'รุ้ง' ควงแอมเนสตี้ไทยบุกทำเนียบฯ ยื่น 3 หมื่นชื่อ บี้ 'บิ๊กตู่' เลิกจับม็อบ

‘รุ้ง’ จับมือแอมเนสตี้ไทยบุกทำเนียบ ยื่นเกือบ 3 หมื่นรายชื่อ กดดดันนายกฯ หยุดดำเนินคดีผู้ชุมนุม ปล่อยผู้ต้องขังการเมือง

1 พ.ย. 2564 – ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อม น.ส.ปิยนุช โคตรสาร ผอ.แอมเนสตี้ประเทศไทย นำรายชื่อประชาชน 28,426 รายชื่อ ยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อเรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม และขอให้ปล่อยผู้ต้องขังทางการเมืองที่อยู่ในเรือนจำทุกคน ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง มี นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ร่วมสังเกตการณ์

น.ส.ปิยนุช กล่าวว่า สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ออกปฏิบัติการด่วน เป็นการรณรงค์เชิญชวนสมาชิก นักกิจกรรม และผู้สนับสนุนทั่วโลกและในประเทศไทย ร่วมกันส่งจดหมายเรียกร้องผ่านปฏิบัติการด่วนของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และแคมเปญออนไลน์บนเว็บไซต์ Change.org มอบให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านตัวแทนและรับฟังคำมั่นสัญญาต่อประชาชนในการปฏิบัติเพื่อยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนของทางการไทย เพื่อแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการปราบปรามผู้ชุมนุมโดยสงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทั้งที่มีการควบคุมตัวและลงโทษนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมโดยพลการ ซึ่งพวกเขาเพียงแค่ชุมนุมโดยสงบและแสดงความเห็นทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกินกว่าเหตุและโดยไม่จำเป็นเพื่อสลายการชุมนุม ทั้งนี้แกนนำผู้ชุมนุม ยังถูกปฏิเสธไม่ให้ได้ใช้สิทธิในการประกันตัวหรือเพิกถอนการประกัน และถูกควบคุมตัวในสภาพที่เลวร้าย นอกจากนั้นยังมีความกังวลต่อกรณีการฟ้องคดีต่อผู้ชุมนุมโดยสงบคนอื่น รวมถึงกรณีของรุ้ง ปนัสยา ซึ่งถูกแจ้งข้อหาในคดีอาญาเพิ่มเติมจากการชุมนุมโดยสงบเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

ดังนั้นแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ขอเรียกร้องถึงรัฐบาลไทย 1.ให้ยุติการดำเนินคดีอาญาทั้งปวงโดยทันทีต่อบุคคลที่ตกเป็นเป้าหมาย เพียงเพราะใช้สิทธิมนุษยชนของตนเอง และปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวโดยพลการในขณะนี้ 2.อนุญาตให้บุคคลสามารถแสดงความเห็นของตนและสามารถชุมนุมโดยสงบได้ และไม่กำหนดเงื่อนไขการประกันตัวจนเกินขอบเขตที่อาจเป็นการจำกัดการใช้สิทธิของพวกเขาโดยพลการ 3. ให้ดำเนินการสอบสวนโดยทันที อย่างรอบด้าน ไม่ลำเอียง และโปร่งใสต่อการรายงานที่ว่ามีการใช้กำลังโดยไม่จำเป็นและเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการควบคุมตัวบุคคลและควบคุมการชุมนุมในทุกกรณี ให้นำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการไต่สวน และให้ประกาศใช้แนวปฏิบัติของตำรวจที่สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ รวมทั้งหลักการพื้นฐานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการใช้กำลังและอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

ด้าน น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า เราขอเรียกร้องให้สิทธิประกันตัวผู้ต้องขังที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในคุกตั้งแต่แรก เรื่องทางการเมือง เราต่อสู้กันด้วยอุดมการณ์ และความคิด แต่เมื่อมีคนที่มีอำนาจมากกว่าจับมาจับขังทุกคนที่เห็นต่าง ซึ่งตนคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าละอายต่อชาวโลก และเป็นสิ่งที่น่าอับอายมากๆ เมื่อเราพูดว่าเราเป็นประชาธิปไตย อยากให้เด็กๆ โตมาเป็นอนาคตของประเทศ อยากให้เด็กๆ เรียนเก่งๆ ฉลาดๆ จะได้โตมาเป็นคนที่ดีมีคุณภาพของประเทศนี้ เมื่อเราเรียนมา เรารู้ปัญหา แต่เมื่อเราออกมาพูดคุณก็จับพวกเรา และดำเนินคดีกับพวกเรา เราจึงขอคืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ที่ถูกคุมขังที่อยู่ในเรือนจำ ที่ยังแก้ปัญหา โควิด-19 ไม่ได้ ซึ่งก็ไม่เคยถูกพูดถึง เพราะเป็นแดนสนธยา ถ้าไม่มีคนข้างในออกมาพูดก็คงไม่มีข้อมูลว่าคนในเรือนจำคิดโควิด-19 ไปแล้วกี่คน เราจึงไม่รู้ว่าเพื่อนเราต้องเจอกับอะไรในนั้นบ้าง เราจึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อนเราให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ถ้าเราจะสู้กันทางความคิดก็ออกมาสู้กันข้างนอกดีกว่า อย่าจับใครไปครั้งอีกเลย ฝากรัฐบาลให้คิดดีๆ คิดว่าการที่ทำแบบนี้จึงคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่า พวกเขากลัวความจริง กลัวความผิดของตัวเอง กลัวความน่าละอายของตัวเองจนต้องจับเยาวชนและผู้ออกมาเรียกร้องคุมขัง การต่อสู้ทางการเมืองเราสู้กันได้ด้วยความคิด และการแสดงออก อย่ามาทำแบบนี้กันอีกเลย การดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมไม่มีอะไรดี มีแต่ความอัปยศต่อคนในประเทศ” น.ส.ปนัสยา ระบุ

ด้านนายสมพาศ กล่าวว่า จะรับข้อเรียกร้องของกลุ่มและนำเสนอให้นายกฯ พิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ น.ส.ปนัสยา จะเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้นถนนพิษณุโลก บริเวณแยกนางเลิ้ง ถนนพระรามห้าตั้งแต่แยกวัดเบญ และถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกสวนมิสกวัน ที่จะมุ่งหน้ามาทำเนียบเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปถึงบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลได้ ทำให้ตัวแทนรัฐบาลเดินออกมารับหนังสือบริเวณแยกนางเลิ้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ

วาระแห่งชาติ! 'มาดามแพ' ดูนิทรรศการ 'ผ้าไทยใส่ให้สนุก' ยันออกแบบทันสมัย วัยรุ่นใส่ทำงานได้

ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (

'อุ๊งอิ๊ง' ประชุมเอกอัครราชทูตกงสุลใหญ่-ทีมไทยแลนด์ประจำภูมิภาคอเมริกา ยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย.(ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง)