หาเสียงหนักมาก 'ทอน' ตกใจ! น้ำประปาไหลออกมาเป็นสีขุ่นทองคล้ายชานม

ภาพ:เพจคณะก้าวหน้า

นักการเมืองถูกตัดสิทธิ์ชื่อ 'ทอน' ลงพื้นที่อย่างหนักหน่วง ติดตามการทำงานของเทศบาล ที่หนองบัวลำภู ตกใจ!เห็นน้ำประปาไหลออกมาเป็นสีขุ่นทองคล้ายชานม แนะต้องมีเครื่องมือตรวจวัดค่ามาตรฐานน้ำที่เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นค่ากรด-ด่าง ความเข้มข้นของคลอรีน ความขุ่น

26 ต.ค.2564 - เพจคณะก้าวหน้า รายงานว่า ตลอดทั้งที่ 25 ตุลาคม ที่ จ.หนองบัวลำภู ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไกลก้อง ไวทยการ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ชัน ภักดีศรี กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยคณะทำงานด้านนโยบายน้ำ เดินทางมายังพื้นที่เทศบาลตำบลนาคำไฮ อ.เมือง และเทศบาลตำบลเก่ากลอย อ.นากลาง เพื่อติดตามการทำงานของเทศบาลทั้งสองแห่ง ซึ่งคณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนและได้รับเลือกตั้งมาเป็นฝ่ายบริหาร

ทั้งสองเทศบาลก้าวหน้า ธนาธรได้ร่วมประชุมกับฝ่ายบริหารโดยเฉพาะนโยบายเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาสำคัญคล้ายๆ กันคือ น้ำไม่ได้มาตรฐาน ทั้งระบบน้ำประปาผิวดินและระบบน้ำประปาบาดาล ขณะเดียวกันกำลังการผลิตก็ไม่เพียงพอต่อการใช้ด้วย ซึ่งการพัฒนาส่วนนี้ยังมีอุปสรรคที่สำคัญอีกประการนั่นก็คือเรื่องของงบประมาณลงทุนของเทศบาลที่มีไม่มากพอ

ที่เทศบาลนาคำไฮ ธนาธรได้เดินทางดูกระบวนการผลิตน้ำประปาของเทศบาล พร้อมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กองประปา เพื่ออธิบายทำความเข้าใจร่วมกันถึงแนวทางการทำงานในอนาคตที่ต้องมีการตรวจวัดคุณภาพน้ำให้สม่ำเสมอมากขึ้น และมุ่งไปสู่เป้าหมายการทำให้น้ำประปาสะอาดถึงขั้นดื่มได้ในระยะยาว

ทั้งนี้ ในส่วนของเทศบาลนาคำไฮ ทั้ง 5 หมู่บ้านต่างเข้าถึงน้ำประปาครบทุกหมู่บ้านแล้ว แต่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการที่แตกต่างกัน มี 3 หมู่บ้าน ที่อยู่ภายใต้การบริการจัดการโดยเทศบาล ส่วนอีก 2 หมู่บ้านนั้นเป็นการบริหารจัดการโดยกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้ดูแลเอง ผ่านโครงการ SML

อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่เทศบาลตำบลนาคำไฮดูแล และได้ริเริ่มไปแล้ว คือ การจัดซื้อเครื่องตรวจวัดคุณภาพน้ำประปา อยู่ระหว่างรองบประมาณประจำปี 2565 ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับปรุงคุณภาพของน้ำประปาภายใต้การบริการจัดการของเทศบาลในระยะยาว ดังที่สำเร็จมาแล้วในเทศบาลตำบลอาจสามารถ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด

ขณะที่เทศบาลตำบลเก่ากลอย พบว่าเป็นพื้นที่ซึ่งน้ำประปาไม่ได้บริหารจัดการโดยเทศบาล แต่ทั้งนี้ เทศบาลมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องของน้ำบาดาลเป็นหลัก ซึ่งประสบปัญหาคล้ายกันกับกรณีน้ำประปาในหลายๆ เทศบาล คือคุณภาพของน้ำและปริมาณที่ไม่เพียงพอ

ภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารเทศบาล ธนาธรและคณะได้เดินทางไปดูแหล่งผลิตน้ำบาดาลสองแห่ง คือที่หมู่ 8 และหมู่ 5 โดยที่หมู่ 8 เมื่อเจ้าหน้าที่ไขก๊อกออกให้ดู พบว่าน้ำที่ไหลออกมาเป็นสีขุ่นทองคล้ายชานม ซึ่งชาวบ้านบอกว่าไม่สามารถใช้ดื่มกินหรือกระทั่งซักเสื้อผ้าได้ เดือนหนึ่งมีน้ำใสอยู่เพียง 3-4 วันเท่านั้น ขณะที่หมู่ 5 นอกจากปัญหาเรื่องคุณภาพแล้ว ยังมีปัญหาในเรื่องของปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้งาน ทั้งที่หมู่บ้านนี้มีบ่อน้ำบาดาลหล่อเลี้ยงถึง 3 บ่อ แต่น้ำอุปโภคบริโภคก็ยังไม่เพียงพอความต้องการใช้ จนชาวบ้านต้องเสียเงินซื้อน้ำมาใช้แทน

ธนาธร กล่าวว่า ปัญหาหลักของน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่เทศบาลหลายแห่งทั่วประเทศ คือเรื่องของคุณภาพ ค่าของน้ำที่ไม่ได้มาตรฐานน้ำสะอาด และปริมาณการใช้สูงกว่าปริมาณการผลิต เป็นปัญหาร่วมกันของหลายพื้นที่ การแก้ปัญหาจึงเป็นเรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพให้มีกำลังการผลิตมากขึ้น และการปรับปรุงคุณภาพ ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของงบประมาณของท้องถิ่นนั้นมีอยู่จำกัด ดังนั้น สิ่งที่เทศบาลสามารถเริ่มต้นได้ ในกรณีที่เทศบาลเป็นคนบริหารจัดการน้ำประปาเอง ก็คือการมีเครื่องมือตรวจวัดค่ามาตรฐานน้ำที่เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นค่ากรด-ด่าง ความเข้มข้นของคลอรีน ความขุ่น เป็นจุดตั้งต้นที่จะทำให้เทศบาลรู้ว่าจะต้องบริหารจัดการทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างไรต่อไป

ประธานคณะก้าวหน้า มองว่า เทศบาลต้องเริ่มเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง ในฐานะที่เราคือผู้บริการประชาชน จะได้ตอบประชาชนได้อย่างมั่นใจว่าน้ำประปาของเรามีคุณภาพหรือไม่ และมีอะไรที่ต้องปรับปรุงต่อไป เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตเทศบาล

“ปัญหาร่วมของหลายๆ เทศบาลในวันนี้คือเรื่องของน้ำกินน้ำใช้ ประชาชนในชนบทที่จนอยู่แล้วกลายเป็นว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับน้ำเพิ่มขึ้นมาอีก ทั้งเครื่องกรองน้ำ หรือการซื้อน้ำจากที่อื่นมาใช้อุปโภคบริโภค เรื่องของน้ำอุปโภคบริโภคเป็นสิ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะน้ำประปาหรือน้ำบาดาล เราจึงมีเป้าหมายระยะยาวในหลายเทศบาลที่เรามีโอกาสได้เข้ามาให้คำปรึกษา ที่จะทำให้น้ำประปาดื่มได้ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาขนให้ดียิ่งขึ้น”.