‘ชินวรณ์’ รับ ‘สภาล่ม-หว่านข้าวห้องประชุม’ กระทบภาพลักษณ์ บี้ส.ส.รัฐบาล-ฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบร่วมกัน
5 พ.ย. 2564 – ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 2 วันที่ผ่านมา โดยองค์ประชุมล่มตั้งแต่วันแรก และมี ส.ส.หว่านข้าวในสภาฯ ว่า ต้องยอมรับความจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของสภา จะทำให้สภาถูกกล่าวหาเรื่องบทบาทในการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ตนในฐานะที่เคยเป็นประธานวิปรัฐบาล และเคยเป็นประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งขณะนี้ก็เป็นรองประธานวิปรัฐบาล อยากให้สื่อมวลชนและประชาชนเข้าใจว่า ความจริงแล้วในระบบรัฐสภานั้น องค์ประชุมถือเป็นความรับผิดชอบของสมาชิกทุกคน เพราะบัญญัติแห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่า ส.ส.คือตัวแทนของปวงชนชาวไทย และต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่โดยสุจริต ไม่มีการครอบงำใดๆ ฉะนั้น ในเรื่องขององค์ประชุม เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาไม่ถือว่าองค์ประชุมล่ม แต่เนื่องจากมีพรรคการเมืองบางพรรคไม่แสดงตน ทั้งที่นั่งอยู่ในห้องประชุม
นายชินวรณ์ กล่าวว่า อยากฝากความปรารถนาดีกับเพื่อนสมาชิกรัฐสภาว่า เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่ที่สำคัญที่สุดถ้าสมาชิกรัฐสภาไม่เห็นด้วยกับการนำเสนอกฎหมายของคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ก็มีสิทธิที่จะวีโต้หรืออภิปรายคัดค้าน และลงมติว่าไม่เห็นด้วยกับญัตตินั้นๆ และถ้าฝ่ายเสียงข้างมากยังใช้เสียงข้างมากโดยไม่รับฟังเสียงข้างน้อย ฝ่ายเสียงข้างน้อยก็มีสิทธิ์ที่จะวอล์กเอาต์จากที่ประชุม แต่เหตุการณ์เมื่อวานซืนฝ่ายค้านอภิปรายสนับสนุนกฎหมาย แต่พอลงมติก็ไม่ลงมติ ตนคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และได้นำเรียนนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาลคนใหม่แล้วว่า เราจะต้องหารือร่วมกันระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อที่จะให้บรรยากาศของสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่ก่อความเสียหายต่อรัฐสภาโดยภาพรวม
ส่วนประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กรณีการอภิปรายของเพื่อนสมาชิกในช่วงหลังนี้ได้สร้างภาพหรือแสดงดราม่าเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในสภาเมื่อ 40 ปีที่แล้ว มีการจุดตะเกียงบ้าง ขี่ควายเข้าสภาบ้าง แต่ในยุคนี้ไม่เห็นด้วยที่จะเอามีดมากรีดแขนในสภา หรือเอาข้าวมาหว่านในสภา ตนยอมรับว่า ส.ส. เป็นตัวแทนความเดือดร้อนของประชาชน แต่ควรจะนำเสนอเหตุผลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งตัวเลขและข้อมูลมายืนยันต่อสภาหรือมาพูดให้สาธารณชนได้เข้าใจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายให้ประชาชนอย่างไร ดังนั้น อยากขอความร่วมมือกับเพื่อนสมาชิกให้ช่วยกันกอบกู้สร้างภาพลักษณ์ของสภาที่ถูกต้องต่อไป ตนไม่ปกป้องฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่อยากจะปกป้องภาพลักษณ์ของรัฐสภาที่เราจะต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย
“ยอมรับในบทบาทของประธานวิปหลายคนที่ประสบความสำเร็จ ในสมัยที่ผมเป็นประธานวิปรัฐบาลก็สามารถขับเคลื่อนให้สภาฯ ออกกฎหมายได้มากที่สุด ในยุคที่มีนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ โดยได้ออกกฎหมายในสมัยประชุมแต่ละปีเกือบ 100 ฉบับ รวมถึงจัดให้มีการประชุมข้ามคืนก็มีมาแล้ว ดังนั้น เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายเพื่อให้เห็นว่าการออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด” รองประธานวิปรัฐบาล ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลดี๊ด๊า! เปิดทำเนียบฯ รับม็อบเชียร์ 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ
เครือข่ายภาคประชาสังคมฯ ยื่น 1.5 หมื่นรายชื่อ หนุน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ 'รองเลขาฯนายกฯ' รีบหอบส่ง ธปท.ทันที แย้มวันนี้ไม่เลื่อนแล้ว
'อนุทิน' ลุย 'เกาะกูด' ยันของไทย ไม่มีวันยอมเสียดินแดนให้ใคร
'อนุทิน' ลงพื้นที่เกาะกูด ลั่นรัฐบาลนี้ไม่มีวันยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว พร้อมขอบคุณก๋งวัย 92 ปี ยืนยันเป็นของไทย 100%
ม็อบบุกแบงก์ชาติ ยื่นอีก 5 หมื่นชื่อ ขวางการเมืองจุ้นเลือก 'ปธ.บอร์ด'
คปท. ศปปส. และกองทัพธรรม เดินทางมาชุมนุมหน้าแบงก์ชาติ เพื่อคัดค้านไม่ให้การเมืองเข้าแทรกแซงครอบงำ ธปท.
เต้น เล่าสมัยรุ่งเรืองโดน ’พธม.’ ปิดล้อม จนเป็นโฆษกนอกทำเนียบ บอกผ่าน 16 ปี กลุ่มเดิมยังโจมตีรัฐบาลอยู่
นายกฯแพทองธารกำลังจะออกเดินทางไปประชุมเอเปกที่เปรูคืนนี้ ทำให้ผมนึกย้อนหลังเหตุการณ์ไป 16 ปี 20 พ.ย. 2551
'หมอประกิต' กังขารัฐ รายได้ภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเแลกกับนักสูบหน้าใหม่พุ่งกระฉูด
“หมอประกิต” โยนคำถามใหญ่ให้รัฐบาล รายได้ภาษีบุหรี่ไฟฟ้า กับการต้องแลกด้วยจำนวนนักสูบหน้าใหม่ผุดเพิ่มในประเทศ คุ้มค่าหรือชอบธรรมทางจริยธรรมหรือไม่
'หมอวรงค์' ประกาศล่า 1 แสนชื่อคนคลั่งชาติ ยกเลิก 'MOU 44'
'ไทยภักดี' ประกาศล่า 1 แสนรายชื่อคนคลั่งชาติ ยกเลิก MOU 44 แนะรัฐคุยกัมพูชา ลงสัตยาบัน UNCLOS ก่อนเจรจาผลประโยชน์