การแข่งขันแบดมินตันประเภททีมชิงแชมป์โลก 2018 ทีมชาย "โธมัส คัพ" และทีมหญิง "อูเบอร์ คัพ" ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา รอบรองชนะเลิศ ทีมหญิง ทัพนักตบลูกขนไก่สาวไทย ซึ่งลงสนามรอบนี้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ พบ ทีมชาติจีน ดีกรีแชมป์เก่า 14 สมัย และเป็นการเจอกันในรอบนี้ครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อปี ค.ศ.2012 เป็นสาวแดนมังกรเอาชนะ 3-0 คู่

            ส่วนครั้งนี้ผลปรากฎว่า หญิงเดี่ยว มือ 1 "เมย์"รัชนก อินทนนท์ มือ 4 ของโลก ชนะ เฉิน อู้เฟย มือ 5 ของโลก 2-1 เกม 15-21, 21-9, 21-14 เก็บแต้มแรกให้ทีมสาวไทยได้สำเร็จ และถือเป็นการชนะนักแบดฯ สาวจีนคนนี้ครั้งแรกหลังจากแพ้มาตลอด 4 ครั้งที่เจอกัน ส่วน หญิงคู่ คู่มือ 1 "กิ๊ฟ"จงกลพรรณ กิติธรากุล/"วิว"รวินดา ประจงใจ คู่มือ 8 ของโลก ต้านทานความแข็งแกร่ง เฉิน ฉิงเฉิน/เจี่ย อี้ฟาน คู่มือ 1 ของโลก ไม่ไหว พ่ายไป 0-2 เกม 17-21, 20-22 ทำให้เสมอกัน 1-1 คู่ 

            จากนั้นคู่สาม หญิงเดี่ยว มือ 2 "แน็ต"ณิชชาอร จินดาพล มือ 11 ของโลก พลิกสถานการณ์กลับมา เกา ฟางเจี่ย มือ 32 ของโลก 2-1 เกม 19-21, 21-19, 21-12 ส่งให้ไทยนำ 2-1 คู่ ต้องการชัยอีกคู่เดียวก็จะเอาชนะ แต่คู่สี่ หญิงคู่ มือ 2 "เอิร์ธ"พุธิตา สุภจิรกุล/"ปอป้อ"ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 106 ของโลก แม้จะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถสู้ความเก๋าของ หวง อ่าเฉียง/ถัง จินหัว คู่มือ 260 ของโลก ได้ พ่ายไป 1-2 เกม 26-24, 17-21, 18-21 ทำให้ต้องมาลุ้นต่อในคู่สุดท้าย 

         หญิงเดี่ยว มือ 3 โดย "ครีม"บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธู์ มือ 22 ของโลก ระเบิดฟอร์มสุดยอดไล่ตกเอาชนะ อดีตเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน อย่าง หลี่ เสี่ยวเร่ย มือ 233 ของโลก ขาดลอย 2 เกมรวด 21-11, 21-9 ทำให้ทีมชาติไทย พลิกเฉือนชนะ ทีมชาติจีน 3-2 คู่ สร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงฯได้เป็นครั้งแรกในรอบ 61 ปีนับตั้งแต่มีการแข่งขันรายการนี้ เข้าไปเจอ อดีตแชมป์ 5 สมัย ญี่ปุ่น ที่ชนะ "รองแชมป์เก่า"เกาหลีใต้ 3-1 คู่ ในรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 26 พ.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ทรูวิชั่นส์ ทรูสปอร์ต 7 ช่อง 686 และทรูสปอร์ต เอชดี ช่อง 668 ถ่ายทอดสด

            หลังเกม คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะผู้จัดการทีม กล่าวว่า เป็นความรู้สึกที่เหนือเกินคำบรรยาย และเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายมากที่ทีมของเราก้าวขึ้นไปมาถึงรอบชิงฯ และนับเป็นเกมประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการแบดมินตันไทย โค่นมหาอำนาจอย่างจีน ที่เป็นชาติประสบความสำเร็จมากสุดในรายการนี้ ซึ่งนอกจากฟอร์มการเล่นที่ดีของนักกีฬา และการวางแผนแก้เกมของโค้ชแล้ว สิ่งสำคัญที่คอยช่วยผลักดันนักกีฬาคือกองเชียร์ที่เข้าไปส่งเสียร์ให้กำลังใจในสนามทุกคน เพราะช่วยให้นักกีฬาฮึกเหิม และสู้ไม่ถอย แต่ยอมรับว่า 2 รอบที่ผ่านมาทั้งรอบ 8 ทีม และรอบรองฯ นักกีฬาต้องออกแรงเล่นเกมยาวๆ ทำให้สภาพร่างกายมีความอ่อนล้าไปบ้าง แต่เมื่อได้พักคิดว่าจะทำให้ฟื้นฟูความฟิตได้ดีขึ้นทันรอบชิงฯ ครั้งประวัติศาสตร์ และก็ขอให้ชาวไทยมาร่วมให้กำลังใจนักแบดมินตันไทยอีกครั้ง เพราะมาถึงตอนนี้เรากล้าพูดได้ว่าเราสามารถสู้ได้ทุกทีม และขอให้ชาวไทยทุกคนเป็นกำลังใจให้กับพวกเราด้วย