'ทิพานัน' ตอกย้ำรัฐบาลพร้อมรับมือวันประวัติศาสตร์ 1 พ.ย.

“ทิพานัน” ย้ำรัฐบาลมีมาตรการและขั้นตอนพร้อมรับมือเปิดประเทศ ชี้ 1 พ.ย.วันประวัติศาสตร์ของคนไทยร่วมมือกันฟื้นฟู ผวา! ม็อบ 31 ตุลาเคลื่อนไหวกระทบโอกาสประชาชนทำมาหากิน

27 ต.ค.2564 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนว่า มีประชาชนถามมาว่า ถ้าเปิดประเทศแล้วระบาดกลัวไม่มียารักษา ซึ่งได้ให้ความเชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อมของมาตรการรองรับไว้เป็นอย่างดีแล้วในการที่จะรองรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะเดินทางมายังประเทศไทย โดยมีการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ซึ่งชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยขณะนี้ไทยมียาและเวชภัณฑ์ต่างๆ อย่างเพียง พอ เช่น มียาฟาวิพิราเวียร์ 26.2 ล้านเม็ด ยาเรมเดซิเวียร์ 74,284 ขวด และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ภาพรวมคงคลังประมาณ 3-6 เดือนและจัดหาเพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะเข้ามานั้น มีมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ตั้งแต่ต้นทาง คือขั้นตอนของการลงทะเบียนก่อนเดินทาง การตรวจสอบที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และการเดินทางจากท่าอากาศยานจนถึงโรงแรม และการตรวจคัดกรองโควิดในประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้เดินทางเข้าประเทศปลอดเชื้อ และมีความปลอดภัยเมื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยได้เตรียมพร้อมการตรวจคัดกรองโควิดแบบ RT-PCR สำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับผู้เดินทางเข้าในประเทศได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ และครบทุกสายพันธุ์

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า รัฐบาลยังได้สนับสนุนวัคซีนให้จังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวทั้ง 17 จังหวัด เพื่อฉีดให้กับประชาชนอย่างครอบคลุมเพียงพอเพื่อสร้างความมั่นใจอีกด้วย อีกทั้งยังได้กำหนดให้สถานประกอบการที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting โดยประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID Plus มีใบรับรองและ QR Code ซึ่งประชาชนสามารถสแกนตรวจสอบและประเมินร้องเรียนได้ โดยจะมีคณะกรรมการร่วมตรวจประเมินทุก 2 สัปดาห์ พร้อมกับปรับรูปแบบการรักษาพยาบาลที่สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย เพื่อเข้าสู่กาแพทย์วิถีใหม่เพื่อป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาล

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ คนไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 45ประเทศกับอีก 1 เขตบริหารพิเศษ ไม่ต้องกักตัวสามารถเดินทางได้ทุกจังหวัด กลุ่มที่สองคือ มาจากประเทศนอกเหนือจาก 45 ประเทศและ 1 เขตบริหารพิเศษ แต่เข้ามาในพื้นที่นำร่อง 17 จังหวัด กลุ่มนี้ต้องจองโรงแรมในจังหวัดที่เป็น Sandbox ก่อน 7 วัน และเมื่อรู้ผลตรวจ RT-PCR ว่าปลอดโควิดสามารถออกนอกโรงแรมทำกิจกรรมได้ แต่ยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ และต้องตรวจซ้ำอีกครั้งในวันที่ 7
โดยทั้งสองกลุ่ม อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องรับวัคซีนครบโดสและผ่านการคัดกรองโควิดจากต้นทางและในประเทศไทย และกลุ่มสุดท้ายคือที่ไม่ได้ดำเนินการตามกลุ่มที่ 1 และ กลุ่มที่ 2 ก็ต้องเข้ามาแล้วกักตัวตามกำหนดและเงื่อนไขแล้วแต่กรณีไป

“เห็นได้ว่ารัฐบาลได้เตรียมความพร้อมพร้อมรองรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ในทุกภาคส่วนทุกมิติ อย่างเป็นขั้นตอน รอบคอบและรัดกุม พร้อมปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับสถานการณ์ ในขณะที่ภาคเอกชนก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นอีกวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่ทุกภาคส่วน รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่เป็นกำลังสำคัญ จะร่วมมือ ร่วมใจ ในการฟื้นฟูประเทศไทยไปด้วยกัน”น.ส.ทิพานันกล่าวและว่า เป็นห่วงการนัดชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 31 ตุลาคม โดยขอให้เป็นการชุมนุมโดยสงบ ภายใต้กฎหมาย และขอวิงวอนให้ระมัดระวังละคำนึงถึงผลกระทบต่อบรรยากาศและโอกาสที่พี่น้องประชาชนคนไทยส่วนใหญ่จะได้มีโอกาสทำมาหากิน