2วัคซีนฝีมือคนไทย 'ChulaCov-19 mRNA' กับ 'ใบยา'ของจุฬาฯ ใกล้สำเร็จ

ปลัดอว.เผยรัฐบาลหนุนเต็มที่ครม.อนุมัติงบฯให้อีก3,625ล.ทดลองระยะ3คาดใช้จริงกลางปี65

นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ปลัด อว.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติงบประมาณในส่วนโครงการของ อว.จำนวน 2 โครงการที่เกี่ยวกับการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด -19 ที่พัฒนาโดยนักวิจัยไทย โครงการแรก ได้แก่โครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ChulaCov- 19 mRNA ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อทำการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 และการผลิตเพื่อขึ้นทะเบียนวัคซีน ซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ให้ความเห็นชอบ วงเงิน 2,316.8 ล้านบาท และโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันวัคซีนจากใบยา (Baiya SARS-CoV-2 VAX1) ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักวิจัยไทย จากบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด และคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการผลิตและทดสอบวัคซีนทางคลินิกในมนุษย์ระยะที่ 3 วงเงิน 1,309 ล้านบาท รวมสองโครงการเป็นเงิน 3,625.8 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จุฬาฯ จะเร่งดำเนินการพัฒนา ผลิตและทดสอบให้ผ่านในระยะต่างๆ ตามเกณฑ์มาตรฐานสากลต่อไป

“รัฐบาลได้สนับสนุนงบฯ เต็มที่ให้สามารถที่จะผลิตวัคซีนโควิดในประเทศได้ รวมทั้งทดสอบประสิทธิภาพ ขึ้นทะเบียน และนำมาใช้ได้ครบวงจรในทักขั้นตอน โดยวัคซีนทั้งสองชนิดนี้จะช่วยเสริมความมั่นคงทางวัคซีนของประเทศ มีเป้าจะขึ้นทะเบียนได้ประมาณกลางปี 2565 ซึ่งคาดว่าจะผลิตได้ไม่น้อยกว่า 60 ล้านโดส แน่นอนว่าเมื่อเราสามารถพัฒนาวัคซีนและผลิตด้วยตัวเองในทุกระยะ รวมทั้งสามารถดัดแปลงและปรับวัคซีนให้ครอบคลุมเชื้อซึ่งจะกลายพันธุ์ต่อไปเรื่อยๆ ประเทศไทยก็จะสามารถรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือเชื้ออื่นๆ ได้ในอนาคต” ปลัด อว.กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือนภัยคนใช้รถ จับ 2 โจรแดนมังกร ตระเวนลักทรัพย์ตามลานจอด

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.7

ครม.อนุมัติร่างประกาศ มท. กำหนดจำนวนคนต่างด้าวขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ.