แนะอเมริกันเผ่น กบฏเอธิโอเปียรุกหนักจับมือ 9 กลุ่มสู้รัฐบาล

กลุ่มกบฏเอธิโอเปีย 9 กลุ่มจับมือเป็นพันธมิตรต่อสู้เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของนายกฯ อาบีย์ อาเหม็ด ขณะนักรบกบฏจากทิเกรย์รุกคืบเข้าใกล้เมืองหลวง กองทัพเรียกระดมอดีตทหารและกองหนุนเข้าร่วมต่อต้าน สหรัฐแนะพลเมืองอเมริกันเผ่น

นายกฯ อาบีย์ อาเหม็ด อาลี เดินมากับนายทหาร เพื่อร่วมพิธีรำลึกเหยื่อความขัดแย้งทิเกรย์ ที่กรุงแอดดิสอาบาบา เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2564 (Getty Images)

รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรกบฏซึ่งเตรียมลงนามกันที่กรุงวอชิงตันในวันเดียวกันนี้ ประกอบด้วยกองกำลัง 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กองทัพปลดปล่อยโอโรโม (โอแอลเอ) และแนวร่วมปลดปล่อยประชาชนทิเกรย์ (ทีพีแอลเอฟ) ซึ่งทำสงครามกับรัฐบาลของนายกฯ อาเหม็ดมานาน 1 ปี ส่วนอีก 7 กลุ่มนั้นไม่เป็นที่รู้จักนัก

ทีพีแอลเอฟกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า นักรบของพวกเขาเคลื่อนมาถึงเมืองเกมิสซีในภูมิภาคอัมฮารา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงแอดดิสอาบาบาราว 325 กิโลเมตร และกำลังปฏิบัติการร่วมกับโอแอลเอ พร้อมกับคาดคะเนว่า พวกเขาจะสามารถยึดเมืองหลวงได้ภายในไม่กี่สัปดาห์

ทั้ง 9 กลุ่ม ซึ่งตั้งชื่อว่า แนวร่วมเอกภาพแห่งกองกำลังสมาพันธ์และสหพันธ์เอธิโอเปีย กล่าวว่า พวกเขาจับมือกับเป็นแนวร่วมเอกภาพเพื่อย้อนกลับผลกระทบที่เป็นอันตรายของการปกครองโดยอาบีย์ อาเหม็ด ต่อประชาชนเอธิโอเปีย และเพื่อเป็นการตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือและรวมกำลังเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านอย่างปลอดภัยในประเทศนี้

รัฐบาลอาบีย์ ซึ่งประกาศให้กลุ่มทีพีแอลเอฟและโอแอลเอเป็นกลุ่มก่อการร้ายเมื่อเดือนพฤษภาคม กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ขณะนี้เอธิโอเปียกำลังต่อสู้ในสงครามแห่งการดำรงอยู่ และได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของฝ่ายกบฏ ที่ว่าพวกเขาสามารถครอบครองดินแดนได้มากขึ้น โดยคำแถลงกล่าวว่า พวกทีพีแอลเอฟกำลังตกอยู่ใต้วงล้อมและใกล้พ่ายแพ้แล้ว

แม้รัฐบาลจะกล่าวอ้างเช่นนั้น แต่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นออกมาเรียกร้องให้ประชาชนในเมืองหลวงเตรียมอาวุธพร้อมสำหรับการปกป้องที่อยู่ของตน และในวันศุกร์ กระทรวงกลาโหม
ยังขอให้ทหารผ่านศึกและทหารนอกราชการกลับมาเข้าร่วมกับกองทัพ เพื่อปกป้องประเทศจากการสมรู้ร่วมคิดเพื่อให้ประเทศนี้แตกเป็นเสี่ยง โดยกำหนดเส้นตายการลงทะเบียนวันที่ 24 พฤศจิกายน

ความขัดแย้งในเอธิโอเปียเริ่มต้นเมื่อ 1 ปีก่อน เมื่อกองกำลังที่ภักดีต่อทีพีแอลเอฟ ซึ่งรวมถึงทหารบางส่วน บุกยึดฐานทัพในเมืองทิเกรย์ และทำให้อาบีย์ส่งกำลังทหารไปเสริมในภูมิภาคทางเหนือแห่งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว การสู้รบที่ทิเกรย์คร่าชีวิตผู้คนหลายพันคนและทำให้ประชาชนมากกว่า 2 ล้านคนละทิ้งถิ่นฐาน

สถานการณ์รุนแรงทำให้ชาติแอฟริกาและตะวันตกเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มกบฏประกาศในสัปดาห์นี้ว่า พวกเขากำลังเคลื่อนกำลังรุกคืบเข้าใกล้เมืองหลวง

ด้านสถานทูตสหรัฐประจำเอธิโอเปียมีแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ แนะนำให้ชาวอเมริกันออกจากประเทศนี้โดยทันทีที่เป็นไปได้ โดยเป็นการปรับปรุงคำเตือนที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกในสัปดาห์นี้ ซึ่งขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาเอธิโอเปีย และขอให้ผู้ที่อยู่ที่นี่พิจารณาเดินทางออกนอกประเทศ

การประกาศจับมือตั้งพันธมิตรใหม่อาจเป็นความพยายามของทีพีแอลเอฟเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีฐานสนับสนุนกว้างขวางทั่วเอธิโอเปีย กลุ่มนี้เคยตั้งกลุ่มพันธมิตรคล้ายกันนี้เมื่อปลายทศวรรษ 1980 ก่อนการโค่นเผด็จการเมนกิสตู ไฮเลมาเรียม เมื่อปี 2534 ซึ่งทำให้พันธมิตรแนวร่วมประชาธิปไตยปฏิวัติประชาชนเอธิโอเปียในเวลานั้น ปกครองประเทศนี้นานเกือบ 3 ทศวรรษ กระทั่งการประท้วงยืดเยื้อพาให้อาบีย์ก้าวขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2561.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กรุงเทพมาราธอน'ครั้ง35 หนุ่มเอธิโอเปียทุบสถิติ 'พีระพัฒน์'คว้าแชมป์นักวิ่งไทย

สมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท สปอร์ต เซ็นเตอร์ อินเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด จัด “กรุงเทพมาราธอน” ครั้งที่ 35 การแข่งขันวิ่งมาราธอนระดับนานาชาติในประเทศไทย เปิดฉากขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจาก ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วย พลโท สัมพันธ์ ยังพะกูล นายกสมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่ง ประเทศไทย ในฐานะประธานอำนวยการจัดการแข่งขัน และประธานการจัดงาน อีกทั้ง คุณรัชดา สัทธาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สปอร์ต เซ็นเตอร์ อินเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วย คุณ ฐิตพล กาญจนะ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมส่งเสริมการขายน้ำดื่มคริสตัลบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดการแข่งขันและปล่อยตัวนักวิ่ง ณ บริเวณถนนสนามไชย กรุงเทพฯ

ปอดเหล็ก 'เคนยา-เอธิโอเปีย' เผยเหตุผลหลีกทางให้นักวิ่งจีน หลังเกิดดราม่าที่ปักกิ่ง

เกิดเรื่องดราม่าในงานวิ่ง ฮาล์ฟมาราธอน ปักกิ่ง ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปี ที่มีผู้ร่วมงานมากกว่า 2 หมื่นคน จากจังหวะก่อนเข้าเส้นชัยของ เหอเจี๋ย นักวิ่งมาราธอนของจีนเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก แบบค้านสายตาเมื่อในภาพปรากฏว่า นักวิ่ง จากเคนยา และเอธิโอเปีย จงใจไม่วิ่งแซง แถมยังส่งสัญญาณมือให้ เหอเจี๋ย เปลี่ยนตำแหน่งหลายครั้ง