แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหิม! อ้างชื่อ 'โฆษก ตร.' หลอกโอนเงิน

เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างชื่อ ‘โฆษก ตร.’ ลวงโอนเงิน งัด 3 ข้อหาหนัก ล่าตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

5 พ.ย. 2564 – พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้เสียหาย มาพบพนักงานสอบสวน แจ้งความร้องทุกข์ ว่าถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้โทรหาผู้เสียหาย แล้วแจ้งว่าผู้เสียหายนั้นมีส่วนร่วมในกระบวนการฟอกเงิน หลังจากที่ผู้เสียหายไม่เชื่อ ก็ได้มีการโอนสายให้กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวเป็น “พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์” หรือ “พ.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์” โฆษก ตร. และเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการโอนเงินไปให้กับบัญชีของคนร้าย ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการแอบอ้างชื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ จึงขอให้ผู้ที่ได้รับสายในลักษณะดังกล่าวนี้ “มีสติ อย่าหลงเชื่อ” ตามคำกล่าวอ้างของคนร้าย และอยากแจ้งเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษหนักถึงขั้นจำคุก ตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 209 ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็น “อั้งยี่” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในคณะบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท

มาตรา 210 ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็น “ซ่องโจร” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิด ที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท

มาตรา 342 (1) ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยหากคนร้ายใช้วิธีการสุ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือข้อมูลการติดต่อของผู้เสียหาย หรือโดยไม่ได้เฉพาะเจาะจงผู้เสียหายคนใดคนหนึ่ง จะมีความผิดตาม มาตรา 343 วรรค 2 ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 140,000 บาท

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นตนเองอย่างถึงที่สุด และขอแสดงความห่วงใยกับพี่น้องประชาชน ก่อนจะโอนเงินให้ผู้ใด ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนหากพบว่าถูกหลอกให้โอนเงิน ได้รับความเสียหาย ขอให้ท่านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือ โทร.สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

'อดีตผช.ผญบ.' ยิงกำนันสาวเจ็บสาหัส ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด

'อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน' ใช้อาวุดปืน .38 จ่อยิงกำนันสาว ต.แก่งโสภา จนบาดเจ็บสาหัส กลางงานเลี้ยง ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตหนีความผิด

จับแล้ว! ปู่หื่นล่วงละเมิดหลานสาว 7 ขวบ ซ่อนตัวในคราบผ้าเหลือง

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบ TOP G จับกุม นายหนูกุน หรือจ่อย อายุ 57 ปี

นายกฯ นำยึด 'โทลูอีน' สารตั้งต้นยาเสพติด ล็อตใหญ่ 90 ตัน

'เศรษฐา' ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบับ นำยึด 'โทลูอีน' สารตั้งต้นยาเสพติดล็อตใหญ่กว่า 90 ตัน พบต้นทางเกาหลีใต้ปลายทางเมียนมา กำชับ ตร. ดูแลสวัสดิการเจ้าหน้าที่ หลังเกิดเหตุปะทะ อ.เชียงดาว

เจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะแก๊งค้ายาเสพติด ดับ 1 เจ็บ 1

ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงดาว บูรณาการหน่วยเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เสริมปฎิบัติการ หลังเมื่อคืนวันที่ 11 ก.ค. เวลา 22:00 น. เกิดเหตุยิงกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหวาย