“ส่วนตัวผมมีความศรัทธาหลวงพ่อโตและห้อยพระสมเด็จมาตลอด นั่นก็เพราะท่านได้สร้างพระหลายรุ่นให้ลูกหลานชาวจีนในไทยเป็นการเฉพาะ ท่านให้ความเอ็นดูชาวจีนยุคนั้นมาก ทั้งที่ส่วนใหญ่เหยียดหยามดูแคลน"
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มีนามเดิมว่า โต หรือนามที่นิยมเรียก "สมเด็จโต" "หลวงปู่โต" หรือ "สมเด็จวัดระฆัง" เป็นพระภิกษุมหานิกาย เป็นพระมหาเถระรูปสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไป ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน และมีอายุยืนยาวถึง 5 แผ่นดิน เนื่องจาก ท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 และมีอายุถึงสมัยรัชกาลที่ 5 โดยท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ 4-5
นอกจาก "สมเด็จโต" จะเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีความสมถะ มีจริยาวัตรอันดีงามแล้ว ท่านยังเป็นที่เลื่องลือในเรื่องวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคล ที่เรียกว่า "พระสมเด็จ" ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล 1 ใน 5 ของประเทศไทย และมีราคาซื้อขายในปัจจุบันต่อองค์เป็นราคานับล้านบาท
ในช่วงที่ท่านยังมีชีวิต ไม่ได้มีแต่ชาวไทยเท่านั้นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาท่าน ชนชาวจีนที่อาศัยในกรุงรัตนโกสินทร์ในสมัยนั้น ก็มีความเคารพศรัทธาในสมเด็จโตด้วยเช่นกัน และในโอกาสที่พ.ศ.2565 เป็นปีครบรอบ 150 ปีหลังการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ กลุ่มลูกหลานคนไทยเชื้อสายจีน ที่มีความนับถือศรัทธาในสมเด็จโต จึงได้จัดงาน "โครงการ 150 ปี พุฒาจารย์โต สมเด็จฯ คู่แผ่นดินศรีรัตนโกสินทร์กระชับความสัมพันธ์ไทย-จีนฯ"ขึ้นระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคม 2565 ณ เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ (มาบุญครอง) ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษา นายไชยา ยิ้มวิไล เป็นประธานโครงการ
นายอำพล ถาวรโลหะ หรือ"อาเต๋า" ลูกหลานไทยเชื้อสายจีน ในฐานะรองประธานโครงการ 150ปี พุฒาจารย์โต สมเด็จฯ คู่แผ่นดินศรีรัตนโกสินทร์กระชับความสัมพันธ์ไทย-จีนฯ เผยว่า ประเทศไทยและประเทศจีนมีความสัมพันธ์แน่นแพ้นกันมายาวนาน ทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรมและทางเศรษฐกิจ เหมือนดั่งเป็นประเทศพี่น้องกัน และเนื่องในโอกาสในการครบรอบ 150 ปีของการละสังขารของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระสงฆ์คู่แผ่นดินตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งท่านได้ให้ความเมตตาแก่ทั้งคนไทยรวมถึงคนจีนในยุคนั้นและมีการสร้างวัตถุมงคลเฉพาะสำหรับคนจีนเป็นพิเศษ จวบจนถึงปัจจุบันทั้งชาวไทยและชาวจีนมากมายก็ยังให้ความเคารพท่านมาถึงทุกวันนี้ จึงเป็นโอกาสอันดียิ่งที่จะจัดงานเพื่อรำลึกถึงท่านในโอกาสครบรอบ 150 ปีหลังการมรณภาพ
“ส่วนตัวผมมีความศรัทธาหลวงพ่อโตและห้อยพระสมเด็จมาตลอด นั่นก็เพราะท่านได้สร้างพระหลายรุ่นให้ลูกหลานชาวจีนในไทยเป็นการเฉพาะ ท่านให้ความเอ็นดูชาวจีนยุคนั้นมาก ทั้งที่ส่วนใหญ่เหยียดหยามดูแคลน"อาเต๋าเล่าเรื่องราวในอดีตที่ไม่เคยรู้
อาเต๋า ยังบอกอีกว่า นอกจาก ปีนี้จะครบรอบ 150ปี การละสังขารของสมเด็จโตแล้ว ปีนี้ยังเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 240 ปีแห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วย จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะจัดงานดังกล่าวขึ้น เพราะสมเด็จพุฒาจารย์โต เป็นที่เคารพนับถือทั้งชาวไทยและชาวจีน โดยให้คนไทยและคนจีนได้มีโอกาสแสดงมุทิดาจิตต่อสมเด็จพุฒาจารย์โต ที่สำคัญยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทยและจีน ผ่านเอกลักษณ์ทางศิลปะวัฒนธรรม
"ในงานนี้ จะมีการเปิดตัวพระรูปเหมือนของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) องค์พิเศษ สร้างในสมัยที่ท่านยังมีชีวิต ที่มีอายุกว่า 150 ปี มีขนาดความสูงประมาณ 1 เมตร 60 เซนติเมตร ที่สมเด็จโตท่านได้เมตตาสร้างไว้สำหรับชาวจีนเพื่อนำไปไว้ที่ประเทศจีนโดยเฉพาะ และผมเป็นผู้เก็บและดูแลรักษาไว้ มาจัดแสดงด้วย ทั้งนี้พระรูปเหมือนของสมเด็จพุฒาจารย์ ผมจะดำเนินการส่งมอบให้แก่ประเทศจีนตามปณิธานของสมเด็จโตฯ ต่อไป"อาเต๋ายืนยันความตั้งใจ
ภายในงานยังมีการจัดแสดง พระหายาก พระบูชาและพระเครื่องโบราณ อายุกว่าพันปี เช่น พระพุทธรูปยุค “คันธารราฐ”อายุนับพันปี ,พระพุทธสิหิงค์เนื้อสำริดโบราณ สร้างจากประเทศศรีลังกา ,หลวงปู่ทวด เนื้อว่านตนแบบ ปี 2497, พระกริ่งปวเรศหน้าจีนเนื้อโลหะผสมทองคำแท้ และลูกนิมิตรเนื้อปูนเพชรที่สร้างโดย สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งพระทั้งหมดถือว่าเป็นพระโบราณหายาก หาดูที่ไหนไม่ได้ แต่ถูกนำมาจัดแสดงในงานนี้
"พระเครื่องหลวงปู่โตทุกองค์ต้องทำจาก "ปูนเพชร" เท่านั้น และทุกองค์จะมีลายมือของท่านสลักหลังกำกับไว้ด้วย หรือไม่ก็ต้องมีการทำสัญลักษณ์ไว้ "อาเต๋าให้ข้อสังเกตุการดู พระเครื่องสมเด็จโตของแท้ว่าเป็นเช่นไร
"อำพล ถาวรโลหะ "หรือ "อาเต๋า" เป็นอดีตนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญในการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทย-จีน เมื่อปี พ.ศ. 2521 "อาเต๋า"ได้เป็นหัวหน้าคณะนำทีมผู้สื่อข่าวกีฬาไทยไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการชุดแรก หลังจากที่ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้นำคนไทยคณะแรก ไปเยือนประเทศจีน ซึ่งเป็นการเปิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เรียก"เปิดม่านไม้ไผ่ "โดยเมื่อครั้งที่อาเต๋าไปเยือนจีน มีอดีตรองนายกรัฐมนตรี "สี จง ซวิน(Xi Zhongxun) "แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน บิดาของ "สี จิ้นผิง " ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของจีนให้การต้อนรับ
-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แพทองธาร' หารือทวิภาคี 'สี จิ้นผิง' จีนยันสนับสนุนไทยในเวทีระดับโลกทุกมิติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 15 พ.ย. 2567 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ประเทศเปรู ซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โรงแรม Delfines Hotel
'บาส หัสณัฐ' ปลื้มแฟนจีนแห่ต้อนรับสุดอบอุ่น เผยเตรียมลุยคอนเสิร์ตเดี่ยว
มีโอกาสได้ไปร่วมโชว์ในงาน "Trance Music Festival" ที่กุ้ยหลิน ประเทศจีน เมื่อวันก่อน ทำเอานักแสดงหนุ่มหน้าใส "บาส-หัสณัฐ พินิวัตร์" เจ้าของฉายา "บาสเด็กอ้วนที่แท้จริง" ปลื้มสุดๆ เพราะมีแฟนๆชาวจีนมาให้กำลังใจล้นหลาม งานนี้เจ้าตัวเลยมาเล่าถึงการทำงานที่จีน พร้อมทั้งอัปเดตคอนเสิร์ตเดี่ยวที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้