หากพูดถึงเครื่องหอมที่มีมาแต่โบราณ กลิ่นหอมละมุนไม่เหมือนใคร “น้ำปรุง” เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึง ด้วยคุณสมบัติที่มีความหอมตราตรึงใจและผ่อนคลายที่มอบให้แก่ผู้ใช้งาน อีกทั้งน้ำปรุงชั้นดีจะมีความหอมติดทนนานกว่า 6 ชั่วโมง เราจึงพบเครื่องหอมไทยชั้นสูงนี้ใช้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องประทินโฉมสาวชาววัง
ความมีเสน่ห์ของภูมิปัญญาด้านเครื่องหอมชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้สนทนาและชมการสาธิตทำน้ำปรุงจากสารสกัดกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดกับ ครูเอ๋ – ทิวาพร เสกตระกูล ผู้แทนครูภูมิปัญญาท้องถิ่น เจ้าของแบรนด์เทวาภิรมย์ ที่สืบทอดความหอมจากตำรับชาววังที่โรงแรมเดอะระวีกัลยา แบงค็อก โดยเป็นหนึ่งในกิจกรรม KTC PR PRESS CLUB The Secret of พระนคร ตอน”เริงพระนครตะลอนสยามอารยะ”
ทิวาพร เสกตระกูล เจ้าของแบรนด์เทวาภิรมย์ สาธิตทำน้ำปรุง
จุดกำเนิดน้ำปรุงและเครื่องหอมเทวาภิรมย์ ครูเอ๋-ทิวาพร เล่าแรงบันดาลใจมีโอกาสศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนช่างมือในวัง(หญิง) ฝ่ายพระราชฐานชั้นใน ณ พระตำหนักพระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภา และได้เล่าเรียนวิชาความรู้จากครูบาอาจารย์รุ่นเก่า เมื่อเรียนจบตั้งใจที่จะอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาไทยให้คงไว้และเผยแพร่ไม่ให้สูญหาย ด้วยความที่เป็นคนชอบศึกษาประวัติศาสตร์และหลงไหลเครื่องหอมไทย จึงรักษาสิ่งที่งดงามไว้ไม่ให้แค่บันทึกในหนังสือ แต่ยังคงอยู่ในชีวิตคนไทยตลอดไป
“ คนไทยนิยมใช้เครื่องหอมบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ การบูชาด้วยน้ำอบน้ำปรุงเป็นศาสตร์ชั้นสูงอย่างหนึ่ง ถือเป็นการแสดงความเคารพ ทำให้เทพเทวาพอใจ เป็นที่มาของน้ำปรุงและเครื่องหอมเทวาภิรมย์จนทุกวันนี้ โดยใส่ใจและคงรูปแบบดั้งเดิมทุกขั้นตอน “ครูเอ๋-ทิวาพร บอก
ทุกขั้นตอนพิถีพิถันตามภูมิปัญญาไทย
ครูบอกว่า น้ำปรุงเป็นน้ำหอมคนโบราณ แต่ไม่เรียกน้ำหอม เพราะน้ำปรุงเกิดจากกระบวนการทำที่หลากหลาย ทั้งการสกัดกลิ่นหอมของดอกไม้ หมักผสมกับวัตถุดิบต่งๆ เป็นที่มาของชื่อเรียก “น้ำปรุง” อดีตใช้กันในหมู่เจ้านายชั้นสูงเท่านั้น สันนิษฐานมีมาแต่สมัยอยุธยาโดยเรื่องเล่าขุนหลวงหาวัดเล่าถึง สืบทอดมาถึงสมัยรัชกาลที่ 2 นิยมใข้น้ำอบ ต่อมาต่างชาติเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี สมัยรัชกาลที่ 5 เจ้านายในวังใช้น้ำหอม รวมถึงใช้เป็นเครื่องบรรณาการ ของขวัญ ของฝาก
“ ไทยเป็นเมืองร้อนชิ้น น้ำหอมฝรั่งโดนเหงื่อ เกิดกลิ่นน่าเวียนหัว ด้วยภูมิปัญญาไทย เจ้านายผู้หญิงอยากใช้เครื่องหอมฝรั่ง แต่เป็นกลิ่นหอมแบบไทย จึงเป็นที่มาของน้ำปรุง แต่ละตำหนักจะมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งน้ำปรุงชาววังขนานแท้จะสกัดกลิ่นหอมจากใบเนียม ต้นเนียมเป็นพืชล้มลุก กลิ่นหอมคล้ายใบเตย จะให้กลิ่นหอมแรงในช่วงค่ำ “ ครูเอ๋-ทิวาพร กล่าว
สกัดกลิ่นหอมจากใบเนียม
เจ้าของแบรนด์เทวาภิรมย์บอกเคล็ดลับการปรุงกลิ่นน้ำปรุงให้หอมถูกใจ พร้อมลงมือทำน้ำปรุงจากการสกัดกลิ่นหอมดอกไม้หลายชนิด มักใช้ดอกไม้ที่หาได้ง่ายๆ เช่น ดอกมะลิ ดอกโมก ดอกจำปี จำปา กระดังงา กุหลาบ ชมนาด สายหยุด สายน้ำผึ้ง พุทธชาด กระบวนการทำน้ำปรุง ใช้วิธีลอยดอกไม้สดในน้ำสะอาดเป็นเวลาหลายวัน และต้องเปลี่ยนดอกไม้ทุกวัน เพื่อคงกลิ่นหอมไม่จางหาย และได้น้ำปรุงที่มีคุณภาพ ก่อนจะนำน้ำลอยดอกไม้ไปอบควันเทียนซ้ำๆ กันหลายครั้ง
นำน้ำลอยดอกไม้อบควันเทียน
จากนั้นสกัดสีเขียวและกลิ่นหอมจากใบเนียมด้วยเอธิลแอลกอฮอล์ที่ใช้สกัดสมุนไพร เพื่อให้เป้นสารตั้งต้น หมักผสมรวมกับวัตถุดิบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเทศสมุนไพร อย่างมะกรูด พิมเสนจีนอย่างดี เพื่อให้คงกลิ่นหอมสดชื่นมากขึ้น แทรกด้วยน้ำมันจันทน์ น้ำหอม ตรึงกลิ่นด้วยชะมดเช็ดแล้วหมักไว้ไม่ต่ำกว่า 6 – 12 เดือน เพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ยิ่งหมักนานกลิ่นจะยิ่งหอมมากขึ้น ส่งผลให้น้ำปรุงราคาแพง เมื่อได้กลิ่นหอมเต็มที่แล้วจึงนำมาใช้เป็นน้ำหอมฉีดพรมตามร่างกาย
ตรึงกลิ่นด้วยชะมดเช็ด
ระหว่างลงมือทำ เราสัมผัสได้ถึงความประณีตพิถีพิถันและซึมซับองค์ความรู้ภูมิปัญญาด้านเครื่องหอมของบรรพบุรุษไทย กลิ่นหอมของน้ำปรุงวันนั้นยังคงติดตรึงในความทรงจำและส่งกลิ่นหอมคู่คนไทยต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงินรุกเปิด 15 จุดบริการรับสมัครแบบเบ็ดเสร็จ ย่านชุมชน นำร่องพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
เคทีซีอำนวยความสะดวกให้คนทำมาหากินเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เปิดช่องทางใหม่รับสมัคร เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน แบบเบ็ดเสร็จในที่เดียว