จับตา 26 ต.ค. ศาลแพ่งนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี ‘แม่ชัยภูมิ ป่าแส’ ฟ้อง ทบ.เรียกค่าเสียหาย

แฟ้มภาพ

“ศาลแพ่ง” นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี”แม่ชัยภูมิ ป่าแส” ฟ้องเรียกค่าเสียหายกองทัพบก 26 ต.ค.เวลา 08.30 น. กรณีเจ้าหน้าที่ทหารยิงลูกชายนักกิจกรรมเยาวชนผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองและคนไร้สัญชาติเสียชีวิต

24 ต.ค.2564- มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่า ในวันที่ 26 ต.ค.2564 เวลา 08.30 น. ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลอุทธรณ์ นัดฟังคำพิพากษา กรณีนางนาปอย ป่าแส มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส ผู้ตาย ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนยิงสังหารนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมเยาวชนผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองและคนไร้สัญชาติเสียชีวิต คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง และให้กองทัพบกไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายตามคำฟ้องของมารดานายชัยภูมิ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2560 นายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนชาติพันธุ์ลาหู่ ได้ขับรถยนต์เดินทางพร้อมเพื่อนหนึ่งคน ผ่านด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำอยู่ที่ด่านตรวจค้นยานพาหนะ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า นายชัยภูมิพยายามขัดขืนและทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธมีดและระเบิดขว้างสังหาร เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้จนนายชัยภูมิ จนเสียชีวิตพร้อมอ้างว่า กระทำไปเพื่อป้องกันตนเอง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังอ้างว่า พบยาบ้าเป็นจำนวน 2,800 เม็ด ซ่อนอยู่ในหม้อกรองน้ำของรถยนต์ของนายชัยภูมิอีกด้วย ขณะที่ ศาลจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งเรื่องการชันสูตรพลิกศพนายชัยภูมิ ว่า “พฤติการณ์ที่ตายคือ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 ยิง กระสุนเข้าที่ต้นแขนซ้ายด้านนอกทะลุต้นแขนซ้ายด้านใน และกระสุนแตกเข้าไปในลำตัวบริเวณสีข้างด้านซ้ายเหนือราวนม กระสุนปืนทำลายเส้นเลือดใหญ่หัวใจและปอดจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2562 นางนาปอย ป่าแส แม่ของนายชัยภูมิ ป่าแส จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.2591/2562 โดยคดีนี้รับความช่วยเหลือจากองค์เครือข่ายจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม, Protection International และสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) เพื่อให้ครอบครัวของนายชัยภูมิ ได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่

คดีนี้ ศาลแพ่ง (ศาลชั้นต้น) มีคำพิพากษายกฟ้องมารดานายชัยภูมิ เนื่องจากพิเคราะห์พยานหลักฐานของคู่ความทั้งสองแล้ว เห็นว่าการยิงนายชัยภูมิ ป่าแส จนเสียชีวิต เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของพลทหาร เพื่อป้องกันให้พ้นจากภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมาย จึงไม่ใช่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ ดังนั้น กองทัพบกซึ่งเป็นจำเลยในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด จึงไม่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จึงทำให้มารดาของนายชัยภูมิ และทนายความในคดียังคงตั้งข้อสังเกตหลายประการต่อคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในการให้น้ำหนักการรับฟังพยานหลักฐาน อาทิ การรับฟังประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ การตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือที่ห่อยาเสพติด ที่ไม่มีหลักฐานปรากฏผลการตรวจพิสูจน์ว่า เป็นลายนิ้วมือของนายชัยภูมิ  แต่อย่างใด อีกทั้งยังเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้มีการยื่นอุทธรณ์ในคดีดังกล่าว เพื่อแสวงหาความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของนายชัยภูมิ และสร้างบรรทัดฐานของความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.โต้กัมพูชาบิดเบือน ยันกระสุนคลัสเตอร์มีเป้าหมายทหาร ไม่ใช่ทุ่นระเบิดสังหารพลเรือน

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ได้เผยแพร่ภาพวัตถุระเบิด และถ้อยแถลงของ นายลี ทุจ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา CMAA โดยกล่าวอ้างว่า ไทยมีการใช้กระสุนปืนใหญ่แบบกระสุนคลัสเตอร์ M-46 ในหลายประเด็นดังนี้

กองทัพภาค 2 แจงเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉินที่สุรินทร์ ทหารบาดเจ็บ 4 นาย

อากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ได้ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะปฏิบัติการร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยาน

บันลือโลก! กองกำลังบูรพา ทำลายอาคารฝั่งปอยเปต แหล่งซ่องสุม สแกมเมอร์-พลซุ่มยิง (ชมคลิป)

ทบ. เผยชายแดน จ.สระแก้ว ฝ่ายไทยปฏิบัติการเข้มข้น เผยกัมพูชาโจมตีใส่บ้านเรือน อ.โคกสูง กกล.บูรพา ทำลายอาคาร 2 หลังฝั่งปอยเปต หลังพิสูจน์ทราบเป็นที่ตั้งเครือข่ายสแกมเมอร์-เขมรตั้งพลซุ่มยิง

คืนอธิปไตยสู่มาตุภูมิ! 'แม่ทัพกุ้ง' ผู้แทน ผบ.ทบ. ตรวจแนวรบปราสาทตาควาย-เนิน 350

พลโท บุญสิน พาดกลาง ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ตรวจแนวหน้าการสู้รบ ณ ปราสาทตาควาย และบริเวณ เนิน 350 ในพื้นที่อำเภอ พนมดงรัก จังหวัด สุรินทร์ เพื่อตรวจสภาพพื้นที่จริง หลังถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม พร้อมติดตามผลการปฏิบัติการที่กองกำลังไทยสามารถผลักดันผู้รุกรานและยึดคืนพื้นที่อธิปไตยได้อย่างสมบูรณ์

กองทัพบกประณามกัมพูชา ใช้กำลังโจมตีพลเรือนชายแดน

โฆษกกองทัพบกระบุ การโจมตีชุมชนและบ้านเรือนประชาชนใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการใช้กำลังไม่เลือกเป้าหมาย ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนไทยจำนวนมาก

'หลิว จงอี้' พบกองทัพบก จีนชี้รัฐบาลกัมพูชาเอี่ยวขบวนการ 'สแกมเมอร์' หลายมิติ

หลิว จงอี้ ร่วมหารือกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม เผยรัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ