเซียนและจีน, นวัตกรรมกรีน (Green Solutions) ลดใช้ทรัพยากร เช่น นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร Fest by SCGP, หุ่นยนต์อัจฉริยะ (Artificial Intelligence Solutions) ที่มีการจัดแสดงของ Smart Farming โดยสยามคูโบต้า อาทิ รถปลูกผักอัตโนมัติ แทรกเตอร์ไร้คนขับ
อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน SCG : The Next Chapter Exposition ได้ตั้งแต่วันนี้ – 16 ธันวาคม 2565 เวลา 08.00-17.30 น. ณ สำนักงานใหญ่ 1 เอสซีจี บางซื่อ ติดตามเพิ่มเติมที่ Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
SX2023 ปลุกกระแสเยาวชน และผู้เข้าชมงาน มากกว่า 3 แสนคน พร้อมขับเคลื่อนทศวรรษแห่งการ “ลงมือทำ” เพื่อโลกที่ยั่งยืน
เป็นต้นแบบของ “Collaboration platform” พลังแห่งความร่วมมือด้านความยั่งยืนระดับโลก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน สำหรับงาน Sustainability Expo 2023 (SX2023) บนแนวคิด "พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก" (Sufficiency for Sustainability)
เอสซีจี เจอพิษราคาพลังงานฉุดกำไรลดฮวบ
เอสซีจี เผยรายได้ปี 65 ยังโตที่ 7% สวนทางกำไรลดฮวบจากราคาพลังงานสูงลิบ ลั่นยังมีแรงสู้ตั้งเป้าเข็นเป้ารายได้ปีนี้โต 10% ยอมรับวิกฤตที่ผ่านมาแรงเกินต้าน หนักสุดในรอบ 15 ปี
SCG โกยรายได้ทะลุ1.4แสนล.ดันบริษัทย่อยรุกโลจิสติกส์
เอสซีจี เผยไตรมาส 3 ทำรายได้ 1.42 แสนล้านบาท ลดลง 7% จากไตรมาสก่อน รับราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัว ความต้องการตลาดลด ชี้เป็นวัฏจักรขาลงของธุรกิจ ด้านรายได้ 9 เดือนยังสดใส โต 15% พร้อมพลิกธุรกิจ รุกสู่ 3 เทรนด์โลก
'เอสซีจี'หารือนายกเวียดนามขยายโครงการลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ 2
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่า เอสซีจีได้เข้าพบนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม