‘รุ้ง’ ใช้มีดโกนกรีดแขนประท้วงยกเลิกมาตรา 112 บอกเสียเลือดไม่เท่ากับความเจ็บปวดประชาชน ปลุกมวลชนสู้ต่อ ระบุ 3 พ.ย.อาจถูกถอนประกันตัวต้องเข้าเรือนจำอีกครั้ง
31 ต.ค.2564- น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร กล่าวภายหลังจากลงเวทีที่ใช้มีดโกนกรีดแขนประท้วงยกเลิกมาตรา 112 ว่า การกรีดเลือดครั้งนี้ ความเจ็บปวดนี้ไม่เท่ากับความเจ็บปวดของประชาชนที่ทนทุกข์มายาวนาน วันนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเราพร้อมจะสู้และสู้ต่อไป
“วันที่ 3 พ.ย. ที่จะมีการไต่สวนถอนประกัน อาจจะกลับไปในเรือนจำอีกครั้ง แม้จะยาวนานแค่ไหนก็พร้อมจะสู้ ความหวังมีอยู่ทุกแห่งหน ประชาชนมารวมตัวมากเท่าไหร่ความหวังก็มากแค่นั้น ประชาชนจะเป็นผู้บอกได้ว่าประเทศเราจะพัฒนาไปในรูปแบบไหน ข้อเรียกร้องเราจะสำเร็จหรือไม่ในทุกๆข้อฝากประชาชนสู้ไปด้วยกัน”
จากนั้นนส.ปนัสยา ได้ขึ้นรถพยาบาลเพื่อไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ม็อบ3นิ้วมิบังควร เหิม!ส่องไฟฉาย ‘พระพันปีหลวง’
ม็อบ 3 นิ้วเดินขบวน "ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย" กดดันเพื่อไทยไม่จับมือฝ่ายเผด็จการ
ห้ามพลาด! เปิดภาพ ฉากลับ ที่จะไม่ได้เห็นในหนังสารคดีชีวิต 'รุ้ง ปนัสยา'
กรณีเพจเฟซบุ๊ก "สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย" ประชาสัมพันธ์หนังสารคดี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำม็อบราษฎรหรือกลุ่มสามนิ้ว และ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 เรื่อง "The Cost of Freedom"
สมาคมผู้กำกับหนังไทย ตีปี๊บสารคดีชีวิต 'รุ้ง ปนัสยา' เปิดตัวที่นิวยอร์ก หวังได้ฉายในไทย
สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย โพสต์ภาพโปสเตอร์หนังสารคดีของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 โดยระบุว่า ภาพยนตร์แนวสารคดีสั้น เรื่อง “The Cost of Freedom” กำกับโดย
'อี้ แทนคุณ' อนุโมทนา 'พระเพนกวิน' เข้าถึงแก่นธรรม ลดอัตตาสู่ชีวิตใหม่
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการอุปสมบทของ "พระเพนกวิน"
ซวยแล้ว! ศาลออกหมายเรียก 'อานนท์ นำภา' ถูกยื่นถอนประกันเพิ่มอีก 2 คำร้อง
ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.บางโพ ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว นายอานนท์ จำเลย คดีหมายเลขดำ อ.2847/2564 คดีปักหมุดที่สนามหลวง หมิ่นสถาบันฯ
ด้อมส้มผิดคิว! เสียบประจานธุรกิจ ส.ว. ร้านพี่สาว 'รุ้ง' ซวยเจอรีวิว 1 ดาว
จากกรณีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่เรียกว่า "ด้อมส้ม" มีพฤติกรรมล่าแม่มด โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียโจมตี ส.ว. และคุกคามไปถึงครอบครัวและธุรกิจกิจการต่างๆของ ส.ว.