‘ธนกร’ เผยนายกฯพร้อมเข้าร่วมเวทีประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่างวันที่ 26–28 ต.ค.2564 เตรียมเสนอผลักดันการรับมือกับการแพร่ระบาด-ผลกระทบโควิด-19
25 ต.ค.2564- นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 26–28 ต.ค.2564 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นบทสรุปของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของบรูไนดารุสซาลาม ภายใต้แนวคิดหลัก “เราห่วงใย เราเตรียมพร้อม เรารุ่งเรือง” (We care, We prepare, We prosper) ซึ่งถือว่าเป็นปีที่มีความท้าทายในทุกมิติทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ และสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะสถานการณ์ในเมียนมา
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ จะทรงเป็นองค์ประธานการประชุมสุดยอดทั้งหมด โดยมีผู้นำหรือผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียน เลขาธิการอาเซียน ตลอดจนผู้นำของคู่เจรจาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย อินเดีย รัสเซีย และนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกและองค์การการค้าโลกได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16 ในช่วงเริ่มต้นการประชุมเพื่อบรรยายสรุปเกี่ยวกับการบรรเทาผลกระทบของโควิด-19 และการสร้างเสริมความร่วมมือเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตในอนาคต
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมในกรอบอาเซียนทั้งหมดจำนวน 12 การประชุม ตามเวลาประเทศไทย โดยวันอังคารที่ 26 ตุลาคม เริ่มประชุมเวลา 08.00 น. ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 จากนั้นเป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39 การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 22 การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 24 และการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 9
ขณะที่วันพุธที่ 27 ตุลาคม 09.30 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 24 จากนั้นเป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 1 การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 24 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16 ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม เวลา10.15 น. การประชุมระดับผู้นำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ สามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ครั้งที่ 13 จากนั้นเป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 18 การประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย ครั้งที่ 4 และเวลา 15.30 น. พิธีปิดและส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียน
“นายกฯจะหยิบยกประเด็นสำคัญที่จะผลักดัน อาทิ การรับมือกับการแพร่ระบาดและผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักในการหารือของทุกกรอบการประชุม โดยไทยสนับสนุนความร่วมมือในกรอบอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจาเพื่อรับมือการแพร่ระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของโควิด-19 อย่างรอบด้าน การฟื้นฟูและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับการใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อสร้างความสมดุลของสรรพสิ่งในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในยุค “Next Normal” และการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อรับมือกับสภาพภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2565 กัมพูชาจะรับไม้ต่อในการเป็นประธานอาเซียน และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และครั้งที่ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 25 ฉบับ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอยง' เผยสถาการณ์โควิดเปลี่ยนไปมากคำแนะนำก็ต้องเปลี่ยนตาม
ศ.นพ.ยง ภู่รวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก
เปิดข้อมูล ‘ไวรัสโควิด’ สร้างได้ในห้องทดลอง มีจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2018
การสร้างไวรัสใหม่ชนิดนี้จะสามารถครอบคลุมไวรัสที่จะแพร่และเกิดโรคระบาดในมนุษย์ได้ทั้งสิ้น และสามารถที่จะสร้างวัคซีนให้มนุษย์ก่อนได้
ประสบการณ์เฉียดตายของดารารุ่นใหญ่ ‘อัล ปาชิโน’
โควิด-19 เกือบคร่าชีวิตของเขา - อัล ปาชิโน นักแสดงชาวอเมริกัน ล้มป่วยหนักเมื่อปี 2020 หนักมากจนเขาแทบเอาชีวิตไม่รอด
นายกฯอิ๊งค์ สวมเสื้อ 'คุณหญิงพจมาน' ผ้าจากโครงการแม่ฟ้าหลวง ร่วมประชุมอาเซียน
ภารกิจการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ชู 3 ประเด็นถกอาเซียน-ญี่ปุ่น
นายกฯอิ๊งค์ ร่วมเวทีประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น เสนอ 3 แนวทาง 'ดิจิทัล-พลังงานสีเขียว -นวัตกรรม' เพิ่มความร่วมมือระหว่างกัน
นายกฯ ไทยหารือทวิภาคีนายกฯสิงคโปร์
'นายกฯอิ๊งค์' หารือทวิภาคี นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ครั้งแรก จับมือส่งเสริมธุรกิจอาหาร-การท่องเที่ยว พร้อมรับผู้นำสิงคโปร์เยือนไทยอย่างสมเกียรติในปีหน้า