เตือนแอบอ้างแต่ง 'เครื่องแบบตำรวจ' มีโทษหนัก

5 พ.ย.2564 - พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

จากที่ปรากฏเป็นข่าวกรณี มีชายแอบอ้างแต่งเครื่องแบบเป็นตำรวจ ตำแหน่ง รองผู้กำกับการ ไปหลอกลวงหญิงสาวผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อขอร่วมหลับนอน และได้อัดคลิปลับระหว่างร่วมหลับนอนไว้เพื่อนำมาข่มขู่ภายหลัง หากผู้เสียหายรู้ว่าตนไม่ใช่ตำรวจจริง ซึ่งมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ทราบถึงความผิดและอัตราโทษของการแอบอ้างเป็นข้าราชการตำรวจ ดังนี้

1.ผู้ใดแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 5 ปี ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 108

2.ผู้ใดแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ และการทำการใด ๆ อันทำให้ข้าราชการตำรวจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ข้าราชการตำรวจ หรือทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าตนเป็นตำรวจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 110

3.ความผิดตามข้อ 1. และ 2. หากได้กระทำในเขตที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือเพื่อกระทำความผิดอาญา ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 108 หรือ มาตรา 110

4.ผู้ใดใช้เครื่องหมายราชการ โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 มาตรา 6 ประกอบมาตรา 8

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการแสดงภาพยนตร์ ละคร หรือการแสดงใด ๆ ที่ประสงค์จะเผยแพร่ต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ โรงภาพยนต์ หรือสื่อสังคมออนไลน์ ที่ผู้แสดงต้องการแต่งเครื่องแบบตำรวจ หรือใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ สามารถกระทำได้ แต่ต้องให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ แจ้งต่อหัวหน้าสถานีตำรวจในท้องที่ที่จะทำการแสดงทราบ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 111 แต่ทั้งนี้ต้องระมัดระวังเนื้อหาที่ได้แสดง ต้องไม่ทำให้ข้าราชการตำรวจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ข้าราชการตำรวจ มิเช่นนั้นอาจถูกดำเนินคดีได้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นบุคคใดมีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือใช้เครื่องหมายตำรวจ ในการกระทำผิดกฎหมาย หรือหลอกลวงผู้อื่น สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิด ไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน

นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด

เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับ รองผบ.ตร.-ผบช. วาระประจำปี 2567

การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2567 ได้มีมติเห็นชอบบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

'บิ๊กต่าย' สั่งสอบ 'พ.ต.ต.' อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ กระทำอนาจาร

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีเพจดังเผยแพร่ข้อมูลระบุว่า มีนักเรียนนายร้อยตำรวจ ถูกอาจารย์ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสารวัตร (สอบสวน) สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล

เคาะแล้ว! ก.ตร. แต่งตั้ง รองผบ.ตร.-ผบช. 'สยาม บุญสม' ม้ามืดผงาดนครบาล

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 โดยวาระสำคัญ คือวาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) เป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เป็นครั้งแรก

นายกฯ ถึงไทย ‘บิ๊กต่าย’ เข้ารายงานปมร้อน จัดโผแต่งตั้ง รองผบ.ตร- ผบช. 20 พ.ย.นี้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เข้ารายงานนายกฯถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่10/2567 ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เวลา 14.30 น.