‘บิ๊กตู่’ มอบเงินบริจาคกว่า 20 ล้านบาท สมทบโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19

นายกฯ เป็นประธานมอบเงินบริจาค ให้แก่ ก.อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ จำนวนกว่า 20 ล้านบาท สมทบโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19

25 ต.ค.2564- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานมอบเงินบริจาคบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” ให้แก่ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (โครงการ ChulaCov19) และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข โดยมี ศาสตราจารย์ นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบ ทั้งนี้มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมในพิธี

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เงินบริจาคดังกล่าวมาจากประชาชนทั่วไปและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในบัญชีเงินบริจาค“สำนักงานปลัด-สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” เพื่อสมทบทุนในโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 15,050,000 บาท และเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 5,050,000 บาท 

“นายกฯได้สอบถามถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ด้วยความสนใจ พร้อมย้ำให้เร่งรัดพัฒนาพัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เช่นเดียวกับหลายประเทศที่มีการพัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด-19  ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมนอกจากงบประมาณภาครัฐที่มีอยู่ เพื่อให้การวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ประสบความสำเร็จได้โดยเร็ว พร้อมขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมทั้งภาคประชาชน และภาคเอกชน ที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในครั้งนี้ พร้อมฝากกำลังใจให้ไปยังแพทย์ พยาบาล บุคลากรหน้าด่านทุกคน”