25 พ.ค. 61 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ถึงกรณีพระพุทธอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย และอดีตแกนนำ กปปส. ผู้ต้องหาคดีตามหมายจับศาลอาญา ถูกคุมขังอยู่ในแดนเดียวกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ว่า  ตนกับพุทธอิสระไม่เคยรู้จักหรือเคยพบปะกันเป็นการส่วนตัว แนวคิดและบทบาททางการเมืองที่พุทธอิสระทำมาก็ไม่เห็นด้วย เคยตอบโต้กันมาต่างกรรมต่างวาระ แต่ว่าเมื่อถูกจับกุมคุมขัง ไม่ได้มีความคิดที่จะแสดงความสะอกสะใจหรือทำให้เกิดความบอบช้ำเพิ่มขึ้น ทุกอย่างว่าไปตามวิถีทางที่แต่ละคนต้องรับผิดชอบเท่านั้น ซี่งการเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็ทราบว่าไปอยู่แดนเดียวกับนายจตุพร ซึ่งคู่นี้คงเจอกันแล้ว เมื่อเช้าไม่ได้ไปเยี่ยมนายจตุพร แต่พื้นที่แดนแรกรับมีอยู่เท่านั้น มีผู้ต้องขังหลายร้อยคน ถึงอย่างไรก็ต้องเจอกัน แต่ไม่ทราบว่าได้พูดคุยทักทายกันแล้วหรือไม่ 

แต่เชื่อย่างหนึ่งว่าคนอย่างนายจตุพร ที่เข้าไปอยู่ก่อน ไม่มีที่จะเข้าไปเกะกะระรานหรือไปแสดงออกให้เจ็บช้ำน้ำใจกัน ที่ต้องพูดอย่างนี้เพราะเห็นข่าวว่าทางราชทัณฑ์แยกให้นอนคงละห้อง ไม่ให้เจอกัน ขอให้สบายใจได้ว่าจะไม่มีการกระทบกระทั่ง เพราะเข้าไปในนั้นอย่างมากก็ต่างคนต่างอยู่ หรืออาจมีการแสดงน้ำใจกันบ้างตามวิสัยของคนร่วมชาติเดียวกัน เอาจริงๆ ไม่ได้มีใครโกรธแค้นกันมาก่อน เพียงแต่คิดไม่เหมือนกัน และยืนอยู่คนละข้างกันทางการเมืองเท่านั้น 

“ผมพูดแทนคุณจตุพรและนปช.ได้ว่าคนไทยและเพื่อนมนุษย์ด้วยกันคงไม่มีใครมุ่งร้ายหมายขวัญกันแน่นอน ผมเชื่อมั่นในวุฒิภาวะและความเป็นลูกผู้ชายของคุณจตุพร ผมห่วงในเรื่องของคนที่ไปเยี่ยมทั้งคู่ คนข้างนอกที่ไปเยี่ยมต้องเจอกันด้วย แต่เชื่อมั่นว่าจะไม่มีการกระทบกระทั่งกัน ขอให้อย่าไปสร้างเหตุการณ์อะไรที่มันกระทบกับคนข้างใน เพราะราชทัณฑ์จะจัดการยาก ทำให้มาตรการเข้าไปเยี่ยมลำบากขึ้น และกระทบกับคนข้างในได้”นายณัฐวุฒิกล่าว 

นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช.  กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ตอนหนึ่ง ว่า ในช่วงสายได้เข้าไปเยี่ยมนายจตุพร ซึ่งทางราชทัณฑ์ได้จัดเวลาให้เยี่ยมคนละช่วงเวลา นายจตุพรอารมณ์ดีเหมือนเช่นทุกวัน ได้สอบถามว่าเป็นอย่างไร นายจตุพรบอกว่าอยู่ห้องติดๆ กัน ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ได้เป็นความลับอะไร โดยอยู่ในแดนเดียวกัน อดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่อยู่ห้องหนึ่ง นายจตุพรอยู่ห้องหนึ่ง พุทธอิสระอยู่อีกห้องหนึ่ง นายจตุพรเล่าว่าเมื่อเช้าได้นำของไปถวายเพราะว่าเขาก็เป็นอดีตพระมาหมาดๆ ในฐานะที่เรียกว่าเป็นซีเนียร์คงจะมีข้าวของอะไรที่ถวายได้ ตนถามว่าเขาเป็นอย่างไรกันบ้างนายจตุพรก็บอกว่าคงอยู่ในระหว่างการปรับตัว ไม่ได้เล่าอะไรมาก ทราบมาจากเจ้าหน้าที่ว่าเขาต้องคอยดูแลคนทั้งคนที่มาเยี่ยมและคนข้างในที่นั่งสมาธิกันตลอดเพราะคงไม่ชินกับสภาพในเรือนจำ เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในเรือนจำคงไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง เพราะมีความทุกข์เหมือนกัน