'เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกรุงชิง' หนานฝนแสนห่า ความงามกลางป่าดงดิบ

น้ำตกกรุงชิง ชั้นที่ 2 หนานฝนแสนห่า

ใครที่รักการท่องเที่ยวผจญภัยไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่จะได้ลองไปเปิดประสบการณ์เดินป่าที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกรุงชิง  อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางป่าดงดิบหนาแน่น รายล้อมไปดูภูเขาของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมและมีความสำคัญต่อผืนป่าเขาหลวงอย่างมาก

ทางเดินลงสู่ชั้นที่ 2 ก่อนหน้านี้คือชันสุดๆ

น้ำตกกรุงชิง ชื่อนี้นั้นสันนิษฐานว่ามาจากต้นชิง ซึ่งเป็นไม้ประจำถิ่นที่มีอยู่เยอะ ภายในป่าแห่งนี้ยังมีพืชพรรณไม้นานาชนิด เป็นที่อาศัยของสัตว์เล็กสัตว์น้อย ทั้งมดยักษ์ปักษ์ใต้ ปูภูเขา และกลุ่มนกหลากหลายพันธุ์ ที่เหล่านักดูนกจะต้องมาที่นี่สักครั้ง  และเมื่อก่อนเบื้องหลังพื้นป่าแห่งนี้มีร่องรอยประวัติศาสตร์ที่อยู่อาศัยของพรรคคอมมิวนิสต์อีกด้วย

ทางเดินบันไดสู่น้ำตกกรุงชิงชั้นหนานฝนแสนห่า
ทางเดินปูนออกกำลังขาขึ้นเนินเขา

ก่อนจะเข้าไปถึงน้ำตกกรุงชิงที่มีถึง 7 ชั้น ระหว่างทางจึงเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีระยะเดินเท้าไป- กลับรวม 8 กิโลเมตร ทำให้ได้ความรู้เรื่องระหว่างทาง ซึ่งเมื่อก่อนทางเดินนั้นอาจจะชำรุด ทรุดโทรมไปบ้างตามกาลเวลา จึงเป็นเหตุผลให้บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป โดยมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ได้เข้ามาปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พัฒนาระบบและติดตั้งป้ายสื่อความหมายจำนวน 13 จุด และจัดทำแอปพลิเคชั่น กรุงชิง Vitual Nature Trail 360 องศา เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกรุงชิงผ่านระบบออนไลน์ พร้อมพาคณะสื่อลงพื้นที่สัมผัสธรรมชาติของน้ำตกกรุงชิงเมื่อเดือนที่ผ่านมา

ปูภูเขา

เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป และประธานกรรมการ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า เล่าว่า เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกรุงชิง มีความสำคัญในการทำหน้าที่เป็นป่าต้นน้ำของภาคใต้ มีความหลากหลายทางระบบนิเวศ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จึงระดมความคิดพร้อมกับการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ในการเข้ามาปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ โดยบริเวณที่ปรับปรุง อาทิ ทางเดินปูนข้ามน้ำ ซึ่งมีการทำร่องน้ำเพื่อให้ปลาได้ว่ายผ่าน ทางเดินบอร์ดวอร์คระยะสั้นอ้อมแนวหลุมยุบ เพราะมีการกัดเซาะของน้ำบ่อยครั้ง ซ่อมแซมศาลาพักระหวางทาง 3 ศาลา ทางเดินทรายล้างและราวจับที่แข็งแรง และระเบียงถ่ายภาพ และระเบียงชมน้ำตกชั้นที่ 2 หนานฝนแสนห่า นอกจากนี้ในระหว่างทางยังมีนักสื่อความหมายที่จะเป็นผู้นำทางพร้อมกับให้ความรู้ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ของเส้นทางระยะยาวต่อไปในอนาคต

หลุมขวาก

แรกๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นปนกังวลว่าจะเดินไหวไหม เพราะเป็นครั้งแรกของเราที่ได้มาน้ำตกกรุงชิง และฝนในวันนั้นก็ทำท่าจะมาเป็นอุปสรรค ดังนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมเบื้องต้น และย้ำว่าสำคัญมาก ก็คือ ถุงกันทาก สวมใส่รองเท้าที่เหมาะกับการเดินป่า สวมใส่เสื้อแขนยาว เลือกเป้หรือกระเป๋าเล็กๆสักใบไว้ใส่น้ำ ข้าว ยาดมต่างๆ เสื้อกันฝน และถุงใส่ขยะด้วยนะ

ทางเดินปูนออกกำลังขาขึ้นเนินเขา

ข้อควรรู้ระวังอีกอย่างคือ ต้นไม้มีพิษที่จะพบได้ตามข้างทาง ได้แก่ต้นตำแยช้าง ต้นเล็ก เปลือกสีเทา ใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ส่วนที่เป็นพิษจะอยู่ตรงขนหรือเกล็ดตามใบ หรือช่อดอก  และต้นกะลังตังช้าง ที่จะมีใบรูปไข่ปลายแหลม ต้นจะเป็นพุ่มเล็กๆ ส่วนที่เป็นพิษจะอยู่ที่ขนตามลำต้น กิ่ง ใบ หากโดนทั้ง 2 ต้น จะมีผืนคัน ปวดแสบปวดร้อน ผิวหนังไหม้ หากมีอาการต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

ต้นชิงรับแสงแดดยามสาย

เมื่อพร้อมแล้วเดินเท้าเข้าไปก็จะเจอกับจุดให้ความรู้และสภาพพื้นที่ป่า พร้อมกับทำความรู้จักกลุ่มนกที่เราอาจจะได้เจอ เช่น นกพญาปากกว้างเล็ก นกเขียวปากงุ้ม นกกระเต็นสร้อยคอน้ำตาล  นกหัวขวานแคระอกเทา นกหัวขวานแดง นกเค้ากู่ นกเงือกปากดำ นกเงือกหัวหงอก เป็นต้น พี่เชษฐ์ ชาวนบพิตำ ทำหน้าที่นักสื่อความหมายและผู้เชี่ยวชาญการส่องนก เล่าว่า ที่นี่เป็นแหล่งดูนกที่มีหลากหลายพันธุ์มาก และนักดูนกก็นิยมมาส่องนกกันบ่อย ส่วนสภาพพื้นที่ป่าดิบชื้น ทำให้มีฝนตกบ่อย ไม่ได้ตกตามฤดูเหมือนป่าอื่นๆ จึงมีทากอยู่บ้าง อากาศก็จะไม่ร้อนมาก และยังมีกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ปกคลุมกันแดดได้ดีเลย

ต้นหลุมพอ

เดินมาเรื่อยๆถึงจุดที่ 1. ปลือกไม้ ซึ่งเป็นเปลือกของต้นแลนบานต้นใหญ่ จะมีลักษณะเปลือกแตกเป็นเกล็ดๆ ป้องกันสัตว์ปีนขึ้นมา ส่วนจุดที่ 2. เฟินต้น ภาคใต้เฟินต้นส่วนใหญ่ที่พบ คือ มหาสดำ ซึ่งมีอายุมาหลายสิบปี เดินมาได้สักพักพี่เชษฐ์เริ่มให้สังเกตตามทางเดินเพราะเรามาถึงจุดที่ 3.ปูภูเขา ที่สันนิษฐานว่ามีการพบครั้งแรกที่นี่ โดยอ.ไพบูลย์ นัยเนตร นักอนุกรมวิธานไทยด้านสัตว์กลุ่มปู  เราต่างพากันส่องตามรูปู จนได้เห็นก้ามโตสีเหลืง ก่อนที่มันจะรีบหลบเข้าไปในรูทันทีหลังจากได้ยินเสียงเท้าเดิน

ทางเดินไม้ สะดวกกันลื้นได้ดีเลย

จุดต่อไปที่เรากำลังจะไปถึงและต้องเลี้ยวออกนอกเส้นทางเล็กน้อย คือจุดที่ 4.จากป่าสมบูรณ์ สู่เส้นทางยุทธศาสตร์ คือหลุมขวาก ซึ่งเป็นกับดัก จากภูมิปัญญาของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยหลุมจะลึกมากและภายในหลุมจะปักด้วยไม้แหลมที่เหลามาจากต้นหลาวชะโอน ปัจจุบันสภาพหลุมตื้นเขินพอสมควร เจ้าหน้าที่จะต้องมีการสำรวจป่าด้วย เพราะเดินๆไปอาจจะตกหล่นไปบางหลุมได้  จุดที่ 5. หุ้นส่วนที่ยั่งยืนในผืนป่า คือ ต้นไทร ทุกคนต้องรู้จักแน่นอน ลำต้นขนาดใหญ่ สูงชะลูดเลยทีเดียว ไม่ไกลมากก็ถึงจุดที่ 6. ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ อีกจุดที่เราต้องเดินเลี้ยวเข้าป่าไปสักนิดจะเจอกับ ต้นหลุมพอ ไม่ใช่แค่มีรากใหญ่และแข็งแรง ต้นไม้นี้ยังใช้เป็นหลุมหลบภัยได้ดีเพราะขนาดเราเข้าไปยืนรากก็บังไปเกือบครึ่งตัวแล้ว ส่วนลานสนามบาส สถานที่พักผ่อนออกกำลังกาย จุดรวมพลต่างๆ ซึ่งตอนนี้ปกคลุมด้วยหญ้าตามกาลเวลา

 ลักษณะต้นไม้มีพิษ

เอาจริงๆแล้ว ตลอดทางเดินเรามองหามดยักษ์อยู่เป็นระยะแต่ก็ไม่ยังพบ จนมาถึงจุดที่ต้องเจอแน่ๆเพราะป้ายติดไว้คือ จุดที่ 7 มดยักษ์ปักษ์ใต้ มดขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมีขนาดยาวถึง 2.5-3 ซม. และในผืนป่ากรุงชิงนี้มีมดกว่า 500 ชนิด พอเดินออกมาได้สักพักก็พบเจ้ามดยักษ์กำลังเดินซ้ายทีขวาทีอยู่บนถนนปูนที่เรากำลังเดินอยู่พอดี ขนาดตัวใหญ่กว่ามดธรรมดามาก และสังเกตง่ายเพราะท้องจะมีสีแดงต่างจากมดตัวอื่นๆ  ในจุดที่ 8.พื้นที่ชุ่มน้ำ โดยพื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งน้ำจืด กลางป่ากรุงชิง ทั้งยังมีแมลงน้ำกลุ่ม EPT ที่การันตีได้เลยว่าน้ำมีคุณภาพดีมาก จุดที่ 9. เรื่องราวของไผ่ เพราะจุดนี้จะมีต้นไผ่จำนวนเยอะมาก ส่วนจุดที่ 10.ต้นชิง ต้นไม้ท้องถิ่น ที่จะขึ้นหนาแน่นในป่ากรุงชิง มีลักษณะเด่นคือ มีใบเป็นแฉก วงกลมขนาดใหญ่ ในอดีตยอดชิงสามารถนำมาทำอาหารได้ด้วยนะ จุดที่ 11.หมุนเวียน สู่ความสมดุลจุดนี้ก็จะเจอกับเห็ดป่านานาชนิด จุดที่ 12. เพราะเราคือ ระบบนิเวศเดียวกัน เป็นจุดที่สะท้อนให้เห็นถึงการพึงพาอาศัยกันของป่า สัตว์ และมนุษย์ และจุดนี้ยังได้เห็นน้ำตกกรุงชิงชั้นแรกคือ ชั้นที่ 7 วังเรือบิน และเราก็ได้พักกินข้าวผัดห่อใบเร็ด ไข่ 1 ฟอง ข้าวต้มมัด เป็นมื้อกลางวันท่ามกลางธรรมชาติ

มดยักษ์ปักษ์ใต้

ฮึบ…รวมกำลังใจและกำลังกายสองเท้าก้าวเดินต่อไปยังจุดที่ 13. หนานฝนแสนห่า ชื่อน้ำตกชั้นที่ 2 จากทั้งหมด 7 ชั้นของน้ำตกกรุงชิง ที่เขาบอกว่าสวยที่สุด และระยะก็โหดใช้ได้ ระหว่างทางก็มีทางเดินดิน ทางเดินปูน เดินเพลินๆชมน้ำตกชั้นอื่นๆ ตามข้างทางซึ่งไม่สามารถลงไปได้เพราะความชันของภูเขา มีชั้นที่ 6 ต้นตอ ชั้นที่ 5 หนานจน  ชั้นที่ 4 หนานโจน ชั้นที่ 3 หนานปลิว แต่หาขั้นที่ 1 หนานมัดแพไม่เห็นนะ ระยะทางสุดท้ายก่อนถึงน้ำตกชั้นที่ 2 ก็ทำเอาแข้งขาอ่อนแรงไปเลย เพราะความชันของภูเขา ดีที่มีบันไดคอยอำนวยความสะดวก จากเอ็กโกทำให้เดินง่ายขึ้น ก้าวสุดท้ายวายตาทอดมองไปที่สายน้ำที่ไหลลงมาตรงหน้าแล้ว สวยจนเราลืมไปเลยว่าขาสั่นอยู่ถือว่าคุ้มที่อุตสาห์เดินมาจนถึงจุดหมายจนได้

ต้นไทรสูงใหญ่

แม้จะไม่เคยเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกรุงชิงก่อนที่จะปรับปรุง แต่ทางปัจจุบันที่ได้พัฒนานั้นถือว่าทำให้การเดินป่ามีความสะดวก และคล่องตัวมากขึ้น เพราะระยะตลอด 3 กิโลเมตร ก็มีทั้งทางดินทางปูนทางไม้สลับกันไปให้หวาดเสียวบ้างเป็นสีสันสนุกและมันส์มากๆ ตรงด้านหน้าอุทยานมีน้ำตกน้อยให้เล่นด้วยนะ

อาหารมื้อกลางวัน ข้าวผัดห่อใบเร็ด
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ที่ชั้นหนานฝนแสนห่า


เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' จี้ กกต. คุมเข้มเลือกตั้งนายก อบจ. ปูด 'เมืองคอน' เริ่มซื้อเสียง

'ธนกร' จี้ กกต. คุมเข้มหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. หลายจังหวัด แนะทำงานเชิงรุก จับตา 'เมืองคอน' สู้ดุเดือด ชาวบ้านแจ้งเรียกเก็บบัตรประชาชนหลายพื้นที่ ขอตรวจสอบเข้มโปร่งใส

รพ.ศูนย์การแพทย์ ม.วลัยลักษณ์ สานพลัง สสส. ประกาศความร่วมมือเข้มแข็ง ผสานองค์ความรู้-สร้างนวัตกรรมฐานข้อมูล เตรียมพัฒนาหลักสูตรสร้างเสริมสุขภาพ บรรจุในการเรียนการสอน ม.วลัยลักษณ์

ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือวิชาการ ด้านการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช

'นายกต้อย' ไขก๊อก! อบจ.เมืองคอน อ้างเหตุผลสุดอึ้ง

างกนกพร เดชเดโช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยื่นหนังสือลาออกแล้วจากการปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช