19 เมษายน 2564 นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้บริษัทฯ ลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH 

โดยธุรกรรมดังกล่าวจะผ่านการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer)  ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 65.00 บาท โดยไม่รวมหุ้นสามัญ INTUCH ที่ปัจจุบันบริษัทฯ ถืออยู่เป็นจำนวน 606,878,314 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.93% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ INTUCH หรือคิดเป็นเงิน 169,058.50 ล้านบาท  ซึ่งจำนวนหุ้นสามัญ INTUCH ที่บริษัทฯจะลงทุนโดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ INTUCH และ/หรือโดยการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือวิธีอื่นใด จะมีจำนวนทั้งหมดไม่เกิน 2,599,631,112 หุ้น หรือ 81.07% 

ด้านนายสมิทธ์ พนมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารสินทรัพย์ธุรกิจในเครือและการลงทุน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ยืนยันว่าบริษัทไม่มีแผนเพิ่มทุน หลังประกาศทำคำเสนอซื้อหุ้น(เทนเดอร์ฯ)บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เนื่องจากบริษัทได้จัดเตรียมวงเงินรองรับไว้หมดแล้ว ทั้งจากกระแสเงินสดของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่หลายหมื่นล้านบาท และยังมีวงเงินกู้ของบริษัทที่มีเหลืออยู่กับหลายธนาคาร รวมถึงล่าสุดมีหลายธนาคารที่ติดต่อเสนอวงเงินให้กับบริษัทหลายแห่ง จึงเชื่อว่าบริษัทจะมีเงินเพียงพอในการทำเทนเดอร์ฯในครั้งนี้

สำหรับการกำหนดราคารับซื้อหุ้น INTUCH ที่ราคา 65 บาทต่อหุ้น บริษัทได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วและเชื่อว่าเป็นราคาที่เหมาะสมกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนวงเงินในการรับซื้อหุ้นทั้งหมดคาดว่าจะใช้เงินรวมประมาณ 200,000 ล้านบาท แต่หากตัดสัดส่วนที่ SINGTEL STRATEGIC INVESTMENTS PTE LTD. ยังคงถืออยู่ใน INTUCH ประมาณ 21% หลังบริษัทดังกล่าวประกาศมีนโยบายถือลงทุนระยะยาวทั้งใน INTUCH และ ADVANC จะทำให้หุ้นทั้งหมดเหลือสัดส่วนประมาณ 50% หรือคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนราว 160,000 ล้านบาท พร้อมคาดว่ากระบวนการซื้อขายดังกล่าวจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนก.ค.64

นายสมิทธ์ กล่าวเพิ่มเติม ว่าบริษัทมีเจตนาลงทุนแค่ INTUCH เท่านั้น เพราะได้เข้าลงทุนมาอย่างต่อเนื่องและปัจจุบันก็มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ราว 18.9% แต่เนื่องจากการทำเทนเดอร์ฯหุ้น INTUCH เกินสัดส่วน 50% ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) บังคับให้บริษัทต้องทำเทนเดอร์ฯหุ้น ADVANC และ THCOM ด้วย 

อย่างไรก็ตามบริษัทได้ขอผ่อนผันไม่ทำเทนเดอร์ฯหุ้น ADVANC และตั้งราคารับซื้อที่ต่ำกว่าราคาตลาดมาก ซึ่งเชื่อว่าคงจะไม่มีใครนำหุ้นมาขายให้กับบริษัท และเตรียมขอผ่อนผันทำเทนเดอร์ฯ THCOM ต่อสำนักงานก.ล.ต. ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลชัดเจนในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

ขณะเดียวกันมีรายงาน บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชันส์ หรือ “singtel” (สิงเทล) ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ถึงกรณีที่ GULF ประกาศการลงทุนในหุ้นทั้งหมดของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH   โดยสิงเทลเปิดเผยว่า มุมมองการเข้าไปลงทุนถือหุ้นใน “INTUCH” และ “ADVANC” ของสิงเทลเป็นการลงทุนในรูประยะยาวเพื่อความยั่งยืนในแบบของ “Strategic Investment”

ขณะเดียวกัน singtel กำลังอยู่ในช่วงของการพิจารณากลยุทธ์ต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ผู้ถือหุ้น INTUCH และ ADVANC ได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้กับทางตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST) ในเวลาที่เหมาะสม

ทั้งนี้บริษัท “สิงเทล โกลบอล อินเวสต์เมนท์” (SINGTEL GLOBAL INVESTMENT) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสิงเทล และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 หรือกว่า 21% ในบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH และถือหุ้นในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ในสัดส่วน 23.32%