ตระการตาไฟล้านดวงรับปีใหม่ที่ราชบุรี

ถ้าพูดถึงฤดูหนาวต้องมาพร้อมกับงานแสดงไฟ หรือที่เรียกว่า  ILLUMINATION ในบรรยากาศสุดตระการตา ในบ้านเราจะมีการจัดแสดงไฟมากมาย ถ้าโฟกัสที่ภาคกลาง หนึ่งในนั้นคือ  NASATTA  LIGHT FESTIVAL  WINTER  ILLUMINATION 2023 ​การจัดแสดงศิลปะไฟประดับกับประติมากรรมธรรมชาติกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในจ.ราชบุรี ซึ่งจัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 5 เป็นระยะเวลากว่า  2 เดือน ซึ่งปีนี้นักท่องเที่ยวสามารถไปชมความตระการตาของไฟมากกว่าล้านดวงได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.เป็นต้นไป ได้เวลาวางแผนเที่ยวกันแล้ว ไปตื่นตากับไฮไลท์พิเศษของการจัดงานครั้งนี้กัน !!

NASATTA  LIGHT FESTIVAL  WINTER  ILLUMINATION 2023 จัดขึ้นที่ ณ สัทธา อุทยานไทย จ.ราชบุรี แหล่งท่องเที่ยวด้านศิลปะและวัฒนธรรมอันดับต้นๆ ของเมืองอาร์ต ราชบุรี เป็นงานจัดแสดงไฟที่หลายคนตั้งตารอ เพราะแต่ละปีจะมีธีมจัดงานแตกต่างกัน ในพื้นที่ของอุทยานจะเต็มไปด้วยไฟที่แข่งกันส่องสว่างยามค่ำคืน  แต่ละจุดสว่างไสว สวยงามด้วยเทคนิคล้ำๆ  Interactive Light Art , Projector Mapping และ Interactive Display ยังเป็นครั้งแรกกับ Kinetic Lighting Art  ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมกันสนุกสนาน เพลิดเพลิน ท่ามกลางอากาศสบายๆ

งานนี้ ไปมาแล้ว คอนเฟิร์มมาอลังการดาวล้านดวงจริงๆ นักท่องเที่ยวหลายคนใส่ชุดไทยมาเดินถ่ายรูปสวยๆ เข้ากับพื้นที่ที่มีกลิ่นอายอดีต พาย้อนเวลาไปกับสถาปัตยกรรมจำลอง  ที่นี่มีบริการเช่าชุดไทย เครื่องประดับ รองเท้า เรียกได้ว่า เพิ่มสีสันให้กับการเดินเที่ยวที่นี่ได้ด้วย

ปีนี้มีการจัดไฟ 16 จุด พร้อมไฟประดับทางเดินทั่วพื้นที่ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีกระต่าย จุดชมที่ 1 Thai Glorious Era ยุคทอง ลายเส้นไฟประดับร้อยเรียงเป็นภาพวัดอรุณฯ  วัดใหญ่ชัยมงคล  อยุธยา และ วัดราชบพิธฯ ซึ่งเป็นวัดสำคัญในแต่ละยุคสมัย  ตั้งเด่นเป็นฉากหลังของสามมหาราชไทยที่ประดิษฐานเป็นสง่า ณ ลานมหาราชกษัตรา  จุดนี้ประดับด้วยไฟกระพริบกว่า 50,000 ดวง เหมือนแสงหิ่งห้อยยามราตรี ลานด้านหน้าตกแต่งด้วยหลอดไฟก้านยาวเต็มพื้นที่ดุจทุ่งดอกไม้เรืองแสงสื่อความรุ่งเรืองแผ่นดินทอง

จุดที่ 2 Season Change สัมผัสความงามของธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยสระน้ำและทุ่งแสงไฟประดับเปลี่ยนสี ภาพสะท้อนในรูปแบบ Immersive Art & Reflection Light Garden ตลอดทางเดินช่วยปลุกพลังเพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เพิ่มความสุขด้วยการประดับไฟหยดน้ำห้อยเป็นสายจากกิ่งก้านตกแต่งไฟบริเวณลำต้นต้นไม้ใหญ่  

จุดที่ 3 Mikky way สีสันดอกไม้  มอบความสุขด้วยมวลดอกไม้จัดไฟประดับกับซุ้มบุปผาดอกไม้เรืองแสง ให้ความรู้สึกสดชื่น เส้นทางพาไปจุดที่ 4  Thai spirit จิตวิญญาณแห่งสยาม ไฟประดับรอบพุทธศิลป์สมัยอู่ทอง-อยุธยา สว่างไสวไปทั่ว ส่วนฐานพระอุโบสถประดับด้วยทุ่งดอกบัวเรืองแสง ให้ 3 คำ สำหรับบริเวณนี้ สวย สงบ งาม 

จุดที่ 5 Sacred wave คลื่นศักดิ์สิทธิ นักท่องเที่ยวถูกโอบด้วยทุ่งแสงไฟที่ไล่แสงระยิบระยับ  สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้อย่างมีชีวิตชีวา  จัดที่ 6  Blessing blossom แสงเกสร  พบกับหมู่ดอกไม้ยักษ์เบ่งบานกับพรรณไม้เรืองแสง 3 สี  ให้ความรู้สึกอบอุ่น

จุดที่ 7 Magic cave & Glow ถ้ำเวทมนต์และต้นไม้เรืองแสง เป็นไฮไลท์ที่ต้องไปเช็คอินถ่ายภาพในอุโมงค์ถ้ำประดับเส้นสายเรืองแสงท่ามกลางความเย็นยะเยือกในโถงถ้ำและเสียงน้ำตก สร้างความลื่นไหลให้กับพื้นที่ จุดนี้ตรึงใจนักท่องเที่ยว เดินลอดผ่านมาก็พบต้นไทรที่ให้ความร่มรื่น ร่มเย็น  เสร็จแล้วไปต่อกัน จุดที่ 8 Breath of light tunnel อุโมงค์ลมหายใจแห่งแสง อุโมงค์โค้งยาวกว่า 80 เมตร ประดับไฟลายดอกไม้สว่างไสวระยิบระยับตลอดทางเดิน ต้องถ่ายรูปกันรัวๆ 

เห็นปุ๊ปต้องร้องว้าวยกให้จุดที่ 9 Joyful light field  ลานแสงแห่งความสุข พื้นที่จัดแสดงใหม่ต้อนรับปีใหม่ 2566 ทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่เปลี่ยนสีได้ยามค่ำคืน  กับไฟที่ประดับตกแต่งเป็นรูปทรงต่างๆ ทั้งต้นคริสต์มาส กระต่ายรับปีเถาะที่จะมาถึง   ทุ่งหญ้า รวมถึงมีอุโมงค์ไฟให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมกันไม่เบื่อ สมกับชื่อลานแห่งความสุขจริงๆ

นอกจากนี้ ในอุทยานยังมีโซนแสดงไฟอีกมากมาย เช่น Origin of light fest  จุดเริ่มต้นเทศกาลไฟ, Glittering Song, Nymph forest ภูติแห่งป่า , Pray  อธิษฐาน ประดับลูกบอลไฟเปลี่ยนสีกับดอกไม้เรืองแสงที่ลานพระอวโลกิเตศวร ชวนมารับพรดีๆ เป็นสิริมงคลชีวิตเริ่มต้นปีที่งดงาม ฯลฯ เรียกว่า ต้องใช้เวลาในการเดินชมกันยาวเลยทีเดียว

งานประดับไฟกลับมาครั้งนี้  ธรรมวิทย์ ศิริพรเลิศ ผู้บริหาร ณ สัทธา อุทยานไทย  บอกว่า  ปีนี้ทุกจุดชมเป็นไฮไลท์ได้หมด  เราเพิ่มการจัดแสง แม้เป็นจุดเดิม​ ก็เพิ่มเติมและดีไซน์ประดับไฟรูปแบบใหม่​ จะเห็นความอลังการของแสงสีมากขึ้น​ เรียกว่า ไม่ซ้ำกับปีก่อนๆ​ โดยเฉพาะจุดที่​ 9​ ​ จัดทำขึ้นใหม่ ​ใช้สื่อผสมผสาน Projector Mapping ​ การชมจากภาพถ่ายกับมาเห็นด้วยตาตัวเอง ต้องบอกว่า คนละอารมณ์กัน มาแล้วประทับใจกันทุกคน เป็นงานแสดงไฟฝีมือคนไทย ผสมผสานธรรมชาติผสานกับเทคโนโลยีอย่างลงตัว   ทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลอมรวมไว้ ถือเป็น“ซอฟท์ เพาเวอร์” อย่างหนึ่ง ทุกคนสามารถซึบซับธรรมชาติและเสพบรรยากาศความเป็นไทย

“ ราชบุรีเป็นเมืองที่มีการท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งศิลปวัฒนธรรม ธรรมชาติ ณ สัทธา อุทยานไทย  เป็นพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมไทยอันงดงาม งานแสดงไฟตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชั่น ผู้สูงวัยก็ชอบ ปัจจุบันคนชอบถ่ายภาพ บอกเล่าเรื่องราวความประทับผ่านโซเชียล  ทุกคนอยากมีภาพความทรงจำที่สวยงามเก็บไว้ผ่านมือถือและกล้องถ่ายภาพ ” ธรรมวิทย์ ชวนเที่ยวงานที่ราชบุรี

หลังจากรอคอยกันมานาน ตอนนี้ไปเที่ยวกันได้  อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก เดินทางสะดวก กำหนดวันจัด NASATTA  LIGHT FESTIVAL   วันพุธ – วันอาทิตย์ ระหว่างวันที่ 23-27 , 30 พ.ย. และ 1-5 , 7-12 , 14-18 , 21-25 , 28-31 ธ.ค. 2565 และ 1-2 , 4-8, 11-15 , 18-22 ม.ค. 2565 เข้าชมงานไฟ เวลา 18.00 -22.00 น. เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 90 ซม. และผู้พิการชมฟรี  ชวนกันมาเที่ยวฟินๆ ที่ราชบุรี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ห่มสไบเที่ยวงานไฟล้านดวง Nasatta Light Festival

งานแสดงไฟสุดตระการตาฝีมือคนไทยที่ชาวไทยและชาวต่างชาติไม่อยากพลาดชม กลับมาอีกครั้ง นั่นคือ งานแสดงไฟ Nasatta Light Festival ครั้งที่ 6 Winter Illumination ที่ ณ สัทธา อุทยานไทย จังหวัดราชบุรี  เป็นงานไฟปลายปีต้อนรับลมหนาวนี้

ชมดอกไม้ใกล้กรุง รับซัมเมอร์ที่ ณ สัทธา อุทยานไทย

ต้อนรับซัมเมอร์ที่ร้อนแรง อยากชวนไปเติมความสนุกสนานและสดใสในชีวิตให้มากขึ้นในงานเทศกาลดอกไม้หน้าร้อน Nasatta Summer Flower Carnival ครั้งที่ 2 ที่ ณ สัทธา อุทยานไทย จ.ราชบุรี งานจัดแสดงดอกไม้จริงผสานประติมากรรมดอกไม้ประดิษฐ์สุดอลังการที่กลับมาอีกครั้ง