เพจโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ แจงยิบสาเหตุ ดีลรับบริจาค Moderna จำนวน 1.5 ล้านโดสจากโปแลนด์ล่ม เพราะกระทรวงการต่างประเทศไม่ยอมออกจดหมายยืนยันตัวตนให้
2 พ.ย.2564- เพจโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ รายงานความคืบหน้าในเรื่องการพยายามจัดหาวัคซีนทางเลือกตามข้อบังคับของสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไว้ ดังที่ได้เคยเล่าไว้แล้วในบางคราว โดยจะขอสรุปความคืบหน้าของความพยายามจัดหาวัคซีนทางเลือกทั้งที่เป็น mRNA และวัคซีน Protein Based มาให้แก่ประชาชนทั้งหลายในประเทศไทย อีกแรงหนึ่งและอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากที่รัฐบาลทำอยู่โดยผ่านกระทรวงสาธารณสุข ที่พวกเราที่ธรรมศาสตร์ได้พยายามทำกันมาตลอดเกือบสามเดือนมาแล้วเพื่อทราบ ดังต่อไปนี้
- ธรรมศาสตร์ได้ทำ MOU กับเอกชนหลายกลุ่มในการจัดหาวัคซีนทั้งที่เป็น Moderna Pfizer และวัคซีน Protein Based กับเอกชนหลายรายที่จะนำวัคซีนเหล่านี้เข้ามาในประเทศ ในนามของธรรมศาสตร์ โดยค่าใช้จ่าย ค่าขนส่ง และค่าประกันภัยของเอกชนเอง โดยที่ธรรมศาสตร์จะขอรับบริจาควัคซีนในสัดส่วนไม่เกิน 10% มาให้บริการฟรีแก่ประชาชนผู้มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ นอกเหนือจากนั้น ให้เอกชนเหล่านี้สามารถนำไปให้บริการโดยคิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประสงค์จะรับวัคซีนได้ ในขณะนี้ได้มีการลงนามใน MOU ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 5 ฉบับ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของภาคเอกชนหลายราย ที่มีความตกลงกับเรา โดยขณะนี้ มีเอกชนรวมสองรายที่แจ้งกับเราว่าจะสามารถนำวัคซีน Moderna ที่ได้ประสานงานสั่งซื้อจากผู้ผลิต ทั้งในสเปนและสหรัฐอเมริกา รายละประมาณ 2-3 ล้านโดสเข้าใช้ในประเทศได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้
- ในส่วนการประสานงานขอรับบริจาควัคซีน Moderna ซึ่งยังมีอายุใช้งานได้ถึงเดือนเมษายน 2565 จำนวน 1.5 ล้านโดส จากประเทศในยุโรปตะวันออกนั้น ผู้แทนที่มธ.มอบหมายได้ติดต่อประสานกันกับสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของโปแลนด์ ซึ่งได้แสดงความจำนงค์เป็นลายลักษณ์อักษรในนามของหน่วยงานมายังธรรมศาสตร์โดยตรง เพื่อที่จะบริจาควัคซีนดังกล่าวให้ธรรมศาสตร์ โดยฝ่ายไทยต้องเป็นผู้รับผิดชอบตรวจสอบวัคซีน จัดหาผู้ขนส่ง ประกันภัยการขนส่งและค่าใช้จ่ายในเรื่องโลจิสติคจากคลังเก็บวัคซีนไปยังสนามบินและค่าขนส่งมายังกรุงเทพ ตลอดทั้งค่าประกันภัยความรับผิดในเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นเอง โดยได้มีการติดต่อประสานงานเป็นการภายในกับสถานทูตไทยในวอร์ซอร์ให้ทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น
- ภาคเอกชนผู้แทนธรรมศาสตร์ได้ติดต่อประสานงานในเรื่องการได้รับการอนุญาตจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน การติดต่อเรื่องการจัดส่งวัคซีนทั้งในประเทศโปแลนด์และการขนส่งทางอากาศมายังประเทศไทย การติดต่อผู้รับผิดชอบดูแลเก็บรักษาและจัดส่งวัคซีนในประเทศ ตลอดทั้งการจัดจ้างผู้ตรวจสอบวัคซีนไปตรวจรับรองวัคซีนที่โปแลนด์ ตลอดถึงการประกันภัยผลข้างเคียงของวัคซีนในประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว และในเบื้องต้นได้ติดต่อจองเครื่องบินกับสายการบินระหว่างประเทศ โดยได้กำหนดวันขนส่งออกจากสนามบินในโปแลนด์ไว้ในวันที่ 28 ตุลาคม
- ธรรมศาสตร์ได้รับการประสานจากหน่วยงานผู้บริจาคว่า ฝ่ายผู้บริจาคประสงค์จะให้รัฐบาลไทยโดยหน่วยงานภาครัฐที่มีสถานะเป็นผู้แทนรัฐบาลแจ้งแสดงเจตนาจะรับบริจาค Moderna จำนวน 1.5 ล้านโดสดังกล่าวไปยังรัฐบาลโปแลนด์หรือสถานทูตโปแลนด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลไทยยินดีรับบริจาควัคซีนดังกล่าวจากรัฐบาลโปแลนค์ ธรรมศาสตร์จึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศให้ช่วยประสานการดำเนินการดังกล่าวให้โดยการออกจดหมายยืนยัน โดยได้แจ้งกับผู้แทนของกระทรวงชัดเจนว่า หน้าที่ในการตรวจรับรองวัคซีนและการดำเนินการขนส่งและประกันภัย จะเป็นความรับผิดชอบดำเนินการของธรรมศาสตร์เอง
- หลังจากนั้นธรรมศาสตร์ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากกระทรวงต่างประเทศว่า เมื่อธรรมศาสตร์ซึ่งมีอำนาจดำเนินการได้ตามข้อบังคับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ได้เป็นผู้เจรจาตกลงกับหน่วยงานของรัฐในโปแลนด์อยู่แล้ว เห็นควรให้ธรรมศาสตร์เป็นผู้ดำเนินการเองต่อไป และเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบรับรองคุณภาพวัคซีน ธรรมศาสตร์ควรจะหารือกับกรมควบคุมโรคของประเทศไทยโดยตรง
- เมื่อไม่สามารถได้รับจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแจ้งยืนยันการยินดีรับบริจาค ไปยังรัฐบาลโปแลนด์โดยตรง เพื่อรับรองการประสานงานกับธรรมศาสตร์ ซึ่งมีฐานะเป็นเพียงหน่วยงานของรัฐในประเทศไทยภายในวันที่ 31 ตุลาคม ธรรมศาสตร์จึงไม่สามารถยืนยันสถานะของตัวเองว่าเป็นตัวแทนในการรับบริจาคในนามของรัฐบาลไทยได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้น การเจรจาติดต่อ และการทำความตกลงในเรื่องวัคซีน Moderna ที่จะขอรับบริจาคจากโปแลนด์ในครั้งนี้ จึงจำต้องยุติลง และสำนังานสำรองทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลโปแลนด์ คงจะดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนที่Moderna จำนวน 1.5 ล้านโดสนี้ ตามที่เห็นสมควรต่อไป ขออนุญาตรายงานความคืบหน้าและข้อยุติของการขอรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ด้วยข้อสรุปสั้นๆว่า การติดต่อขอรับบริจาคและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยไม่มีการส่งมอบวัคซีนใดๆตามที่ได้มีการประสานงานไว้ และขออภัยผู้คนจำนวนไม่น้อยในประเทศที่รอคอยรับวัคซีนทางเลือกในลอตนี้อยู่ และคอยให้กำลังใจพวกเรามาโดยตลอด
ขอโทษที่พวกเราทำงานที่สำคัญนี้ไม่สำเร็จในเวลาที่มีจำกัด แต่พวกเราก็จะยังคงไม่ท้อถอย และจะใช้ความพยายามในการหาทางให้มีวัคซีนทางเลือกอื่น ๆ ให้มีเข้ามาใช้ได้ในประเทศให้เพียงพอกับความต้องการอย่างเร่งด่วนของผู้คนทั้งหลาย ซึ่งยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่มีวัคซีนไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ในขณะนี้ พวกเราจะทำงานหนัก และจะพยายามต่อไป ในการช่วยเหลือผู้คนและช่วยเหลือสังคมไทยโดยรวม ตามกำลังและความสามารถที่พวกเรามีอยู่ และจะได้รายงานความก้าวหน้าในเรื่องนี้ตามข้อตกลงอื่นๆที่เราได้ทำไว้ ให้ทราบเป็นระยะ ๆ ในโอกาสอันควรต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอยง' เผยสถาการณ์โควิดเปลี่ยนไปมากคำแนะนำก็ต้องเปลี่ยนตาม
ศ.นพ.ยง ภู่รวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก
'คารม' บอกรัฐบาลเฝ้าระวังโรคไอกรนใกล้ชิดผู้ปกครองไม่ต้องห่วง
'คารม' เผยรัฐบาลร่วมบูรณาการเฝ้าระวังโรคไอกรนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในโรงเรียน เน้นย้ำเฝ้าระวัง ติดตามอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่ระบาด ขอผู้ปกครองอย่าเป็นกังวล
'ธีระชัย' ชำแหละกต.ก่อคำถามคาใจ ไม่บอกว่าถ้าเจรจาตาม MOU44 เสี่ยงเสียเกาะกูด 99%
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
'มาริษ' เผยไทยพร้อมต่อยอดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หลังได้ประธานาธิบดีคนใหม่
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างไม่เป็นทางการ ภายหลังผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ 267 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ
'หม่อมกร' เห็นพ้อง 'ปานเทพ' ตอกย้ำ กต.แถลง MOU 44 ขัดกับพระบรมราชโองการโดยชัดแจ้ง
ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าวันนี้ปรากฎหัวข้อข่าวว่า“ปานเทพ ซัด กต.กล้าบังอาจแถลงข่าวตัดตอนพระบรมราชโองการ ร.9 ถามกรมสนธิสัญญาฯ ทำเพื่อประโยชน์รัฐบาลชาติใด”